27 เมษายน 2564 – ท่ามกลางวิกฤตการณ์แพร่ระบาดระลอกใหม่ ที่มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งทุกภาคส่วนจะต้องร่วมแรงร่วมใจ ผนึกกำลังฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน กลุ่มทรู พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำสรรพกำลัง ทั้งนวัตกรรมดิจิทัลโซลูชัน เทคโนโลยี เครือข่าย และกำลังคน เข้าร่วมสนับสนุนภารกิจด้วยใจเคียงคู่สู้โควิดอย่างเต็มความสามารถ เพื่อดูแลและให้บริการสนับสนุนครอบคลุม 4 ภารกิจหลัก ได้แก่
1.การสนับสนุนโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย 2.การเตรียมความพร้อมการเข้ารับวัคซีน 3.การสนับสนุนกลุ่มคนไทย ภาคสังคม ผู้ประกอบการทั่วไป และ 4.แพ็กเกจพิเศษทรูสู้โควิด
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “วิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้ กลุ่มทรู ในฐานะภาคเอกชนไทย ที่เป็นทั้งผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมและแพลตฟอร์มดิจิทัล มีนโยบายชัดเจนในการร่วมอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่คนไทยและประเทศไทยฝ่าวิกฤติครั้งนี้ โดยเฉพาะภาคสาธารณสุขที่เป็นหัวใจสำคัญ
กลุ่มทรู จึงพร้อมเข้าร่วมสนับสนุนการดำเนินการของโรงพยาบาล รพ.สนามทั่วประเทศ และ Hospitel โดยเฉพาะการจัดเตรียมระบบสื่อสารให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุม รวมถึงพัฒนาแพลตฟอร์มด้านสุขภาพ และนำหุ่นยนต์อัจฉริยะ ทรู 5G อำนวยความสะดวกการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ และดูแลผู้ป่วยในมิติต่างๆ
อีกทั้งการฝ่าวิกฤติครั้งนี้ คนไทยจำเป็นต้อง Stay safe stay home ขณะที่ยังสามารถดูแลและปรึกษาปัญหาสุขภาพผ่านดิจิทัลโซลูชันได้จากที่บ้าน ลดเสี่ยงติดเชื้อจากการเดินทางมาโรงพยาบาล และอีกหนึ่งวาระแห่งชาติที่สำคัญ คือการฉีดวัคซีนให้ประชากรทั่วประเทศโดยเร็ว
ซึ่งกลุ่มทรู พร้อมสนับสนุนสัญญาณที่จุดฉีดวัคซีนของภาคเอกชนที่ได้ร่วมกับภาครัฐและโรงพยาบาล โดยความร่วมมือกับสภาหอการค้าและสภาดิจิทัลฯ ซึ่งหวังว่าการระดมสรรพกำลังทุกด้านของกลุ่มทรูครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งพลังขับเคลื่อนช่วยให้คนไทยและประเทศไทยผ่านวิกฤตินี้ได้โดยเร็ว”
นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข รองประธานคณะกรรมการบริหาร กล่าวว่า “จากนโยบายของกลุ่มทรู ทีมงานทุกภาคส่วนได้เร่งเดินหน้าปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มกำลัง ทั้งทีมเน็ตเวิร์ค ที่ต้องเร่งขยายสัญญาณ และดูแลเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง ทีมงานในภูมิภาคที่ต้องประสานกับโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ ทีมนวัตกรที่ต้องพัฒนาโซลูชัน ดิจิทัลแพลตฟอร์ม และทีมดูแลลูกค้า ทั้งทรูช็อป คอลล์เซ็นเตอร์ ตลอดจนทุกทีมที่เกี่ยวข้อง ต่างเร่งดำเนินการ เพื่อให้สำเร็จตามแนวทางที่วางไว้ในการอยู่เคียงคู่คนไทยและประเทศไทย”
นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) กล่าวว่า “ในภาวะวิกฤติ การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญเสมอ กลุ่มทรู จึงได้เร่งเสริมทัพเครือข่ายสื่อสารในพื้นที่โรงพยาบาล และอีก 124 รพ.สนามทั่วประเทศ ติดตั้งรถโมบายล์ชุมสายเคลื่อนที่เร็ว ทรูมูฟ เอช (COW หรือ Cell on Wheels) ขยายสัญญาณ ทรู 5G และ WiFi พร้อมเปิดคอลล์ เซ็นเตอร์เฉพาะกิจ 0-2700-9022 เพื่อดูแลเครือข่ายและบริการในรพ. อย่างใกล้ชิด ตลอดจนจัดส่งหุ่นยนต์อัจฉริยะ True 5G “เทมิ” และมอบอุปกรณ์สื่อสารพร้อมซิม อำนวยความสะดวกบุคลากรทางการแพทย์ด้วย”
นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) กล่าวว่า “สถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มทรู ได้เรียนรู้ถึงความต้องการของสังคมไทยทั้งในส่วนของประชาชนที่ต้องเว้นระยะห่างและอยู่บ้านมากขึ้น แต่ยังต้องการปรึกษาปัญหาสุขภาพ รวมทั้งในส่วนแพทย์ พยาบาล ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ จึงเป็นที่มาของการนำเทคโนโลยีดิจิทัลของกลุ่มทรูมาต่อยอด พัฒนาโซลูชันแพลตฟอร์ม ‘ทรู เฮลท์’ เพื่อให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการแพทย์ ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านแอป โดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล
รวมถึงแพลตฟอร์ม Teleclinic ที่ช่วยรพ.คัดกรองผู้ป่วยโควิด-19 เบื้องต้น และให้สื่อสารกับคนไข้ที่อยู่ที่บ้านผ่านวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ อีกทั้งทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน Analytic ยังได้พัฒนาระบบ Analytic heat map report สนับสนุนภารกิจกรมควบคุมโรค ให้สามารถวางแผนควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ดร.ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) กล่าวว่า “กลุ่มทรู อยากดูแลให้ลูกค้าอยู่บ้านอย่างปลอดภัย และเข้าใจถึงความต้องการใช้งานดาต้าที่เพิ่มมากขึ้นจากการทำงานและเรียนออนไลน์ที่บ้าน จึงมีมาตรการดูแลลูกค้าในด้านต่างๆ ทั้งสนับสนุนแพลตฟอร์ม True Virtual World ให้เรียนออนไลน์ผ่าน VLEARN ทำงานได้ทุกที่ผ่าน VWORK ประชุมผ่าน VROOM รวมถึงคอนเทนต์หลากหลายจากทั่วโลกผ่าน VLIVE
อีกทั้งยังจัดเตรียม “แพ็กเกจพิเศษทรูสู้โควิด” บริการฟรีและบริการราคาพิเศษ พร้อมส่งตรงถึงบ้าน ตลอดจนเพิ่มช่องทางบริการและสั่งซื้อสินค้าผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อสนับสนุนกลุ่มลูกค้าผู้ใช้บริการทรูอีกด้วย”
ทั้งนี้ กลุ่มทรู พร้อมเดินหน้าส่งมอบความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เต็มที่ และขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจเคียงคู่สู้โควิด เพื่อให้คนไทยและประเทศไทยก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
