“ชวลิต” ดักคอข่าวลือหนาหู ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจล่มก่อนพิจารณาวาระ 3 แต่ยังเชื่อศาลรัฐธรรมนูญจะสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ

28 กุมภาพันธ์ 2564-นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทยให้ความเห็นต่อข่าวลือหนาหูว่าก่อนถึงวันรัฐสภามีมติเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 ในวันที่ 17 มี.ค.2564 นั้นศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาญัตติของนายไพบูลย์ นิติตะวันกับคณะ ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ารัฐสภามีหน้าที่และอำนาจในการแก้ไข รัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้หรือไม่ ซึ่งมีข่าวลือหนาหูว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่ารัฐสภาไม่มีอำนาจ อันจะส่งผลให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านวาระที่ 2 ไปหมาดๆ ตกไปทันที

นายชวลิต กล่าวต่อว่า จำได้ว่าเจตนารมณ์ในช่วงยกร่างแก้รัฐธรรมนูญ เราถกเถียงกันมากจนตกผลึกทางความคิดว่า พรรคเพื่อไทยจะเสนอแก้รัฐธรรมนูญโดยไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 ซึ่งก็เท่ากับแสดงเจตนารมณ์ไม่แก้ทั้งฉบับ จากนั้นเมื่อเข้ามาสู่การพิจารณาในชั้น กมธ. ปรากฎว่า กมธ.ก็มีเจตนารมณ์ชัดเจนเช่นกันว่า ไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 ดังนั้น ทั้งเจตนารมณ์ของพรรคการเมือง และเจตนารมณ์ของ กมธ.เห็นสอดคล้องต้องกันว่า การแก้ รัฐธรรมนูญปี 2560 นี้ไม่ต้องการแก้ทั้งฉบับ จึงแสดงเจตนารมณ์ไว้เป็นหลักฐานมาแต่แรกเริ่ม

ประการสำคัญต่อมาก็ คือ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ได้วางบรรทัดฐานกระบวนการแก้ รัฐธรรมนูญไว้นั้น ศาล รัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยที่ 18 – 22/2555 ไว้ ซึ่งเป็นคำวินิจฉัยตาม รัฐธรรมนูญปี 2550 แต่ปัจจุบัน รัฐธรรมนูญ ปี 2550 ถูกยกเลิกไปแล้ว และใช้ รัฐธรรมนูญ ปี 2560 อยู่ โดยกระบวนการแก้ไข รัฐธรรมนูญล้วนเป็นไปตามเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 256 ทุกประการ

เฉพาะอย่างยิ่ง นอกจากความเห็นของพรรคการเมืองทุกพรรค, นโยบายรัฐบาล, กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ และรัฐสภา ล้วนมีความเห็นไปในแนวทางเดียวกันจนรัฐสภาพิจารณาญัตติแก้ รัฐธรรมนูญวาระที่ 2 เสร็จสิ้นแล้วดังกล่าวข้างต้น ประเด็นหรือปัจจัยสำคัญที่สุดที่ศาลรัฐธรรมนูญ ควรนำมาประกอบการพิจารณาวินิจฉัยในประการสุดท้าย เป็นความเห็นทางสังคม และความเห็นทางการเมือง ทั้งจากประชาชนในประเทศและชาวโลก นั่นก็ คือ “ความเชื่อมั่นประเทศ” แม้เป็นนามธรรม แต่ก็สำคัญยิ่งในฐานะที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประชาคมโลก

กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกติกาสูงสุดของประเทศ ถ้ากติกาที่ออกมาภายหลังการรัฐประหารไม่เป็นธรรม ไม่เป็นกลาง เอารัดเอาเปรียบกัน และไม่เป็นประชาธิปไตย เห็นได้ชัดว่ากระทบความเชื่อมั่นประเทศอย่างยิ่ง ทั้งความเชื่อมั่นของประชาชนในประเทศ ตลอดจนความเชื่อมั่นของชาวโลก ซึ่งส่งผลด้อยค่าประเทศไทยให้ตกต่ำในสายตาชาวโลกลงอย่างมาก ปัจจุบันทุกพรรคการเมืองซึ่งมาจากประชาชนล้วนมีมติเห็นชอบกับการแก้ รัฐธรรมนูญ รัฐบาลก็แถลงนโยบายมีนโยบายเร่งด่วนในการแก้ รัฐธรรมนูญ รัฐสภาก็ได้ดำเนินการพิจารณาร่าง รัฐธรรมนูญของ กมธ.ในวาระที่ 2 แล้วเสร็จไปเมื่อวันที่ 25 ก.พ.2564 ที่ผ่านมา เหลือเพียงขั้นตอนให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบ วาระที่ 3 ในวันที่ 17 มี.ค.2564 เท่านั้น

“ด้วยข้อมูลและเหตุผลที่ไล่เรียงมาเป็นลำดับ ทั้งนี้ ยังไม่รวมการเรียกร้องการแก้ รัฐธรรมนูญจากภาคประชาชน นิสิต นักศึกษา ผมจึงยังเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะร่วมกันหาทางออกจากปัญหา เพื่อร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นประเทศ คลี่คลายวิกฤติรัฐธรรมนูญลงได้ ผมและประชาชนจำนวนมาก ยังมีความหวังครับว่าประเทศไทยจะมี รัฐธรรมนูญของประชาชนในเร็ววัน ไม่อยากไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เสียทั้งเวลาเสียทั้งงบประมาณ ที่สำคัญ เป็นการดูถูกประชาชน เหมือนเล่นปาหี่ หลอกลวงกันกลางวันแสก ๆ หากญัตติแก้ รัฐธรรมนูญต้องแท้งลงเสียก่อน” นายชวลิต กล่าว

Written By
More from pp
“ทิพานัน” โชว์รัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” ยกระดับบริการบัตรทอง “รับยาใกล้บ้าน” เจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการดูแลทันที
“ทิพานัน” โชว์รัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” ยกระดับบริการบัตรทอง “รับยาใกล้บ้าน” เจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการดูแลทันที ชี้กว่า 2.2 หมื่นราย เข้าถึงการรักษาที่รวดเร็ว...
Read More
0 replies on ““ชวลิต” ดักคอข่าวลือหนาหู ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจล่มก่อนพิจารณาวาระ 3 แต่ยังเชื่อศาลรัฐธรรมนูญจะสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ”