หน.อุทยานฯแก่งกระจาน เห็นใจชาวบางกลอยถูกกักตัว กำชับจนท.ช่วยเหลือเต็มที่

9 ก.ค.64 – นายอิทธิพล ไทยกลม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ชาวบ้านบางกลอยมีอาการเจ็บป่วยกว่า 30 คนรวมถึงเด็กๆ เนื่องจากสภาวะขาดอาหาร นอกจากนี้ยังมีบางส่วนเสี่ยงต่อการติดโควิดว่า ขณะนี้อุทยานฯ มีการคัดกรองบุคคลภายนอกที่จะเข้าสู่พื้นที่อุทยานหรือผ่านขึ้นไปบ้านโป่งลึก-บางกลอย แต่ไม่ได้มีข้อห้ามชาวบ้านในพื้นที่เดินทางเข้าออกแต่อย่างใด ซึ่งได้ประสานงานกับผู้ใหญ่บ้านมาโดยตลอด ขณะเดียวกันข้อเสนอของคณะกรรมการแก้ไขปัญหากรณีบางกลอยที่ต้องการให้ทางอุทยานฯ ตั้งจุดรับบริจาคอาหารและสิ่งของจำเป็นให้ชาวบ้านบางกลอยนั้น

นายอิทธิพล กล่าวว่าอุทยานฯ ยินดีและพร้อมขนส่งขึ้นไปให้ถึงมือชาวบ้านทุกครอบครัว เนื่องจากเข้าใจเห็นใจชาวบ้านที่เดือดร้อนจากกรณีปัญหาที่ดินทำกินและยังได้รับผลกระทบซ้ำจากสถานการณ์โควิด รวมไปถึงการรับส่งผู้ป่วยจากหมู่บ้าน ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกคนว่า หากมีชาวบ้านร้องขอหรือมีกรณีเร่งด่วนต้องให้การช่วยชาวบ้านอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ชาวบ้านยังสามารถขอความช่วยเหลือจากหน่วยตำรวจตระเวนชายแดนที่ประจำอยู่ที่บ้านโป่งลึกได้อีกทาง

“เมื่อวานนี้หลังจากมีข่าวว่าชาวบ้าน 2 ครอบครัวเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ประสานกับผู้ใหญ่บ้านโป่งลึกและบางกลอยขึ้นไปตรวจอาการ ให้ทำการกักตัวผู้มีความเสี่ยงไว้ 14 คน แต่ทุกคนยังไม่มีใครแสดงอาการป่วย ทางอุทยานได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปติดตามอย่างใกล้ชิด หากมีกรณีฉุกเฉินเรายินดีช่วยชาวบ้านและประสานหน่วยงานช่วยเหลือทันที” นายอิทธิพล กล่าว

นายอิทธิพล กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหาที่ดินทำกินของชาวบ้านนั้น ยอมรับว่ามีความซับซ้อน เนื่องจากนับตั้งแต่ครั้งแรกที่ชาวบ้านอพยพลงมาปี 2539 มีการจัดสรรที่ดินให้ แต่หลังจากนั้นมีการอพยพกันอีกหลายครั้ง ทางอุทยานฯ ก็มีการสำรวจพยายามจัดสรรที่ดินอีกหลายครั้ง แต่เนื่องด้วยที่ดินจำกัดและครอบครัวมีการขยาย จนการสำรวจล่าสุดในปี 2561 ได้พยายามแก้ปัญหา แต่ถึงปี 2564 มีจำนวนชาวบ้านเพิ่มขึ้นอีก จึงต้องใช้เวลาให้ทุกฝ่ายมาร่วมกันแก้ปัญหาร่วมกัน

“ชาวบ้านต้องออกไปทำงานข้างนอก พอเจอโควิดต้องกลับมาก็ไม่มีที่ทำกิน เพราะที่ดินมีจำกัดแค่นั้น จะให้ไปถางป่าเพิ่มก็ทำไม่ได้ ส่วนมาตรา 65 พรบ.อุทยานฯ ที่ผ่อนปรนให้ชาวบ้านไปเก็บของป่าเพื่อดำรงชีพได้ ตั้งแต่ผมมาเป็นหัวหน้าที่นี่เดือนมีนาคมก็ไม่เคยปิดกั้นหรือจับกุม ชาวบ้านสามารถเข้าไปหาหน่อไม้หรือเก็บทรัพยากรที่ขึ้นทดแทนได้ หรือจับปลาได้ ยกเว้นแต่ถ้าการล่าสัตว์ใหญ่ ช้าง กวาง หรือกระทิง ที่ต้องจับกุม เราเข้าใจว่าชาวบ้านจำเป็นต้องหากิน หลังจากนี้จะเร่งการสำรวจร่วมกับชาวบ้าน จัดทำแนวขอบเขตตามมาตรา 65 ให้ชัดเจน” หัวหน้าอุทยานฯ กล่าว

ด้านนายพงษ์ศักดิ์ ต้นน้ำเพชร ชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย กล่าวว่า หลังมีการยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กรณีขอให้เร่งหามาตรการเยียวยาด้านปากท้องและการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน หลังถูกอพยพโยกย้ายและต้องถูกดำเนินคดีจากการกลับขึ้นไปทำกินในพื้นที่บางกลอยบน ซึ่งเป็นถิ่นฐานดั้งเดิม แม้จะมีหน่วยงานลงมาในพื้นที่แต่ชาวบ้านยังต้องกินอาหารที่ได้รับบริจาคที่มีสารอาหารไม่เพียงพอ ที่มีเพียงข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือปลากระป๋องเท่านั้น สำหรับบางคนที่พอปลูกพืชอาหารในที่ดินตัวเองได้บ้าง จะเอามาขายในชุมชน แต่จากปัญหาเศรษฐกิจและโควิด-19 ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มีเงินเพียงพอซื้ออาหารเพิ่ม

“เรื่องเข้าไปหาอาหารในป่าชาวบ้านยังกังวลมาก ทีแรกเราเจอโควิดเราก็คิดว่าเข้าไปหาอะไรกินในป่าก็ได้ พวกปลา พืชผักอะไรต่างๆ แต่ว่าตอนนี้ชาวบ้านไม่กล้า กลัวเพราะอุทยานฯ เขาอาจจะลาดตระเวนแล้วมาเจอเรา ตอนนี้ก็ยังกินอาหารเหมือนเดิม เป็นอาหารบริจาค ก็ต้องกินไปเพราะไม่มีอะไรกิน” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว

นายพชร คำชำนาญ ผู้ประสานงานภาคี #SAVEบางกลอย กล่าวว่า สถานการณ์ความเจ็บป่วยและการขาดแคลนอาหารของชาวบ้านบางกลอยรุนแรงกว่าคาดไว้มาก เชื่อว่าเป็นการสั่งสมปัญหามาหลายปีนับตั้งแต่ถูกอพยพ เพราะชาวบ้านไม่สามารถทำกินได้ ไม่มีอาหารที่ดีกิน ถูกละเลยมาอย่างยาวนาน เหมือนเป็นระเบิดเวลาที่มาปะทุในช่วงวิกฤตโควิด-19 พอดี ขณะนี้ชาวบ้านกำลังจะอดตาย เป็นภาพสะท้อนว่าชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่บ้านบางกลอยนั้นถูกมองว่าเป็นอื่นและเป็นเพียงหน่วยนับทางประชากรในสายตาของรัฐไทยมาโดยตลอด

“ตอนนี้มันคือการทิ้งให้ชาวบ้านตายจริงๆ ไม่ใช่การฆ่าด้วยวาทกรรมอีกต่อไปแล้ว พื้นที่นี้เป็นเหมือนคุกคุมขังชาวบ้านจนเกิดเป็นภาวะขาดสารอาหาร มันคือการถูกบังคับให้อพยพ ถูกบังคับให้อดอยาก คำถามคือในเมื่อสถานการณ์มันมาถึงจุดนี้แล้ว เราควรต้องบังคับกดขี่เขาต่อไปจริงๆ ไหม สังคมไทยหรือสังคมโลกจะได้อะไรจากการทำร้ายชุมชนกะเหรี่ยงที่บ้านบางกลอยหรือ เราจะภาคภูมิใจกับมรดกโลกบนความเจ็บป่วยและความตายของชาวบ้านจริงๆ หรือ” นายพชร กล่าว

Written By
More from pp
สถานเสาวภา สภากาชาดไทย ขอเรียนเชิญแพทย์ เภสัชกร พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ที่สนใจ เข้าร่วมประชุมวิชาการระดับชาติโรคพิษสุนัขบ้า ประจำปี พ.ศ. 2565 ครั้งที่ 11 เรื่อง “An Odyssey to Human Rabies Zero Death”
ในวาระครบรอบ 100 ปี สถานเสาวภา สภากาชาดไทย ร่วมกับ คลัสเตอร์วิจัยอายุรศาสตร์เขตร้อน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอเรียนเชิญแพทย์ เภสัชกร พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์...
Read More
0 replies on “หน.อุทยานฯแก่งกระจาน เห็นใจชาวบางกลอยถูกกักตัว กำชับจนท.ช่วยเหลือเต็มที่”