เปลว สีเงิน
ท่านนายกฯ ต้องเข้าใจนะครับ!
ในเรื่องดียวกัน
เมื่อ “มอบอำนาจ” ให้กองทัพไปแล้ว นั่นคือ “คำสั่ง” นายกฯ ที่ “กองทัพ” ต้อง “รับปฎิบัติ” ให้เป็นไปตามนั้น
ต่างกับการพูด “ภาษาการเมือง” กับประชาชน “วันนี้ อาจพูดอย่าง-พรุ่งนี้พูดอีกอย่าง” มันเลื่อนไหลไปได้ในแต่ละวัน ชาวบ้านไม่ถือ
เพราะชาวบ้านเข้าใจ ว่านักการเมืองส่วนใหญ่ พวก “ปลาไหลกลับชาติมาเกิด” แทบทั้งนั้น
แต่กับกองทัพ คำสั่งคือ “ประกาศิต” เมื่อสั่งเขาไปแล้ว ตัวเองกลับไปพูดต่อสาธารณะ “สวนทาง” กับที่สั่ง
ตรงนี้ ต้องระวัง มันจะเกิด “ปฎิกริยาย้อนศร” ซึ่งจะเสียทั้งการบ้านและการเมือง!
อย่างเรื่องปัญหาชายแดน “ไทย-เขมร”
นายกฯ พูดเสียงดังฟังชัดได้ยินกันทั่วว่า “มอบอำนาจให้กองทัพเป็นฝ่ายตัดสินใจไปได้เลย”!
ทีนี้มาดูปัญหาที่เกิดขึ้นที่ “บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรดื้อแพ่งไม่ยอมย้ายออกจากแผ่นดินไทย เล่นเอาเถิด-เจ้าล่อกับทางการมาเป็นเดือนอย่างที่เห็น
ทางกองทัพภาค ที่ ๑ กับฝ่ายปกครอง โดยผู้ว่าฯ สระแก้ว ก็โอนอ่อน-ผ่อนปรนให้อยู่
แต่ “กำหนดเส้นตาย” ว่า …………
ภายในวันที่ ๓ ตุลา.ที่ “หนองหญ้าแก้ว” พวกเขมรต้องย้ายออกไป ไม่เช่นนั้น ฝ่ายไทยจะใช้มาตรการ “ผลักดัน”
และจับกุมผู้ฝ่าฝืนดำเนินคดีตามกฎหมายไทยข้อหาบุกรุก
ส่วนที่ “บ้านหนองจาน” กำหนดเส้นตาย ภายในวันที่ ๑๐ ตุลา.ต้องออกไป ถ้าดื้อแพ่ง ก็จะใช้มาตรการผลักดัน “ขั้นเด็ดขาด” เช่นกัน
พวกเขมรเห็นทางไทยเอาจริง จากที่จ้างชาวบ้านมาก่อม็อบรายวันก็ชักขยาด หดหัวหายไป
แต่วานซืน (๒ ต.ค.๖๘) นักข่าวถาม “นายกฯอุนทิน” ว่า “การผลักดันคนเขมรออกจากบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว ให้นโยบายเรื่องนี้อย่างไร?”
นายกฯ ก็เอาเรื่องที่มอบอำนาจให้ทหารจัดการไปแล้วมาตอบ “ทางการเมือง” ว่า
“นโยบายคือต้องใช้กฎหมายที่ถูกต้อง และเราต้องคำนึงถึงหลักมนุษยธรรมด้วย และคำนึงถึงผลกระทบต่างๆ ที่จะตามมา
จะใช้กฎหมายไหนตามกฎอัยการศึกหรือกฎหมายป่าไม้หรือกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง
ตรงนี้ทาง“กองบัญชาการกองทัพไทย”จะขอไปหารือกับทาง“ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว”
นักข่าวถามย้ำ “จะถึงขั้นมีการใช้กำลังหรือไม่?” นายกฯ ตอบ
“อันนี้ชาวบ้านทั่วไป ไม่ใช่กองทัพ เราต้องคำนึงถึงวิถีชีวิตคนลำบากอยู่แล้ว มีทั้งเด็กมีทั้งคนชราและสตรี ซึ่งระยะเวลาการผลักดัน จะพยายามใช้กฎหมาย”
“มีการระบุเป็นไทม์ไลน์ หรือว่าให้ทางกองทัพไปจัดการเลย?” นักข่าวซัก
นายกฯ อนุทินตอบว่า “วัน เวลา ตามที่เราเห็นเหมาะสม” “แต่ยังไม่ใช่ในวันที่ ๑๐ ตุลา.นี้ใช่หรือไม่?”
“น่าจะยังไม่ใช่” นี่คือคำตอบนายกฯ!
ผลคือ เมื่อวาน ๓ ตุลา.เส้นตายที่เขมร “หนองหญ้าแก้ว” ต้องย้ายออกไป จากที่หัวหด เพราะกลัวไทยเอาจริง
แต่พอได้ยินนายกฯ พูดจาภาษามนุษยธรรม ส่อว่ายังไม่กล้าใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด
เขมรกลายเป็น “ผีดิบคืนชีพ” กลับมาแข็งข้อทันที ประกาศหัวเด็ดตีนขาด กูก็ไม่ย้ายออก
พวก “บ้านหนองจาน” ก็ไม่ต่างกัน เมื่อนายกฯ พูดชัด ๑๐ ตุลา.ยังไม่ใช่เวลาที่กองทัพจะผลักดันให้ออกไป ต่างก็มีฤทธิ์ขึ้นมา เพราะจับทางได้ว่า
“ไทยปากกล้า แต่ขาสั่น”!
ลองเป็นแบบนี้ “ฝ่ายปฎิบัติ” เหนื่อยพอว่า แต่เขาจะ “เอียนระอา” กับการพูดของคนเป็นผู้นำ
ที่ทำให้เจ้าหน้าที่ไทยในพื้นที่ไม่มีน้ำยาในสายตาพวกเขมร “บ้านหนองจาน” และ “บ้านหนองหญ้าแก้ว”!
ในเมื่อมอบอำนาจให้ทหารไปแล้ว
แต่กลับไปพูดให้พวกเขมรเดนตายมันได้ใจ ต่อไปพวกเขมรมันก็จะมองข้ามหัว “กองทัพและฝ่ายจังหวัด”
ต่อไปนี้ พื้นที่พูดอะไรมันก็ไม่ฟัง คอยฟังแต่ “พระเวสสันดรอนุทิน” ผู้เดียว!
ฉะนั้น ต้องรีบตัดไฟเสียแต่ต้นลม
เราใจดีจน “ผีเขมรเข้าสิง” มานานแล้ว พื้นที่บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว มันเป็นแผนดินไทยที่เราให้เขมรที่ซมซานมาอาศัยอยู่ด้วยเมตตา-สงสารมานานแล้ว
แทนที่จะสำนึกบุญคุณ กลับเนรคุณและแว้งกัด แถมหน้าด้าน-ถือดี ทึกทักเอาแผ่นดินไทยที่ให้อาศัยว่าเป็นแผ่นดินเขมร?
ดังนั้น ถูกต้อง และชอบทั้งธรรม ชอบทั้งกฎหมาย
ที่ไทยเราต้องผลักไส มนุษย์เนรคุณจัญไรออกไป เอาแผ่นดินไทยของเราคืนมา
ทุกอย่างมีกรอบขอบเขต เมตตา นั้นดี แต่ถ้าเมตตาตะพึด-ตะพือ ก็จะกลายเป็นอ่อนแอ
ที่นายกฯ อนุทินประกาศ เรื่องชายแดนมอบอำนาจให้ทหารตัดสินใจได้ นั้น ถูกกาล-ถูกเวลา และถูกบุคคลแล้ว
อย่างเขมรป่าเถื่อนที่ไม่เคย “รู้บุญ-รู้คุณคน”
ฝ่ายพื้นที่ “ขีดเส้นตาย” ไว้อย่างไร ต้องให้เขาจัดการให้เด็ดขาดไปตามนั้น
ถ้าไม่ทำให้เขมรเห็น “ความศักดิ์สิทธิ์” ในมาตรการ มันก็จะดื้อแพ่ง ได้ใจยืดเยื้อเรื้อรังไปไม่จบ-ไม่สิ้น
จะต้องไปเกรงอะไรกะสังคมโลกจนเกินเหตุ เราเคยได้อะไรจากสังคมโลกบ้าง สังคมโลกเคยให้ข้าวเรากินมั้ย?
มีเรานี่แหละเคยมีให้ต่อสังคมโลกหลายครั้ง-หลายครา ฉะนั้น จะต้องไปกลัวอะไรนักหนากับกติกาโลก…กลวงๆ
และขอถามคำ….
ที่เขมรมันทำทุกวันนี้ ทั้งยิงจรวดเข้ามาฆ่าพลเรือนไทยตาย โรงพยาบาลพัง แถมฝังทุ่นระเบิดฆ่าทหารไทยกันเห็นๆ ผิดกติกาคาตากันทั้งโลก
แล้วมีหมาตัวไหนซักตัวในเวทีโลกไปตบกบาลเขมรมั่ง?
แต่กับไทยละก็ แหม….เป็นเด็กดีเหลือเกิน
ดีจนถูกเขมรเตะจนน่วม ก็ไม่กล้าตอบโต้ กลัวโลกเขาจะว่าไทยไปรังแกเขมร!?
พอทีเถอะ เอียนฉิบห่ะ….กับไอ้บท “สุภาพบุรษไทย” น่ะ
เอาแต่นั่งหงอ ลองเหาะให้โลกมันเห็นฤทธิ์มั่ง จะได้รู้ว่าไทยไม่ใช่งั่ง อย่างที่เข้าใจกัน
ตบกบาลสั่งสอนมันไปบ้าง กับไอ้พวกเขมรสัตว์เนรคุณพวกนี้ “บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว”
“เส้นตาย” ต้องเป็น “เส้นตาย”!
๓ ตุลา.ต้องออกไป…๑๐ ตุลา.ต้องออกไป ต้องให้เป็นจริง
“เบา” มานานแล้ว คราวนี้ต้องเจอ “มาตรการหนัก” ให้มันเห็นความศักดิ์สิทธิ์ของมาตรการและกฎหมายไทยซะที!
นี่…ต้องอย่างนี้ เมื่อวาน (๓ ต.ค.)
“พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ” แม่ทัพภาคที่ ๑ คนใหม่ สั่งให้กองทัพภาคที่ ๑ ทำหนังสือตอบกลับไปยังฝ่ายเขมร
หากการประชุม RBC ในวันที่ ๑๐-๑๒ ต.ค.นี้ ไม่มีหัวข้อการหารือเรื่องแผนการอพยพคนเขมรออกจาก “บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว” ออกจากพื้นที่
ให้เลื่อนการประชุมออกไปก่อน จนกว่าฝ่ายเขมรจะนำเรื่องดังกล่าวมาหารือ”
นี่…มันต้องจริงจัง-มีเนื้อมีหนังในท่าทีให้เขมรมันรู้สึกบ้าง มัวแต่หน่อมแน้มอย่างแต่ก่อนที่ “มีนอก-มีใน” กันอยู่ทางชายแดน มันก็จะไม่เกรงไทย เพราะกำไต๋กันอยู่
แล้วก็แล้วไป ตอนนี้ มันเปลี่ยนศักราชใหม่แล้ว เขมรต้องมองนิ้วชี้ไทย ที่ไทยจะ “เอาหูไปนา-เอาตาไปไร่” ตามด่านชายแดน ไม่มีแล้ว
เมื่อมึงไม่ยอมอพยพออกไป ก็ไม่ต้องคุยกัน เปลืองน้ำลาย คุยเป็นร้อยครั้ง แต่ไม่เคยมีอะไรเป็นไปตามที่ตกลงกันได้ซักครั้ง
ดังนั้น ถ้าไม่มีแผนอพพยพคนอออกไปมาให้ดู ก็ไม่ต้องคุย
เพราะ….กูจะลุยเลย!
ถ้า ๑๐ ตุลา.นี้ไม่มีการคุยระดับ RBC ที่บันเตียเมียนเจย ก็หมายความว่า ในส่วนของกองทัพภาค ที่ ๒ และ “กองบัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด” (กปช.จต.)
ก็จะไม่มีการประชุม RBC ด้วยเช่นกัน จนกว่ากองทัพภาคที่ ๑ จะได้คุยกับฝ่ายเขมรที่บันเตียเมียนเจย
มีผลโยงไปถึง การประชุม GBC “คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-เขมร” ระหว่าง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ กับ พล.อ.เตีย เซยฮา ก็เกิดขึ้นไม่ได้ด้วย!
เราเล่น “การเมือง-การทหาร” แบบเด็กเล่นขายข้าว-ขายแกง “ตบตาชาวบ้าน” มาเป็นสิบๆ ปี โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมมานานแล้ว
อย่างที่ “พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ” แม่ทัพภาคที่ ๑ คนใหม่ มีหนังสือตอบกลับไปฝ่ายเขมรว่า ถ้าไม่มีแผนอพยพคนออกจากพื้นที่ของไทยมาเสนอ ก็ไม่ต้องประชุม
กร้าวออกไปให้มันรู้สึกแบบนี้แหละ มันจะได้ระทึก และต้องคิดหนัก ว่าเที่ยวนี้ไทยน่าจะเอาจริง
ให้กองทัพและฝ่ายปกครองเขาแอกชั่นชนิดมี “ดาบอาญาสิทธิ์” อยู่ในมือให้เขมรมันเห็นบ้าง ไม่งั้นเขมรมันจะมองข้ามหัวทหารไปที่รัฐบาลที่เดียว
เวทีโลก ท่านสีหศักดิ์ เก๋าอยู่แล้ว ให้ท่านเล่นไป
เวทีไทย นายกฯ อนุทิน มีกึ๋นอยู่แล้ว ก็เล่นบทรัฐบาล ๔ เดือนเพื่อ ๔ ปี ไป
ส่วนเวที “ความมั่นคง” ก็ปล่อยให้กองทัพไทยที่ขี่เขมรอยู่ร้อยขุม ขยุ่มไข่มาบีบให้เขมรหน้าเขียวไป
แล้วทุกอย่างจะสมูธ
ในขณะที่ “ฮุนเซน” ใกล้ถูกชาวบ้านลากมากระทืบกลางถนน โทษฐานหลอกคนให้กลับไปอดตายอยู่รอมมะร่อ!
เปลว สีเงิน
๔ ตุลาคม ๒๕๖๘
