ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
เหนื่อยไหมคนดี มีพี่เป็นแฟน..
เนี่ย..ไม่รู้ “ผู้กำกับโจ้” จะนึกอยากถามประโยคนี้ผ่านซี่กรงออกมามั้ย? แต่ไม่ว่าจะถามหรือไม่ถาม
คนที่พลอยตกเป็น (เหยื่อ) ข่าวไปด้วยอย่างพิธีกรสาว “ใบเตย พรพจี ศิริสิทธิ์” ในฐานคนรู้ใจ ก็ได้เผยความรู้สึกผ่านรายการแซ่บทะลุจอ ทางช่อง GMM25 ไปแล้วว่า..
“ทุกคนน่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่าเหตุการณ์ทั้งหมดมันส่งกระทบรุนแรง แบบที่เราตั้งคำถามว่าความทุกข์ของมนุษย์มันเป็นได้ขนาดนี้เชียวเหรอ
ใครไม่ประสบพบเจอน่าจะไม่มีวันเข้าถึงและเข้าใจได้เลย เพียงแต่ว่าเราเชื่อมั่นในครอบครัว มีคุณพ่อ มีคุณแม่ มีพี่ชาย มีพี่สะใภ้ มีครอบครัวเป็นหลักยึดจิตใจ
ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถมีชีวิตหรือว่ามานั่งหายใจ หรือแม้แต่กระทั่งมาให้สัมภาษณ์ในวันนี้ได้เลย..”
ก็..น่าเห็นใจ แต่จะทำไงได้ล่ะ ในเมื่อคุณใบเตยเองก็มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก และยังเป็นคนรัก-เป็นแฟนกับผู้กำกับโจ้ ซึ่งจะแต่งงานกันแล้วหรือยังไม่แต่งก็ตาม..
เป็นธรรมดาที่จะต้องถูกคุ้ย-ถูกโยงถึงสัมพันธ์ ยิ่งเจ้าของห้องเสื้อโพสต์ภาพ-ข้อความ.. “คุณพรพจี ศิริสิทธิ์ และ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล
กราบขอพรและรับประทานน้ำพระพุทธมนต์ จากสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อความเป็นสิริมงคลในการดำเนินชีวิตคู่ ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร”
และแม้ภายหลังจะออกมาบอก.. “เป็นการไปพบสมเด็จพระสังฆราชกันทั้งครอบครัว จึงเป็นการแต่งกายที่เหมาะสมเท่านั้น”
นอกจากจะไม่ได้ช่วยให้อะไรๆดูดีขึ้นแล้ว ซ้ำจะยิ่งเพิ่มความอยากรู้ (ความจริง) มากเข้าไปอีก ซึ่งทางที่ดี คุณใบเตยควรจะเก็บตัว-เงียบเสีย..
อย่าได้พยายามพูด-อธิบาย หรือหวังขอความเป็นธรรม ความเข้าใจ-เห็นใจในขณะนี้เลย!
คุณใบเตยบอกเอง..“เตยเองได้ทำงานในวงการสื่อมาโดยตลอด ตลอด 10 ปีเรามีความเข้าใจในความเป็นไปในวงการนี้ค่ะ”..
เมื่อเข้าใจดี ผมในฐานะคนสื่อด้วยกัน ก็เห็นจะไม่ขอแนะนำอะไรอีก นอกจากจะมีกำลังใจให้เท่านั้น!
เออ..พูดถึงกำลังใจ เวลานี้ไม่รู้ว่าคนไทยจะยังมี “กำลังใจ” กันมาก-น้อยแค่ไหน ดูสิ พอศบค.ประกาศคลายล็อกปุ๊บ คุณหมอธีระก็ออกมาปั๊บ..
“มาตรการปลดล็อกตั้งแต่ 1 กันยายน 2564
เตือนไว้ล่วงหน้าว่า ยังไม่เห็นที่ใดที่มีการระบาดรุนแรง เป็นหมื่นๆ ต่อวัน กระจายไปทั่ว โดยยังคุมหรือตัดวงจรการระบาดไม่ได้ แล้วปลดล็อกการใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยครับ
พิจารณาตามหลักวิชาการแพทย์ จะมีโอกาสเกิดการระบาดหนักหน่วงตามมา จะช้าจะเร็วก็รอดูกัน
อเมริกา ประกาศให้นั่งกินในร้าน จากนั้นมีจำนวนติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นใน 41-100 วัน และจำนวนตายสูงขึ้นใน 61-100 วัน
แต่ของไทยเรา ปลดล็อกหลายเรื่องพร้อมกัน ทั้งร้านอาหาร สถานศึกษา ร้านนวด ห้าง สวนสาธารณะ ฯลฯ ย่อมมีโอกาสเกิดเร็วขึ้นกว่่าเค้าได้ ดังนั้นจึงต้องช่วยกันระมัดระวัง ป้องกันตัวให้ดี”
ครับ..ผมเชื่อเป็นการเตือนด้วยเจตนาดี-บริสุทธิ์ใจ แต่ก็ทำเอาเรี่ยวแรง-กำลังใจที่พอจะกระเตื้องขึ้นมาหน่อย พลันก็ร่วงผล่อยละห้อยเหี่ยลงทันที
ตกลงเราจะ “ล็อก” กันไปถึงที่สุดเมื่อไหร่ละครับคุณหมอ ถึงจะมั่นใจคลาย (ล็อก) แล้วจะไม่เกิดการระบาดหนักหน่วงตามมา หรือว่าคุณหมอธีระเองก็ไม่ได้มีปลายทางสิ้นสุด?
ล็อกดาวน์ โอดโอยจะอดตาย คลายล็อก โอดโอยจะติดเชื้อวันละเป็นหมื่น..
เป็นลุง..กูไปแล้ว!