ผักกาดหอม
เขย่าพอหอมปากหอมคอ
“เบน สมิธ” ชื่อนี้ตอนนี้ เหม็นยิ่งกว่าขี้ ไม่มีใครอยากเข้าใกล้
ไอ้ที่พลาดเอามือไปเตะแล้ว ก็ชี้แจงกันไป
คนปล่อยก็กะให้ภาพเดียวมันเล่าเรื่องนั่นแหละครับ
คนเชื่อมีเยอะ
ที่ไม่เชื่อก็มีไม่น้อย
ที่รำคาญก็มหาศาล
สุดแท้แต่ใจจะสั่งมาครับ
ภาพ “เบน สมิธ” กับนายกฯ อนุทิน, เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ, พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์, สารัชถ์ รัตนาวะดี ถ้าเหมาเอาว่า นี่คือเครือข่ายสแกมเมอร์ ก็คงจะเป็นเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ที่สำคัญรอดหูรอดตาอเมริกามาได้อย่างไร
รายงานของกระทรวงการคลังสหรัฐปี ๒๕๖๗ มีชาวอเมริกันสูญเสียเงินอย่างน้อย ๑ หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๓.๓ แสนล้านบาท ให้กับสแกมเมอร์
มีการคาดการณ์ว่า คนทั่วโลกตกเป็นเหยื่อของอาชญากร สูญเสียกว่า ๑.๙ ล้านล้านบาทต่อปี
โดยที่ศูนย์ใหญ่ของแก๊งสแกมเมอร์อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะเมียนมาและกัมพูชา ถูกจับตามองจากสหรัฐและจีนเป็นพิเศษ
ฉะนั้นถ้าให้ภาพเดียวเล่าเรื่องแล้วสรุปว่าคนในภาพคือระดับหัวกะทิของแก๊งสแกมเมอร์ นี่คือแก๊งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อเมริกาต้องมีข้อมูลอยู่ในมือแน่นอน
แล้วมันเป็นเช่นนั้นหรือเปล่า
ถ้าจะบอกว่า ภาพที่ “เบน สมิธ” ถูกแอบถ่าย ร่วมเฟรมกับ “ทักษิณ ชินวัตร” และ “ธรรมนัส พรหมเผ่า” แบบสดๆ ร้อนๆ ไม่ใช่ภาพเมื่อ ๑๐ กว่าปีที่แล้ว เป็นภาพที่น่าเชื่อถือกว่าหากจะบอกว่าร่วมก๊วนสแกมเมอร์ พรรคเพื่อไทยจะเถียงหรือเปล่า
ภาพ “เบน สมิธ” กับนายกฯ อนุทิน และคณะ ไม่ใช่ภาพแอบถ่าย
แต่ถ่ายตรงๆ
และพร้อมให้เผยแพร่
ถอยไป ๑๐ ปีที่แล้ว ไม่มีใครรู้ถึงสถานะของ “เบน สมิธ” ว่าทำอะไร เป็นนักธุรกิจประกอบกิจการอะไร
แต่…ปีสองปีนี้รู้กันเยอะพอควรว่า “เบน สมิธ” คือฝรั่งเทา มีส่วนพัวพันกับแก๊งสแกมเมอร์
มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับสแกมเมอร์ในเขมร
“เบน สมิธ” ชายที่ต้องการได้สัญชาติไทย เชื้อสายผสม แอฟริกาใต้ แคนาดา กัมพูชา เข้าไปคลุกคลีตีโมงกับบุคคลระดับชนชั้นนำของประเทศไทยได้อย่างไร
ใครเป็นคนปูทาง
เห็นโฆษกพรรคเพื่อไทย “ศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ” ออกมาแถลงฉอดๆ
“…ถึงแม้จะเป็นรูปเก่าตามที่ได้รับการชี้แจง แต่รูปที่ออกมาก็เห็นได้ชัดว่าอยู่ในหลายสถานที่ หลายเวลา หลายกรรม หลายวาระ ซึ่งล่าสุดท่านอนุทินบอกว่าเจอกัน ๕-๖ ครั้ง แสดงว่าความสัมพันธ์คงไม่ใช่แค่การเจอกันผ่านๆ ในงาน ขอตั้งข้อสังเกตว่าความสัมพันธ์นี้ลึกซึ้งแค่ไหน
ประเด็นที่สอง ที่ผ่านมาสังคมและพรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามเกี่ยวกับบุคคลในรูปหลายครั้งว่ามีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ และมีคำถามไปยังบุคคลในรัฐบาล โดยเฉพาะนายกฯ หลายครั้ง ว่าทำไมก่อนหน้านี้นายกฯ ไม่เคยมีความโปร่งใสในการชี้แจงเรื่องเหล่านี้มาก่อน จนกระทั่งมีรูปออกมาในสื่อแล้วจึงค่อยมาชี้แจง
ประเด็นที่สาม เรื่องราวในรูปเหล่านี้เกี่ยวโยงกับความล่าช้าในการจัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของรัฐบาลหรือไม่ และเกี่ยวกับการจัดการกับบุคคลในรัฐบาลที่มีข่าวเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ พร้อมยกตัวอย่างกรณี รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ออกมาพูดตอนรับตำแหน่งใหม่ๆ ว่ามีคนเสนอสินบน ๔๐ ล้าน จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบว่าคนคนนั้นเป็นใคร จึงต้องตั้งข้อสังเกตว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่…”
ประการแรกไปถาม “ทักษิณ” หรือยังว่า ภาพแอบถ่ายนั้น “ทักษิณ” มีความเกี่ยวพันกับ “เบน สมิธ” อย่างไร
หรือว่าเจอกันโดยบังเอิญ และ “ทักษิณ” ไม่รู้จัก
เมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน ที่ผ่านมานี่เอง “ทักษิณ” ซึ่งอยู่ในคุกพูดผ่านทนายความส่วนตัว “วิญญัติ ชาติมนตรี” ถึงความสัมพันธ์กับ “เบน สมิธ”
“ที่ผมได้พูดคุยกับคุณทักษิณ ก็ได้มีการรายงานหลายๆ เรื่อง ประกอบกับมีเรื่องของสถานการณ์บ้านเมืองบางส่วนที่บางกรณีมาพาดพิงคุณทักษิณ ตามที่เห็นเป็นข่าว
คุณทักษิณได้แจ้งเรียนตามตรงว่าไม่เคยเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ หรือพนันออนไลน์ใดๆ ดังนั้น คนที่แอบอ้างหรือกล่าวหา หรือจัดทำ Infographic (ภาพประกอบ) เผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตนั้น ได้มีการติดตามมอนิเตอร์ดูอยู่ และจะพิจารณาดำเนินคดี…”
“…กรณีของนายเบน สมิธ เป็นเพียงความรู้จัก แต่คุณทักษิณไม่เคยร่วมลงทุนอะไรด้วย และก็ขอให้ไปตรวจสอบดูเลยว่านายเบน สมิธ ได้มีการลงทุนทำอะไรในประเทศไทยหรือไม่ ผมเชื่อว่าไม่มี
ฉะนั้น ถ้าไม่มีและเขาไม่ได้เกี่ยวข้องจริงๆ การที่ไปจับแพะชนแกะ หรือพยายามโยงให้เป็นประเด็นหรือกระแสใดๆ ก็อยากให้หลายท่านได้ทบทวน…”
ชัดนะครับ “ทักษิณ” รู้จัก
ไม่ทราบว่าสนิทสนมแค่ไหน
แต่ที่แน่ๆ ไม่มีภาพถ่ายอย่างเปิดเผยระหว่าง “ทักษิณ” กับ “เบน สมิธ” เลย
มีแต่ภาพแอบถ่าย!
ผิดกับภาพถ่าย “เบน สมิธ” กับ นายกฯ อนุทิน และคณะ
ทุกรูปเป็นการถ่ายอย่างเปิดเผย
คนถูกถ่ายรูปยินดีให้ถ่าย ไม่มีอะไรปิดบัง
ฉะนั้นความปรารถนาที่ว่า ภาพเดียวล้มรัฐบาล จึงยังไม่เกิด
ประการถัดมา ในรัฐบาลเศรษฐา หรือรัฐบาลแพทองธาร ทำไมไม่มีการยึด อายัดทรัพย์ของแก๊งสแกมเมอร์
และทำไม ภาพถ่ายนี้ถูกปล่อยออกมาหลังรัฐบาลแถลงข่าวยึดและอายัดทรัพย์สินในคดีสำคัญที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการสแกมเมอร์
มูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า ๑๐,๑๖๕ ล้านบาท
ภาพไม่ได้หลุดออกมาโดยไม่มีเป้าหมายใดๆ
การหวังผลทางการเมืองนั้นมีแน่นอน แต่ยังมีอะไรซ่อนอยู่อีกหรือไม่
แก๊งสแกมเมอร์แทรกซึมอยู่ในวงการการเมืองไทยมากกว่าที่หลายคนคิด
นักการเมืองไทยคนไหนคบหากับ “เบน สมิธ” ใครไม่คบหา พฤติกรรมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันสามารถพิสูจน์ได้
พรรคเพื่อไทยช่วยให้คำตอบที ทำไมช่วงรัฐบาลระบอบทักษิณ ถึงไม่มีการยึด อายัดทรัพย์แก๊งสแกมเมอร์อย่างที่เกิดขึ้นในรัฐบาลอนุทิน
รัฐบาลนี้เพิ่งเข้ามาทำงาน ๒ เดือนเท่านั้นเองนะครับ
ช่วยตอบที.

