พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร. ) พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร.
สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และกองบัญชาการตำรวจนครบาล นำโดย พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ปส., พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคํา ผบก.น.5, พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1,
เปิดปฏิบัติการ “ทลายปาร์ตี้ ชายรักชาย LGBTQ+ ที่มั่วสุมเสพยา” ในห้องสูทโรงแรมหรู ซอยสุขุมวิท 13 แขวงวัฒนา เขตคลองตันเหนือ กรุงเทพฯ คุมตัวชายไทย 28 ราย ชายชาวฟิลิปปินส์ 1 ราย ดำเนินคดี 4 ราย ฐานมีไว้และครอบครองยาบ้า ยาอี และไอซ์ พร้อมเสพยาเสพติด
ปฏิบัติการครั้งนี้ตำรวจนครบาล และตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยึดของกลางไอซ์ 1.11 กรัม , ยาบ้า 2 เม็ด , ยาอีน้ำ 1 ขวด , เคตามีน 0.75 กรัม , ยาไวอากร้า 2 กล่อง , ยาป๊อปเปอร์ ( สารระเหย ใช้ลดความปวดทวารหนัก ) จำนวน 30 ขวด, เข็มฉีดยา 10 เข็ม , อุปกรณ์การเสพยาเสพติด , ถุงยางอนามัย ฯลฯ
จากการสืบสวนจากเบาะแสที่ประชาชนแจ้งผ่านชุดลาดตระเวนออนไลน์ พบว่าชายกลุ่มนี้ มักจะรวมตัว “เสพยา – มีเพศสัมพันธ์” ตำรวจจึงส่งสายสืบหนุ่มหน้าตา กล้ามแน่น หุ่นล่ำ กล้ามดี เข้าแฝงตัวเข้าไปในกลุ่ม จนทราบการนัดหมายเพื่อมั่วสุมเสพยาฯ
กระทั่งวันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 ปาร์ตี้ได้เริ่มขึ้นตามนัด ชายกลุ่มนี้รวมตัว ตำรวจจึงได้นำกำลังกว่า 50 นาย บุกเข้า พบกลุ่ม ชาย LGBTQ+ กว่า 29 คน มีชาวไทย 28 คน ชายฟิลิปปินส์ 1 คน สวมกางเกงในตัวเดียว เมื่อบุกเข้าไปตามห้องเล็กพบกำลังทำกิจกรรมทางเพศ และพบของกลางจำนวนมาก จึงควบคุมตัวไว้ทั้งหมด
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้ครอบครองยาเสพติดจำนวน 3 คน และตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดจำนวน 4 คน นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อดำเนินคดี
พล.ต.ต.ธีรเดชฯ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขอเตือนภัยเรื่องของยาปอปเปอร์ (Popper) หรือเอมิลไนไตรท์ เดิมทีเป็นสารที่ใช้ในทางการแพทย์ แต่ปัจจุบันกลับถูกในมาใช้ในทางที่ผิด โดยกลุ่มชายรักชายมักจะใช้เพื่อลดอาการเจ็บปวดจากการมีเพศสัมพันธ์ฯ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิด เพราะการใช้สารระเหยดังกล่าวต้องใช้ตามแพทย์สั่งเท่านั้น
และจากการขยายผลทราบว่ากลุ่มผู้จัดกิจกรรมมั่วสุมยาเสพติดครั้งนี้คือกลุ่มเดียวกับที่เคยถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2567 พื้นที่ สน.ทองหล่อ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้สำนึกในการกระทำ
โดย ผบช.น. ได้สั่งการให้บูรณาการร่วมกับ ผบช.ปส.ในการขยายผลให้ถึงที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นประชาชน ตามนโยบายของ ผบ.ตร.
