เปลว สีเงิน
วันที่ ๓ ของการอภิปราย
ครึ่งแรก “แดงส้ม” ฟอร์มบู่
“๓ ป.” โชว์เหนือชั้น
ป.ประยุทธ์ “ดาวเด่น” ของทีม เตะตัดลูกในตีนแดงส้มจากครึ่งสนามไปคลึงเล่นสบายๆ ทำเอาฝ่ายชิงแชมป์เสียขบวน แฟนๆ บ่นปนสบถกันพรึม
แต่พอเข้าครึ่งหลัง “แดงส้ม” แก้เกมมาดี นักเตะแต่ละสังกัดที่ร่วมทีมค้าน เริ่มเล่นเข้าขา
ปรากฏว่า ทีม ๓ ป.ถูกตี “ไข่แตก” จนได้!
แค่ ๕ นาทีแรก “ครึ่งหลัง….
“ดร.สุรเชษฐ ประวีณวงศ์วุฒิ” ก้าวไกล”, ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ “เพื่อไทย, “ประเสริฐ จันทร์รวงทอง” เพื่อไทย และ “จิรายุ ห่วงทรัพย์” เพื่อไทย
แท็กทีม “บุกทะลวง” เตะอัดแบบถึงลูก-ถึงคน เปรี้ยงๆๆๆ กองหน้า-กองหลังของทีม ๓ ป.ล้มผลึ่ง หงายท้อง!
อาการถึงขั้น “ลงเปล” หามออกไปประคบ-ประหงมข้างสนาม ท่ามกลางเสียงซุบซิบ ไม่รู้สงสาร หรือสมน้ำหน้าจากแฟนๆ
ข้อมูลฝ่ายค้านแน่น
ฝ่ายรัฐบาลก็แน่น หากแต่แน่นแบบจุกเสียด “เขาถามช้าง ไปตอบม้า” มันก็…มีความน่าจะเป็นแบบนี้
“พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา” รมว.มหาดไทย “พี่รอง” ของท่านนายกฯ
ถูก สส.ประเดิมชัย ทุ่มโรงกำจัดขยะกทม. ใส่ ลุกขึ้นมาอึกอัก นี่..ผมก็ไม่เกี่ยว นั่น..ผมก็ไม่มีอำนาจ
สรุปแล้ว ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องมีรัฐมนตรีหมาดไทยก็ได้ เพราะอะไรๆ ก็ไม่เกี่ยว ส่วนปลัดมท.จะเกี่ยวมั้ย ก็ไม่รู้
ปิดประชุม พลเอกอนุพงษ์หาประตูออกเจอหรือเปล่าไม่รู้!
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีคมนาคม มีอาการไม่ต่างกัน ดร.สุรเชษฐ์ อัดตอนดึกเรื่องรถไฟฟ้าว่าด้วยคมนาคมโครงสร้างพื้นฐาน นอนตาค้างไปคืนก่อน
รุ่งเช้า “สส.จิรายุ” มาล้างหน้าไก่ต่อ
เรื่องล้มประมูลรถไฟสายสีส้ม ข้อมูลยังกะแอบนอนใต้เตียงฟังผัวเมียเขาคุยกัน
ทำเอารัฐมนตรีศักดิ์สยาม ออกอาการลมใส่ หน้ามืด-ตาลาย ไม่รู้จะต่อรถไฟสายไหนกลับบุรีรัมย์
ลงเปลหามดีกว่า!
รัฐมนตรีพาณิชย์ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” ก็คงนึกไม่ถึง ว่าเลขาฯ พรรคเพื่อไทย “ประเสริฐ จันทร์รวงทอง” มวยเหรียญเงิน จะหมัดหนักขนาดนี้
ล้วงท้องจึ๊กเดียวด้วยเรื่อง “จัดซื้อถุงมือยาง” ของ อคส.ที่อื้อฉาวข้ามปี แต่ไม่สิ้นคาว
คงจับเปาะเข้าลิ้นปี่แหงๆ
ท่านรัฐมนตรีจุรินทร์ถึงจุกแอ่ดๆ จนจำไม่ได้ ว่าใครต่อใครในขบวนการ ใช่คนประชาธิปัตย์ตั้งเข้าไปในขบวนหรือไม่?
แต่อาศัยเป็นนักเตะชาญสนาม งัดวิชา “ไปไหนมา-สามวาสองศอก” ประคองตัว
แต่ไม่ไหว อาการต้อง “ลงเปล” หามอย่างว่า!
นี่….
เท่าที่ผมดูมั่ง ไม่ได้ดูมั่ง การอภิปรายเมื่อวาน (๑๘ กพ.๖๔) เช้าถึงเย็น จบจากนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนรีช่วยมหาดไทย แล้ว ก็พักดู มานั่งคุยกับท่านนี่แหละ
วันนี้ ๑๙ กุมภา.อีกวัน โหวตกันเสาร์ที่ ๒๐ หรือจะยืดเยื้อไปอีก ก็ต้องตามดู สส.เป็นใหญ่ในแผ่นดินอยู่แล้ว
ถ้าจะให้ประเมิน แล้วสรุปคะแนนจาก ๓ วัน ใครมีภาษีกว่ากัน?
ก็ไม่รู้นะ แต่ถ้าเอาเฉพาะผม จะบอก
ครึ่งแรก ฝ่ายค้านทื่อ แถมออกลูกดิบๆ คนดูรังเกียจ
ทำให้ฝ่ายรัฐบาล แม้ฝ่ายค้าน “ถามไม่ตรงคำตอบ” แต่ด้วยลูกเล่นและชั้นเชิงแพรวพราวของนายกฯ ประยุทธ์
ช่วยให้รัฐบาล มีคะแนนเหนือกว่าฝ่ายค้าน!
ตกครึ่งหลัง จากรอบดึกคืนที่ ๒ ต่อวันที่ ๓ คือเมื่อวาน ต้องชมว่า….
ฝ่ายค้าน ด้วยผู้อภิปรายตามชื่อที่เอ่ยไปข้างต้น ทำการบ้านมาดี ข้อมูลใช้ได้ ลีลาอภิปรายดี
รัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ท่านก็ตอบของท่านได้
แต่เสียดาย ตอบตามที่ตัวเองอยากตอบ ไม่ตรงประเด็นที่เขาถาม ทั้งรัฐมนตรีมหาดไทย, คมนาคมและพาณิชย์
อาจชนะด้วยเสียงในสภา
แต่เสียงนอกสภา อาจแพ้ เพราะตอบไม่เคลียร์ ทิ้งประเด็นคาใจคนฟัง!
ทั้งเรื่องโรงกำจัดขยะ เรื่องรถไฟฟ้าสีส้ม-สีเขียวที่พันไปถึงการล้มประมูลและอัตราค่าโดยสาร และเรื่องจัดซื้อถุงมือยางที่คู่มากับปัญหาโควิด
ถ้าคะแนนเต็มร้อย ถามว่า ในทัศนะผม แต่ละท่านจะได้กันคนละเท่าไหร่ ก็เอาไปเลย
รัฐมนตรีพลเอกอนุพงษ์ ได้ ๑๐
รัฐมนตรีจุรินทร์ ได้ ๕
รัฐมนตรีศักดิ์สยาม ได้ ๕
คะแนนนี้ ไม่ได้หมายความว่า รัฐมนตรีเหล่านั้นสอบตกนะ
มันเป็นคะแนนในความหมายว่า ผมฟังการอภิปรายของฝ่ายค้านประกอบข้อมูลที่เขานำเสนอแล้ว เมื่อได้ฟังคำตอบเป็นการแก้โจทย์จากฝั่งรัฐบาล
ไอคิวผม รับรู้ได้แค่นั้น!
ไม่เหมือนราย “นายนิพนธ์ บุญญามณี” รมช.มหาดไทย ที่ถูกอภิปราย จากเรื่องโครงการเมืองอุตสาหกรรมต้นแบบแห่งอนาคต ที่อำเภอจะนะ สงขลา
ตอนสส.ก้าวไกลอภิปรายกล่าวหา ทั้งเรื่องเก่า-เรื่องใหม่ โกงทั้งนั้น เพื่อพวก-เพื่อพ้อง ทั้งนั้น
ฟังก็ โอ้โฮ…นิพนธ์ตายแน่!
แต่พอรัฐมนตรีนิพนธ์ลุกขึ้นตอบ จากผู้ร้าย กลายเป็นพระเอกประจำวันไปเลย
ต้องชมนายนิพนธ์เป็น “ต้นแบบ” การโต้ตอบข้อกล่าวหาในสภา เขากล่าวหาข้อไหน ก็เคลียร์ให้ชัดไปเป็นข้อๆ ตามนั้น
ไม่ใช่ลีลาขี่ม้าเลียบค่าย เขาถามวัว ไปตอบควาย แล้วงัดระเบียบปฏิบัติทางราชการต่างๆ นาๆ มาท่องจำเป็นคำตอบ
ความองอาจ ฉาดฉาด ไม่อึกอัก ไม่อู้อี้เหมือนถูกผีอำ ไม่หลบตา ไม่พูดจาประจบฝ่ายค้านจนเกินงาม เป็นบุคลิกเสริมความน่าเชื่อถือในคำตอบอย่างหนึ่ง
ผมไม่มีความรู้เรื่องที่จะนะ แต่ฟังคำตอบนายนิพนธ์ จากเรื่องซับซอน แต่การนำข้อเท็จจริงมาตอบด้วยศิลปะการลำดับความ ต้องบอกว่า ฟังแล้ว เข้าใจง่าย
ทั้งเคลียร์ ทั้งกระจ่างพอสมควร เรื่องจะนะ!
อีกท่านที่ขอชม คือ ดร.สุรเชษฐ พรรคก้าวไกล
การอภิปราย ต้องบอกว่า “ทรงภูมิ” และการนำเสนอรวมทั้งลีลา คนอื่นๆ ควรดูไว้เป็นแบบอย่าง
ด้าน “ค้านในเนื้อหา-พูดจาในรู้จริง”
เพื่อประโยชน์สังคมชาติ มิใช่ฟาดฟันเพื่อการแย่งชิง!
นายประเสริฐ จันทร์รวงทอง เป็นอีกคนที่ อภิปรายด้วยวุฒิภาวะ ไม่มาก-ไม่น้อย สมเป็นผู้ใหญ่ระดับเลขาฯ พรรค
ส่วนนายจิรายุ ข้อมูลท่านน่าฟัง
แต่อยากบอกในฐานะคนดู-คนฟัง ถ้าปรับลีลาน้ำเสียงการพูดจาซะหน่อย จะเป็นที่ชื่นชอบของคนฟังอีกมาก
เอาละ แถมท้ายนิด ……..
“ศาลรัฐธรรมนูญ” รับคำร้องแล้วเมื่อวาน (๑๘ กพ.) ที่สส.ไพบูลย์-สว.สมชาย ร้องให้ “วินิจฉัยความชอบด้วยกฏหมายอำนาจรัฐสภา ตั้ง ส.ส.ร.ร่างรธน.ฉบับใหม่”
ศาลฯ ให้ผู้เกี่ยวข้อง นายมีชัย ฤชุพันธุ์, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ, นายสมคิด เลิศไพทูรย์, นายอุดม รัฐอมฤต
ทำความเห็นเป็นหนังสือ….
ยื่นศาลฯ ภายใน ๓ มีค.๖๔ และศาลฯ นัดประชุมครั้งต่อไป ๔ มีค.๖๔
ปมขมวด เร้าใจ ใกล้ “กระตุกฉาก” ขึ้นมาทันที!