20 พฤศจิกายน 2568 – นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะประกอบด้วย นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยเครื่องบิน Airbus-320 ของกองทัพอากาศ ไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
โดยการเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการครั้งนี้นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานพิธีส่งมอบโครงการเพิ่มศักยภาพการรองรับและการไหลของแม่น้ำปิง เพื่อป้องกันอุทกภัยเขตเมืองเชียงใหม่ ระยะเร่งด่วน บริเวณพื้นที่สาธารณประโยชน์ริมแม่น้ำปิง (เชิงสะพานเม็งราย) อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานสักขีพยานในโอกาสผู้บัญชาการทหารสูงสุดส่งมอบโครงการฯ ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ด้วย ก่อนนำคณะปล่อยพันธุ์ปลา บริเวณริมแม่น้ำปิง โดยเป็นพันธุ์ปลา ตะเพียนและปลาสวาย จาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเชียงใหม่รวมทั้งหมด 100,000 ตัว
ทั้งนี้โครงการขุดลอกแม่น้ำปิง เป็นโครงการที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อแก้ไขปัญหาการตื้นเขินของลำน้ำ ป้องกันน้ำท่วมในฤดูฝนเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของแม่น้ำปิง ให้กลับมาสวยงามและเป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคของประชาชนถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของการพัฒนาที่ยั่งยืนภายใต้แนวคิด “น้ำคือชีวิต เพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชน” ซึ่งการขุดลอกแม่น้ำปิงเป็นการดำเนินโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากการเกิดอุทกภัยอย่างหนักในปี 2567 ทำให้จังหวัดต้องเร่งดำเนินการขุดลอกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและลดความเสี่ยงน้ำล้นตลิ่ง โครงการดังกล่าวมีงบประมาณ 355 ล้านบาท ดำเนินการโดย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ผ่านสำนักงานพัฒนาภาค 3 ซึ่งการขุดลอกนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความลึกและความกว้างของแม่น้ำ โดยมีบางส่วนที่เริ่มดำเนินการแล้ว เช่น การขุดลอกลำเหมืองพญาคำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำปิง โดยการขุดลอกครั้งนี้ ระยะทางรวม 41 กม. ครอบคลุมพื้นที่ ตั้งแต่ ต.สันโป่ง อ.แม่ริม ผ่านเขต อ.เมือง ลงไปจนถึง ต.สบแม่ข่า อ.หางดง
นอกจากนี้ การลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี จะแถลงผลการดำเนินคดีกับขบวนการนำคนต่างด้าวมาสวมตัวและทำหลักฐานเท็จ ในพื้นที่อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ และผลปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ณ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
โดยนายกฯ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทาง ว่า วันนี้จะเดินทางไปติดตามเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่มีการจับกุมเรื่องการแอบออกบัตรประชาชน และให้สัญชาติกับคนต่างด้าว และไปดูเรื่องของการสร้างเขื่อนกั้นน้ํา ซึ่งเป็นโครงการตั้งแต่สมัยตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่มีความคืบหน้าแล้ว
ส่วนการลงพื้นที่ครั้งนี้ จะมีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่นั้น ตนเห็นว่าเขาทํากันได้ดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะการจับยาเสพติด10 กว่าล้านเม็ด ซึ่งการดําเนินการก้าวหน้าแล้วเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล รวมถึงการปราบปรามการทุจริต ที่มีการแจ้งความดําเนินคดี และให้ออกจากราชการไว้ก่อนเป็นไปตามที่รัฐบาลมีนโยบายไว้
เมื่อถามว่า งานทางราชการก็เยอะ แต่ขณะเดียวกันต้องเดินคู่งานทางการเมืองด้วย แบ่งกันยังไง นายกฯ กล่าวว่า เอางานราชการก่อน งานการเมืองมีคนช่วยเยอะ.
