เปลว สีเงิน
เรื่อง ๘ ปีนายกฯจะเริ่มนับจากปีไหน?
๘ กันยา.๖๕ คือพรุ่งนี้
ศาลรัฐธรรมนูญ นัด ๙ ตุลาการมาประชุมตรวจสอบคำชี้แจงของนายกฯ และ ๒ พยานคือ นายมีชัย ฤชุพันธ์ กับนายปกรณ์ นิลประพันธ์
ว่าเท่านี้ เพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยและนัดวันฟังคำวินิจฉัยชี้ขาดได้แล้ว หรือยังต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติมอีก? แต่ ๗ กันยา.
ก่อนที่ ๙ ตุลาการจะประชุมและได้เห็นคำชี้แจงใดๆ ปรากฎว่า เอกสารคำแจงของอาจารย์มีชัย ในฐานะพยาน
“รั่ว” สู่สาธารณะซะก่อนแล้ว
บรรดาสื่อทั้งหลาย นำออกเผยแพร่ เซ็งแซ่ทั้งเมือง!?
จะเป็น “ของจริง” หรือ “ของปลอม” ก็ตามแต่ มองในด้านความเหมาะสม
มัน “ไม่เหมาะสม” เลย ……..
ที่คำชี้แจงพยานคนสำคัญซึ่งมีผลต่อการวินิจฉัยชี้ขาดด้านความชอบด้วยรัฐธรรมนูญจะหลุดรอดออกมาเผยแพร่ก่อนเช่นนี้
มันก็พิลึกนะ “ซองข้อสอบ” ยังไม่ทันได้เปิดเลย
แต่ “คำเฉลยข้อสอบ” รวมทั้งผลสอบ “ใครได้-ใครตก” ออกมาเป็นข่าวล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
รู้ละเอียดถึงขั้น เท่านี้เสียง ต่อเท่านี้เสียง ด้วยซ้ำ!
ในความรู้สึกผม มันทำเหมือนสังคมไทยเป็นสังคม “สวะลอยน้ำ” ยังงั้นแหละ
มันจะพัดพาขึ้น-ลงทางไหน ก็ไหลตามมันไปได้อย่างที่มันต้องการ
เสี่ยงครับ…….
เสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อ “กระแสชี้นำ” สู่การปลุกระดม!
เพราะคนมันมี ๒ ฝ่าย คือฝ่ายอยากให้ลุงตู่ไปต่อ กับฝ่ายให้ลุงตู่หยุดอยู่แค่นี้
เมื่อผลสอบ “ใครได้-ใครตก” หลุดรั่วออกมาก่อนสอบเช่นนี้ พอถึงตอน “ผลสอบจริง” ออกมา “เป็นอีกอย่าง”
ด้วยอารมณ์ “ผิดหวัง-สมหวัง” ของผู้คนที่ปักใจแต่แรกเมื่อผลออกมาไม่ตรงใจ
พร้อม “ลุกพรึ่บ” ได้ง่ายนะ!
ท่านที่อ่านข่าว-ฟังข่าวตามสื่อต่างๆ ก็ฟังไว้-รู้ไว้ แต่อย่าเพิ่งปักใจเชื่อ ข่าวร่ำ-ขาวลือ และข่าวรั่ว ไปทั้งหมด
ที่แน่ๆ ที่ควรทำความเข้าใจ คือ…….
ขณะนี้ ศาลฯ ยังไม่ได้ประชุมเรื่องนี้กันเลย ทั้งยังไม่เห็นคำชี้แจงทั้งของนายกฯ และทั้งของ ๒ พยานด้วยซ้ำ
แต่ข่าว “ผลตัดสิน” ออกมาแล้ว เท่านั้นเสียง-ต่อเท่านี้เสียง มันเชื่อได้มั้ยล่ะ?
สติครับ…สติ พระท่านว่า “สติมา ปัญญาเกิด”
เราอย่าตกเป็นเหยื่อ “กระแสชี้นำ” จากข่าวร่ำ-ข่าวลือให้มากนัก
อย่าลืม ทุกวันนี้ มีกลุ่มคน “หวังดีแต่ประสงค์ร้าย” ต่อสังคมชาติบ้านเมือง มันจ้องฉวยโอกาสอยู่ทุกขณะ!
อย่างตอนนี้ นายกฯ อยู่ระหว่างการ “หยุดปฎิบัติหน้าที่” โดยมีพลเอกประวิตร ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ
“ทัพเสี้ยม” ลงมือมิรั้งรอ
เชียร์พลเอกประวิตรเหมือนพระนารายณ์อวตารลงมา กระฉับ กระเฉง ปรู๊ดปร๊าด ว่องไว เดินเองได้ พูดเองได้เกิน ๓ คำ จากเดิม
บารมีเพียบ ลงพื้นที่ไหน ผู้คนแห่ห้อม ล้อมหน้า ล้อมหลัง เรตติ้งกระฉูด มากกว่านายกฯ ประยุทธ์
แม้กระทั่งเข้าทำเนียบ ประชุมครม.ทั้งข้าราชการ ทั้งนักการเมือง และผู้คนที่มา
ต่างนอบน้อม ค้อมหลัง คลานได้ก็คงคลานกัน เรียกว่าถูกบารมีพลเอกประวิตรสยบ ชนิดที่นายกฯ ประยุทธ์ มีไม่ถึงครึ่งพี่ใหญ่
แค่ ๗ วัน ผลงานพลเอกประวิตรเพียบ เหนือผลงาน ๘ ปีนายกฯ ประยุทธ์ไปโน่น ถูกทำเป็นตารางเผยแพร่เป็นข่าวสารว่อนออนไลน์
สรุป ทุกฝ่าย กระทั่งฝ่ายค้าน-เพื่อไทย ก็ยังเชียร์พลเอกประวิตรเป็นนายกฯ
นี่คืออะไร….?
ใช่…ลุงป้อมขยันขันแข็ง ทำงานแทนน้องเล็กเต็มที่ ที่เขาเชียร์-ชมกันนั้น ไม่ผิดหรอก ถ้าชม-เชียร์กันด้วยน้ำใส-ใจจริง
แต่ข้อสังเกตผม มันเชียร์กันแบบ “น้ำขุ่นไว้ข้างใน-น้ำใสไว้ข้างนอก” มากกว่า
เจตนาแท้ๆ มันต้องการทำให้ ๒ ป.นี้ แตกกัน
ชูลุงป้อมขึ้นเป็นตัวเหยียบประยุทธ์ลง ง่ายๆ แค่นี้!
เหยียบแล้วช่วยกันดันตูดหวังให้พลเอกประวิตรเคลิ้มในตำแหน่งนายกฯ
“เออ…ก็ไม่ยากนี่หว่า เราก็เป็นได้” …..
ไปจังหวัดไหน ก็ต้อนรับกันเนืองแน่น ข้าราชการ นักการเมืองทุกฝ่าย ก็ต้อนรับ สื่อก็ชื่นชอบ เชียร์ตรึม
นี่…มันหวังให้พลเอกประวิตร “คิดการณ์ใหญ่” หักน้องเล็ก เล็งการณ์ไกล หวังขึ้นไปเป็นนายกฯ ซะเอง
นี่คือแผน “ชูป้อมเชือดตู่” ของแก๊งเดินแผนสยุมพร “เพื่อไทยกับพลังประชารัฐ” เพื่อจัดตั้งรัฐบาล
การจะไปถึงจุดนั้นได้ ก็ต้องทำให้พลเอกประวิตรแตกคอกับพลเอกประยุทธ์ให้ได้ก่อน
แล้วจะใช้วิธีไหนล่ะ?
ก็ฉวยโอกาสตอนลุงตู่ถูกพักงาน แล้วใช้วิธี เอาเก้าอี้นายกฯ ล่อ แล้วเยินยอ ให้ลุงป้อมหลง นั่นแหละ!
นี่ถึงขั้นปล่อยข่าว “ธรรมนัสจะยกคณะกลับพลังประชารัฐ” ง่ายๆ ถึงขนาดนั้นกันแล้ว
เรียกว่า มีขบวนการข้างตัวพลเอกประวิตร”คอยกีดกัน” พลเอกประยุทธ์ออกไปจากเส้นทาง “ว่าที่นายกฯ” ของพรรคพลังประชารัฐ ชัดขึ้น..ชัดขึ้น
เพราะตราบใดยังมี “พลเอกประยุทธ์” อยู่ ตราบนั้น ไม่ว่าครอบครัวเล็ก-ครอบครัวใหญ่ นายแม้ว-นางปูที่ไหน ใครๆ ก็อย่าหวังจะกลับมานั่งครองอำนาจประเทศได้
เพราะอย่างนั้น………
การยืมมือพี่ใหญ่ “สังหาร” น้องเล็ก นี่แหละ เนียนที่สุด!
เชิดลุงป้อมเป็นนายกฯ ซักพัก แล้ว “เขี่ยทิ้ง”
ง่ายกว่าปล่อยหมาทั้งฝูงมารุมฟัดลุงตู่ ๘ ปีมาแล้ว เห็นแต่ถูกเตะหงายท้อง..ร้องเอ๋งๆ วิ่งหางจุกตูด ไปเห่าอยู่ใต้เงากระโปรง
แต่เผอิญพลเอกประวิตร ดูท่าน “ไม่ใช่คนอย่างนั้น” ไม่หลงเหยื่อล่อ ไม่หลงคำเยินยอ จนคิดจะฆ่าน้องเล็ก
สังเกตที่ท่านพูด ชัดขึ้นทุกวัน กระทั่งเรื่องปรับครม.
“ไม่ปรับ…รอให้นายกฯ มาตัดสินใจเอง”!
น่ารัก..น่านับถือก็ตรงนี้ ถ้าพี่ใหญ่ “สัจจะ-จริงใจ” กับน้อง เดินไปตามครรลองเรื่อยๆ
บุญมา-บารมีถึง ยังไงก็ได้ทั้งเก้าอี้นายกฯ ได้ทั้งใจเพื่อนพ้องน้องพี่บรรดามีทุกฝ่าย
“ทุกประการ-ทุกคน”……..
“ล้วนถูกกำหนด” ให้เป็นอยู่ก่อนแล้ว ใครก็มิจำต้องดิ้นให้เหนือ “จักรวาลกรรม” กำหนดไปหรอก!
ลุงป้อมน่ะ….
ทำหน้าที่นายกฯ แทนน้องแค่สัปดาห์กว่า รู้มั้ย…ลุงสร้างสถิติเหนือนายกฯ ไปแล้ว
แต่ก่อน พูดได้คำเดียว….”ผมไม่รู้”
แต่ตอนนี้ จับไมค์เป็นพูดน้ำไหล-ไฟดับ และที่ดังเปรี้ยงขึ้นมาอีกคำคือ….”ใจบันดาลแรง”
ตรงข้ามกับน้องเล็ก ไม่เอาไหนเลย ๘ ปี มีวลีเด็ดซ้ำซากอยู่วลีเดียว….”เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”!
สู้ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ไม่ได้ ก็ตรงนี้แหละ ตรงที่ทักษิณตอนเป็นนายกฯ เขามีถึง ๒ คำเด็ด
“ผมรวยแล้ว ไม่โกง” กับคำว่า “โกงเอามาแบ่งกัน”
ส่วนยิ่งลักษณ์ พรั่งพรูกว่านั้น ที่เด็ดๆ คับรูหูผู้คนถึงทุกวันนี้ ก็เช่น…”เอาอยู่ค่ะ”
“เราชนะแล้ว…พี่ขา” “…พี่คะ รอหนูแป๊บนะ ใกล้ถึงแล้วค่ะ” เป็นต้น
แต่ไม่มีนายกฯ คนไหน ที่ชาวบ้านมีคำเรียกขานแทนตัวนายกฯ ได้ติดปาก-ติดใจเท่านายกฯ ประยุทธ์
“บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือที่เรียกกันว่า “บัตรคนจน” ที่มีจริงยุคลุงตู่ ไม่ใช่หลอกชาวบ้านตอนหาเสียงยุคทักษิณ แล้วมีแต่ลม
ตอนนี้ เห็นชาวบ้านตามต่างจังหวัด แห่ไปลงทะเบียนกันแถวยาวเหยียด เช่นที่เชียงใหม่
จนตอนนี้ ไปที่ไหนๆ ชาวบ้านเรียกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนี้ว่า “บัตรลุงตู่”
แอป “เป๋าตัง” ที่กำลังคนละครึ่งตอนนี้ ก็เรียกกันว่า “เป๋าตุงลุงตู่”
นี่ถ้ารอดวิบาก “นายกฯ๘ ปี” ไปได้ คงจะต้องให้ “หลวงพ่อตู่” ปลุกเสกผ้ายันต์ซักรุ่น
เรียกว่ารุ่น “ลุงตู่อยู่รวย”!
เปลว สีเงิน
๗ กันยายน ๒๕๖๕
