ฝนซา โควิดลด ม็อบเลิก – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

วันนี้ ๒๑ ตุลาคม “ไทยโพสต์” อายุ ๒๕ ปีเต็มครับ
รุ่งขึ้นก็ก้าวสู่ปีที่ ๒๖
๒๕ ปีบริบูรณ์ ย่างเข้าสู่ ๒๖ ปี สำหรับมนุษย์ คือ เบญจเพส
“เบญจ” แปลว่า “ห้า” “เพส” คือ “ยี่สิบ”

ความเชื่อมีมาตั้งแต่โบราณว่าช่วงอายุ ๒๕ ปี เป็นปีที่ยมบาลหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคอยดูสิ่งที่เราได้ทำไว้ ประกอบกับหากเป็นช่วงที่ดวงตกหรือดวงอ่อนด้วยแล้วก็จะยิ่งทำให้มีเคราะห์หนัก

ในช่วงเบญจเพสนี้จึงไม่ควรทำสิ่งไม่ดีทั้งหลาย รวมถึงต้องระมัดระวัง มีสติรอบคอบ และไม่ประมาทในการใช้ชีวิต
เบญจเพส ยังถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ร้ายก็มี ดีก็เยอะ
แต่ในภาพรวมคือคติโบราณคอยเตือนให้ระวังการใช้ชีวิต

สุดท้ายก็อยู่ที่ตัวทำ

ครับ…เบญจเพส สำหรับไทยโพสต์ กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากพอสมควร “ป๋าเปลว” เคยเกริ่นไปก่อนหน้านี้แล้ว
จากปลายซอยแยกเกษมราษฎร์ ไปก้นซอยประชาชื่น ๔๖

หาง่ายครับจากรัชวิภาเลียบคลองประปา เลี้ยวซ้ายเข้าซอย ๔๖ เป็นซอยประชาชื่นท้ายสุด ไม่มีเลขซอย ๔๗
แถมยังพิเศษใส่บะหมี่สองก้อน เลขซอยบนถนนประชาชื่นมีฝั่งเดียวคือฝั่งตรงข้ามคลองประปาเรียงเป็นตับ ๑-๔๖ ไปเลย ไม่มีซอยคู่ ซอยคี่

ถ้าเผลอเลี้ยวเข้าซอยไม่ทัน แค่เศษเสี้ยววินาทีก็ข้ามคลองบางเขนทะลุไปจังหวัดนนท์แล้ว ต้องยูเทิร์นกลับ เพราะถ้าตรงไปเลี้ยวซ้ายก็เดอะมอลล์งามวงศ์วาน

ฉะนั้นออฟฟิศใหม่ไทยโพสต์อยู่ก้นซอยสุดท้าย ชายขอบกรุงเทพฯ ครับ
แต่เป็นชายขอบที่อยู่ใจกลางเมือง

แฟนๆ ถามกันมาเยอะจะย้ายเมื่อไหร่
เคาะไว้คร่าวๆ ฝ่าดง ฝนตก โควิด ก็ราวๆ ช่วงที่รัฐบาลเปิดให้นั่งในผับ ในบาร์ ได้นั่นแหละครับ
กลางพฤศจิกายน ต้นธันวาคม

คุณอนุชิต จุรีเกษ กรรมการผู้จัดการ “พี่บ่น” ของน้องๆ ในกอง บ.ก.นั่งยันนอนยัน ช้าสุดไม่ข้ามไปปี ๒๕๖๕
ปีนี้ฝนเยอะน้ำมาก เพราะปรากฏการณ์ “ลานีญา” กระแสลมพัดจากด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกมายังด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก

แต่กระแสลมเจ้ากรรมมีความรุนแรงมากกว่าปกติ
ทำให้กระแสน้ำอุ่นไหลมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น ส่งผลให้ย่านอาเซียน และออสเตรเลียมีระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และฝนตกหนักมากกว่าปกติ

ในทางตรงข้ามก็เกิดภาวะความแห้งแล้งตามแนวชายฝั่งทวีปอเมริกาใต้
ฉะนั้นหลายพื้นที่ในประเทศไทยสองสามเดือนมานี้ทุลักทุเลจากน้ำท่วม

ก็เป็นอันเข้าใจกันนะครับเพราะ “ลานีญา”
ไม่ใช่เพราะประเทศไทยมีนายกฯ ชื่อ “ลุงตู่”

วานนี้ “ลุงตู่” ควง “ลุงป๊อก” ไปตรวจน้ำท่วมลุ่มเจ้าพระยาช่วงสิงห์บุรี แจกถุงยังชีพให้ชาวบ้าน

ถามว่าสร้างภาพหรือเปล่า “ลุงตู่” ตอบทันควัน “รัฐบาลมีความเป็นห่วงประชาชนทุกคน ขอให้ทุกคนระวังสัตว์ร้ายที่จะมากับน้ำโดยเฉพาะงูด้วย”

เรี่องน้ำท่วมกับนายกฯ หนีกันไม่พ้นครับ แทบทุกนายกฯ ต้องไปตรวจน้ำท่วม
ลองไม่ไปซิ ชาวบ้านได้ด่ากันขรม

แต่ก็มีบ้างพวกผ่าเหล่า เอาแต่ด่านายกฯ ไปทำไมเกะกะคนทำงาน
แทบทุกประเทศครับ ยามมีภัยพิบัติ ผู้นำต้องลงพื้นที่ถึงประชาชน

ถ้าคิดแบบอิจฉาทางการเมืองก็จะบอกว่า สร้างภาพ
แต่ถ้าเป็นผู้ประสบภัย แล้วผู้นำประเทศไปดูสารทุกข์สุกดิบถึงหน้าบ้าน….เชื่อเถอะ ต้องสะอื้นตื้นตันพานน้ำตาจะไหลริน

ไปสิงห์บุรีเที่ยวนี้ “ลุงตู่” มีลูกเล่นเยอะกว่าเดิม
ทั้งมินิฮาร์ต ไอเลิฟยู รับส่งกับชาวบ้านแทบไม่ทัน

“เสียใจที่เห็นชาวบ้านเดือดร้อนจากน้ำท่วม ไม่มีใครมีความสุข ถ้าประชาชนยังเดือดร้อน นายกฯ มีความสุขไม่ได้”
ในแง่ความรับผิดชอบ นายกฯ หนีไม่พ้นครับ

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในแผ่นดินไทย ภัยพิบัติ อุบัติภัย สารพัดภัย ล้วนอยู่ในความรับผิดชอบของผู้นำประเทศทั้งสิ้น
สุดท้ายก็อยู่ที่การบริหารจัดการ

เช่น เมื่อปี ๒๕๕๔ “ยิ่งลักษณ์” เพิ่งจะนั่งเป็นนายกฯ ได้ไม่กี่เดือนก็เจอน้ำท่วมใหญ่ จะมาอ้างหนูไม่รู้ หนูเพิ่งจะมา ไม่ได้ เพราะ ณ วันที่รับตำแหน่ง คือวันที่ทำหน้าที่
มันเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย

“ลุงตู่” ก็เช่นกัน ๗ ปีกว่ากับตำแหน่งผู้นำประเทศ ทำไม่ได้แม้วันเดียวที่จะบอกว่า ขอพักผ่อน ไม่ขอรับผิดชอบประเทศ
นอนหลับก็ยังต้องรับผิดชอบ!

ครับ..ฝนเริ่มลด โควิดเริ่มหาย ม็อบเริ่มหมด เป็นบวกกับการเปิดประเทศตั้งแต่ ๑ พฤศจิกายน เป็นต้นไป อะไรต่อมิอะไรก็น่าจะดีขึ้น
การเมืองช่วงนี้ถ้าเป็นไฮโล ก็ช่วงเจ้ามือพักกินข้าว หยุดเขย่าชั่วคราว

เมื่อเดือนที่แล้ว “รองปิยะ ต๊ะวิชัย” จากนครบาล แถลงข่าวบอกว่า ม็อบทะลุแก๊ส จะจบในเดือนตุลาคม

“ตำรวจจะพยายามควบคุมสถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นแยกดินแดง ให้จบลงโดยเร็วที่สุด แต่บางครั้ง การบังคับใช้กฎหมายอย่างรุนแรง อาจจะทำให้สถานการณ์บานปลาย ซึ่งตำรวจจะพยายามใช้วิธีการที่ดีที่สุด เพื่อไม่ให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบ รวมไปถึง ผู้ที่ขับขี่รถยนต์ผ่านบริเวณแยกดินแดงได้รับอันตราย ซึ่งทั้งหมดนี้จะพยายามให้เกิดความสงบได้ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้”

ช่วงนั้นมีคำถามตัวโตๆ…จะจบจริงอ๊ะป่าว!
ผิดคาดครับ…ตำรวจทำได้!

ทะสุแก๊สย้ายวิกจากดินแดนไปราชดำเนินได้พักหนึ่ง ตอนนี้ไม่พบเห็นเป็นข่าว
แต่ข่าวที่เห็นกลับกลายเป็นอีกเรื่อง

ม็อบแตก แกนนำแย่งกันหิวแสง ฯลฯ
ที่หนักหนาดูจะเป็นกรณี “พิมชนก ใจหงษ์” ตัวแทนกลุ่ม ๒๔ มิถุนาประชาธิปไตย โพสต์เฟซบุ๊ก Phimchanok Jaihong

#พิมโดนคุกคามทางเพศ #sexualharassment

…พิมได้เดินทางเพื่อที่จะไปปราศรัยในจังหวัดหนึ่ง โดยมีการถูกชักชวนจากนักกิจกรรม แต่ในขณะที่เดินทางไปได้มีการนอนร่วมห้องกับพี่ที่ร่วมเดินทางด้วย เพราะเขาบอกไม่สนิทกับพี่อีกคน แล้วก็บอกจะนอนสองเตียง แต่พอเข้าพักจริงมีแค่เตียงเดียว

แต่พิมไม่ได้ไว้ใจมีการคาสายกับคนในทีมไว้ก่อนจะหลับ ประมาณตี ๓ พิมรู้สึกเหมือนมีคนมาลูบช่วงขาอ่อนช่วงบน เลยลืมตาขึ้นมาดูแล้วก็ตกใจ เพราะพี่ที่นอนด้วยกำลังกึ่งนอนกึ่งนั่งลูบตัวพิมอยู่

พิมไม่รู้จะทำยังไงเนื่องจากอาการตกใจในตอนนั้น จึงรีบโทรหาเพื่อน เครียดมากร้องไห้เพราะไม่รู้จะทำยังไง แล้วเป็นผู้หญิงคนเดียว คิดว่าพูดไปอาจจะได้รับอันตรายกว่าเดิม จึงโทรหาเพื่อนแล้วเพื่อนให้คำปรึกษาว่าให้ดูเลขห้อง ให้คาสายไว้ พยายามมีสติติดต่อผู้ใหญ่ที่วางใจ เนื่องจากช่วงเช้าจะต้องมีการเดินทางร่วมกัน

หลังจากทำกิจกรรมเสร็จ ทางผู้ใหญ่ที่ดูแลพิมก็ประสานงานให้พิมเดินทางกลับแล้วไม่ไปร่วมกิจกรรมในอีกวัน เพราะใจพิมตอนนั้นไม่โอเครแล้ว หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวพิมทบทวนและขอความคิดเห็นจากผู้ใหญ่หลายท่าน ว่าจะพูดเรื่องดังกล่าวดีไหม เพราะคิดว่าถ้าพูดเสียงพิมอาจไม่มีน้ำหนักพอ แล้วพิมค่อนข้างกลัว

แต่พิมคิดว่าพิมออกมาเรียกร้องเรื่องนี้ แต่ในวันที่พิมตกเป็นเหยื่อการโดนคุกคามทางเพศ ถ้าแม้แต่ตัวเองพิมยังปกป้องตัวเองไม่ได้ พิมจะไม่สามารถออกมาเรียกร้องเรื่องนี้เพื่อใครได้อย่างเต็มปากเลย วันนี้ถ้าพิมไม่พูด ก็กลัวว่าจะต้องมีคนที่ตกเป็นเหยื่อการโดนคุกคามแบบนี้อีก พิมไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใคร และพิมก็อยากตักเตือนเขาว่าการกระทำของพี่เขาดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องที่ดี อาจสร้างบาดแผลความกลัวของคนที่เขาคุกคามในระยะยาวได้เลย

และการที่เขาก็เป็นส่วนหนึ่ง เป็นต้นแบบในการออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย เขาควรจะเคารพสิทธิของผู้อื่น อย่ามาคุกคามคนอื่นแบบนี้ เรื่องนี้สะเทือนใจพิมพอสมควร มันทำให้พิมรู้ว่าพิมควรระวังตัวมากขึ้น แต่ไม่ว่าอย่างไร พิมไม่สมควรเป็นเหยื่อของการโดนคุกคามทางเพศ ไม่ควรมีใครโดนกระทำแบบนี้ ขอเตือนพี่เขาด้วยว่าอย่าทำกับใครอีก ไม่อย่างนั้นพิมจะระบุชื่อให้ทุกคนรู้ไปเลย
#หยุดคุกคามทางเพศ #นักกิจกรรมซ้ายชาย…

พิมชนก ใจหงษ์ อายุเพิ่งจะ ๒๓ ปี ยังไม่เบญจเพส แต่ก็โดนเรื่องหนักหนาเอาการ

นักกิจกรรมซ้ายชายพวกนี้ ไม่มีวาระการดำรงตำแหน่งครับ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่อวดว่าเป็นตัวแทนประชาชนเรียกร้องประชาธิปไตยได้ทุกวัน

นี่แค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง เพราะมุมมืดของขบวนการม็อบสามนิ้วยังมีอีกเพียบ
อมเงิน เราก็เห็นมาแล้ว คุกคามทางเพศก็มากกว่าหนึ่งคน

ยังไม่รวมเรื่องของเหล่านักการเมืองปฏิรูปสถาบันฯ ตัวเป้ง
สาวกันเองเมื่อไหร่ก็ฉาวเมื่อนั้น


Written By
More from pp
ลำปางจัดงานน้อมรำลึกสมเด็จพระนเรศวรฯ ปี 7 ‘อั้ม-อธิชาติ’ ปลื้มสวมบทพระนเรศวรฯ สุดอิน
เมื่อวันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2563 เวลา 19.00 น. ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตำบลศาลา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง นายณรงค์ศักดิ์...
Read More
0 replies on “ฝนซา โควิดลด ม็อบเลิก – ผักกาดหอม”