เป็น “เวรกรรม” ประเทศ #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

“มิติพิศวง” แห่งประเทศ วันนี้
ในขณะที่ “ผู้ถือธงนำ” เป็นตัวสร้างความ “ขายหน้า”
ตั้งแต่เข้ามา บริหารมุ่งแต่ทาง “ผลาญเงินประเทศ”
“เป็นคน”

แต่ผู้สร้างรายได้เป็นเงิน-เป็นทองจากท่องเที่ยวให้ไหลเข้ามา ซ้ำเป็นตัว “กู้หน้า-กู้ตา” ประเทศให้ชื่อกระฉ่อนโลกทางชื่นชม
กลับ “เป็นสัตว์”!

“หมูเด้ง” นั่นไง เกิดมา “ไม่รกแผ่นดิน” นับเป็น “อภิชาติสัตว์”
พ่อชื่อ “โทนี่” แม่ชื่อ “โจนา” ก็จริง

แต่ “หมูเด้ง-ลูก” ไม่กินชาติ ไม่ผลาญงบ งับๆ แต่ผักหญ้า คนแห่มาดู “หมูเด้ง…เด้ง…เด้ง…เด้ง” ดูดคนทั้งโลกให้บินมาดู
ได้เงินเข้าประเทศนับพันๆ ล้าน เข้าสวนสัตว์เขาเขียววันละหลายล้าน จากความน่ารัก

“ไม่เสร่อ” เหมือนคน
“ทั้งบ้าน-ทั้งเมือง” อับอาย วันๆ ผู้นำสร้างแต่ความขายหน้า มีแต่เสียงตะโกนให้เด้งออกไป

แต่ใจ “ด้าน” ซะอย่าง อยู่ต่อ “ตามพ่อสั่ง” ใครจะทำไม
ก็ให้มันรู้ซะมั่ง….ว่ากู ลูกใคร?

ว่าแต่ว่า แล้วนี่…รู้กันยัง
“ดอกเบี้ย-ดอกหอย” ที่ตะแหง่วและรอคอยให้ลด
ลดแล้วจ้า…ลดแล้ว!

ที่ประชุม “คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)เมื่อวาน มีมติ ๕-๒ ลดดอกเบี้ยนโยบาย ๐.๒๕%
จากเดิมอยู่ที่ ๒.๕๐% เหลือ ๒.๒๕%
สมใจอยาก “รัฐบาลเพื่อไทย” ซะที อ้างตั้งแต่เป็นรัฐบาลวันแรกถึงวันนี้ เข้าปีที่ ๒ ร่องแร่ง

โทษว่า…ที่เศรษฐกิจไม่ฟื้น เพราะ “แบงก์ชาติ” ไม่ยอมลดดอกเบี้ย!?

วันนี้ กนง.เขาลดให้แล้ว
หวังว่า ด้วยฝีมือคนเก่งเต็มพรรคเพื่อไทยตามคุยตอนหาเสียง เมื่อปัญหาเรื่องดอกเบี้ยหมดไป

ด้วยการทำงานรัฐบาล เศรษฐกิจคงติดเครื่อง โตได้ปีละ ๓-๕% ตามราคาคุยนะ

ผมจะรอดู…..นายกฯ แพทองธาร
ภายใต้อภิบาลของนายกฯ น้อยนามว่า “ภูมิธรรม” และขุนคลัง “พิชัย ชุณหวชิร” ไต๋เด็ดก้นกระเป๋าเจ้าของคอก
ว่าเมื่อดอกเบี้ยลดตามที่ร้องจนดิ้นกันพราดๆ
“สตาร์ทฉึก” เศรษฐกิจะ “ติดฉับ” ทำได้จริงขนาดไหน?

เมื่อ ๒๕ กันยา.ก็ทุ่มเงิน “กู้มาแจก” ตามสัญญาหาเสียงคนละ ๑๐,๐๐๐ บาทรอบแรกไปแล้ว ๑๔๕,๕๕๒ ล้านบาท

เคยอ้างไว้ว่า แจกคนละหมื่นแล้ว จะไปสร้าง “พายุหมุน” กระชากเศรษฐกิจให้ตื่น

ขึ้นชื่อว่าพายุย่อมมาเร็ว แต่พายุของรัฐบาลเพื่อไทยเป็น “ลมพัดชายเขา” มากกว่าละมั้ง ทุ่มลงไปจะใกล้เดือน แต่…เงียบฉี่

ถ้าลมตดเรียกว่า “พายุหมุน” ยังพอได้กลิ่น
แต่นี่ แสนกว่าล้านบาท เหวี่ยงออกไป แล้วไหนล่ะ…

ที่ว่าแจกแล้วเศรษฐกิจจะตื่นจากเงินกระตุ้นนั่นน่ะ!?

วันนี้ ก็ได้ตามเงื่อนไขที่ร้องขออีก คือ กนง.ลดดอกเบี้ยนโบบายให้แล้ว ๒๕ สตางค์

ก็จะรอดู ตามทฤษฎีเศรษฐกิจ ๑+๑ เป็น ๒ ของเพื่อไทย ว่าลดดอกเบี้ยแล้ว เงินบาทจะอ่อน ระบบเศรษฐกิจจะไหลลื่น สินค้าไทยในตลาดโลกจะขายคล่อง

ถ้าเป็นตามนั้น จะบอกเทวดาทักษิณว่า ถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลสมัยหน้า ต้องให้ “พิชัย นริพทะพันธุ์” นั่งควบ ๒ กระทรวง ทั้งพาณิชย์และคลังไปเลย

เพราะเมื่อวาน ได้ยินเสียงแจ๋วๆ…..

“ปัจจุบันค่าเงินบาทแข็งค่า กระทบภาคส่งออก ก็เหมือนกับการที่กระทรวงพาณิชย์ที่ผลักดันเรื่องการส่งออกเหมือนกับถูกเตะสกัดขา เพราะเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้กระทบกับรายได้จากการส่งออก”

เขาสลายอุปสรรคที่ว่า “ถูกเตะตัดขา” ให้แล้ว ถ้า “ส่งออก” ไม่ดีขึ้น ถูกเบิ๊ดนะท่าน!

เมื่อวาน “นายกฯแพทองธาร” นำทีมเปิดโครงการ “ฟื้นฟูเศรษฐกิจ” ๒ ลด ๑ เพิ่ม
โครงการมีระยะเวลา ๕ เดือน!?

นี่เดือนตุลา.อีก ๕ เดือน ก็โน่น…ราวๆ เดือนมีนา.๖๘ ผมก็ไม่แน่ใจนะว่า “รัฐบาลนี้” จะอยู่ถึง ๕ เดือน!?

ก็ไม่เป็นไร คำสบประมาทไม่ได้มีไว้ให้ท้อ แต่มีไว้ทิ่มให้ทะลุ ฉะนั้น ผมเอาใจช่วยให้สำเร็จ

อย่าล้มเหมือนร่าง “พรบ.นิรโทษกรรม” ฉบับดันสุดซอยที่จะเข้าสู่สภาวันนี้ (๑๗ ตุลา.) ก็แล้วกัน ดูท่า จะล้มอีกเป็นครั้งที่ ๒ ที่ ๓ ซะแล้ว

เพราะพรรคร่วม “ภูมิใจไทย-รวมไทยสร้างชาติ-ประชาธิปัตย์” เอาด้วย “ทุกอย่าง”

ยกเว้น “นิรโทษกรรมพวกผิดมาตรา ๑๑๒” พรรคร่วมทั้ง ๓ พรรค “เขาไม่เอาด้วย”!

เอ้า…มาดูซิ แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ “๒ ลด ๑ เพิ่ม” ของรัฐบาลเพื่อไทย สืบต่อโครงการแจกแล้วคนละหมื่น ว่ามีอะไรบ้าง

ลดแรก- “ลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการรายเล็ก
ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม ลดค่าเช่าร้านแผงและพื้นที่ของหน่วยราชการและเอกชนเข้าร่วม

เช่น ในพื้นที่กรุงเทพฯ กทม.ให้ความร่วมมือลดค่าเช่า ๕๐% ใน ๑๒ ตลาด ได้ลดค่าเช่าถึงสิ้นปี

พื้นที่กระทรวงพาณิชย์และหน่วยราชการ ยกเว้นค่าเช่าให้ผู้ประกอบการกว่า ๓ พันราย

แล้วยังมีการลด “ค่าส่งสินค้า” เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างไปรษณีย์ไทยกับหน่วยงานราชการ

ให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ หอการค้าไทย และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้ “ลดค่าส่งสินค้า” ทั้งหมด

ลดที่สอง-ลดค่าครองชีพให้กับประชาชน

โดยผู้ผลิตและผู้ค้าส่งรายใหญ่จะลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและจัดงานมหกรรมลดราคาสินค้า

มีทั้งภาคเอกชนและผู้ผลิตรายใหญ่ ห้างสรรพสินค้า ผู้ให้บริการในปั๊มน้ำมัน แพลตฟอร์มขายออนไลน์ ๑๓๐ ราย ร่วมกันลดราคาสินค้าในโครงการ

เพิ่มที่สาม-เพิ่มพื้นที่ขายให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก เอาพื้นที่หน่วยงานราชการและพื้นที่ของเอกชนให้ผู้ประกอบการรายเล็กได้ใช้ทำมาหากินเพิ่มมากขึ้น

เช่น “กลาโหม” นำพื้นที่ค่ายทหารมาทำเป็นตลาดนัด “มหาดไทย” ใช้ลานหน้าศาลากลางจังหวัด
รวมถึงจะจัดตลาดพาณิชย์กว่า ๑,๓๐๐ ครั้ง ในพื้นที่ทั่วประเทศ

นี่คือแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจต่อเนื่องของรัฐบาลที่นายกฯแพทองธารเปิดตัวไปแล้วเมื่อวาน

ก็ไม่อยากพูดอะไรในทางบั่นทอนความมุ่งมั่นรัฐบาลหรอก นอกจากคำเดียวที่จะบอกว่า

ถ้าจะกระตุ้นเศรษฐกิจสไตล์งานวัดแบบนี้ ผมจะแนะให้ นายกฯ รู้มั้ย โยกย้ายข้าราชการปีนี้ ท่านเอาของดีมาเก็บซุกไว้ที่สำนักนายกฯ แต่มองเห็นคุณค่า

“ดร.ยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร” ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ที่ปลุกกระแสวัฒนธรรมไทยอิงท่องเที่ยวให้ตื่น

และเป็นผู้รังสรรค์งาน “ระดับชาติ” ให้เป็นหน้า-เป็นตาประเทศ ถึงขั้น “แขกนานาชาติ” ตื่นตา-ประทับใจมาแล้วในรอบทศวรรษ

เดือนที่แล้ว อ่านข่าวว่า ย้าย “ปลัดยุพา” จากกระทรวงวัฒนธรรมมาเก็บไว้ที่สำนักนายกฯ ในตำแหน่งปลัดสำนักนายกฯ

คนนี้แหละ นายกฯ อย่า “ใกล้เกลือกินด่าง” ไปเลย ดูตามแผน ๕ เดือนนี้ ผล “เหลวตามเคย”

ให้ปลัดยุพา ช่วยแปลง ๕ เดือน ที่น่าเสียดายนี้ ให้เป็น ๕ เดือนที่มีความหมาย ส่งผลต่อเศรษฐกิจระดับฐานรากจับต้องได้จริงจังตามที่รัฐบาลตั้งหวัง จะสมหวัง

ปฎิทินงานตามเทศกาล “ปลายปี-ต้นปี” ของประเทศอยู่ในคอมพิวเตอร์สมองดร.ยุพาหมดแล้ว

รัฐบาลเพียงบอกเป้าหมายที่ต้องการให้เท่านั้น ดร.ยุพาท่านจะใช้ประโยชน์จากงานเทศกาลปลายปีซึ่งมีมากมายทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ประเทศ

ทั้งออกพรรษา ลอยกระทง งานภูเขาทอง งานพระปฐมเจดีย์ งานพระเจดีย์กลางน้ำ งานวันวชิราวุธ งานคริสมาสต์ งาน ปีเก่า-ปีใหม่ งานตรุษจีน …ขี้เกียจจาระไน

ไม่ต้องฝืนธรรมชาติเปิดพื้นที่หน่วยราชการหรือบีบให้พ่อค้านำสินค้ามาขายพอเป็นพิธีหรอก

๕ เดือนต่อจากนี้ พื้นที่เพื่อ “เศรษฐกิจชาวบ้าน” ผ่านงานเทศกาลต่างๆ มันพรึ่ดทั้งประเทศตามวัฒนธรรม-ประเพณี

รัฐบาลเพียงรู้จักใช้ “จังหวะ-เวลา-สถานที่” เท่านั้น แล้วสอดแทรกแฝนเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจเข้าไป ก็เกียจจะค้า-จะขาย

เพราะแต่ละเทศกาล คนเป็นพัน-เป็นหมื่น เงินสะพัดไม่รู้เท่าไหร่ รัฐบาลจะไปจัดงานอะไรเองที่ฝืนธรรมชาติสังคมให้เปลืองงบไปทำไม

บอก “ปลัดยุพา” คำเดียว ทุกอย่าง “ครบ-จบจริง” บอกไม่เชื่อ

เพชรอยู่ในสำนักนายกฯ แท้ๆ กลับไม่ใช้ ไป Kick Off อะไรก็ไม่รู้…เฮ้อ
ใช้คนผิด “ชีวิตเปลี่ยน” จริงๆ ยุคนี้!

เปลว สีเงิน
๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๗

Written By
More from plew
“ลุงตู่” ทำให้ไทย “ถูกนินทา” – เปลว สีเงิน
คลิกฟังบทความที่…? เปลว สีเงิน เคยได้ยินคำว่า “ทฤษฎีโดมิโน” กันใช่มั้ยครับ? ช่วง ๒๕๐๐-๒๕๒๒ ประมาณนั้น “ระบอบคอมมิวนิสต์” ขยายตัวทั่วเอเชีย จีน...
Read More
0 replies on “เป็น “เวรกรรม” ประเทศ #เปลวสีเงิน”