“ศุภชัย” ตอก “DSI” หยุดท่าทีไม่สุจริต กลับไปยืนอยู่ในหลักยุติธรรมแท้จริง อย่ารับใช้นักการเมืองจนหมดความไว้วางใจจากประชาชน เตือนผู้บริหารองค์กรก่อนจะสายไป

2 กันยายน 2568 นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เตือนสติ DSI ทำงานควรอยู่ในหลักของกฎหมาย อย่าทำเพื่อสนองการเมือง

นายศุภชัย กล่าวว่า การที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ออกมาเคลื่อนไหวในคดีเขากระโดง โดยระบุถึงการครอบครองที่ดินโดยมิชอบ การอำพรางนิติกรรม และการบุกรุกลำคลองสาธารณะ ทั้งที่ขณะนี้ยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด และยังไม่มีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิของกรมที่ดินในที่ดินพิพาท 995 แปลง ถือเป็นพฤติการณ์ที่สุ่มเสี่ยงอย่างยิ่งต่อการฝ่าฝืนหลักกฎหมาย และแสดงถึงความพยายามใช้อำนาจสอบสวนเบื้องต้นในทางที่เกินเลย

ในทางกฎหมาย DSI ยังไม่ได้มีคำสั่งรับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษตามกระบวนการตามมาตรา 21 แห่ง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ที่จะต้องผ่านการพิจารณาโดยคณะกรรมการคดีพิเศษเสียก่อน การที่เจ้าหน้าที่ DSI ในระดับบริหารออกมาแสดงท่าทีชี้นำต่อสาธารณะถึงความผิด หรือกล่าวหาว่ามีการอำพรางนิติกรรม ทั้งที่กระบวนการยังไม่เริ่มต้น ย่อมสุ่มเสี่ยงต่อการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลตามรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน

ที่สำคัญกว่านั้น ข้อเท็จจริงในปัจจุบันคือ การรถไฟแห่งประเทศไทยยังไม่มีเอกสารสิทธิรับรองกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท นอกเหนือจากบางแปลงที่มีคำพิพากษาเฉพาะราย ยิ่งไปกว่านั้น กรมที่ดินได้ใช้อำนาจตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินโดยแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนอย่างเป็นทางการแล้ว และคณะกรรมการได้มีมติ “ไม่เพิกถอน” โฉนดที่ดินจำนวน 995 แปลง เนื่องจากไม่มีหลักฐานชัดเจนเพียงพอว่าเอกสารสิทธิเหล่านั้นออกโดยไม่ชอบ

เมื่อข้อพิพาทนี้ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ 395/2568 และยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด DSI จึงไม่มีอำนาจใดในการเข้าชี้นำสาธารณะ หรือตั้งข้อกล่าวหาอาญาใด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกระทำไปเพื่อสนองกระแสทางการเมือง

หากการสอบสวนของ DSI ถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อ “ตอบสนองนโยบายของรัฐมนตรี” หรือกลุ่มการเมืองใด และไม่ยึดหลักกฎหมายเป็นที่ตั้ง การกระทำของเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบย่อมตกอยู่ในฐานะผู้ใช้อำนาจโดยมิชอบ ซึ่งไม่เพียงละเมิดหลักนิติธรรมเท่านั้น แต่ยังสุ่มเสี่ยงต่อความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วย

ขอเตือนด้วยความห่วงใยว่า กฎหมายมีไว้ให้เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติตาม ไม่ใช่ให้ตีความตามใจผู้มีอำนาจ การที่ DSI ในวันนี้เดินเข้าสู่เกมการเมืองอย่างเต็มตัว โดยแสดงบทบาทเป็น “เครื่องมือ” แทนที่จะเป็น “หลักประกันความยุติธรรม” คือการทำลายชื่อเสียงขององค์กรเสียเอง

ในระบอบประชาธิปไตย เจ้าหน้าที่รัฐต้องยึดหลักความเป็นกลาง ยึดหลักกฎหมาย และไม่สยบยอมต่อแรงกดดันทางการเมือง หรือเจตนาแฝงใดๆ ที่อาจฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมาย

DSI จึงควรหยุดการแสดงท่าทีที่อาจถูกมองว่าไม่สุจริต และกลับไปยืนอยู่บนหลักฐาน กฎหมาย และความยุติธรรมอย่างแท้จริง ก่อนที่ความไว้วางใจของประชาชนจะพังทลายไปมากกว่านี้ และจะสายไปสำหรับผู้บริหารองค์กรนี้

Written By
More from pp
“ทีมไทยแลนด์” รายงานคนอเมริกาใต้หลายประเทศชอบหนังไทย ด้านนายกฯ สั่งการเร่งกระตุ้นส่งเสริมนักลงทุนมาไทยพร้อม ผลักดันSoft Power ให้เป็นสินค้าให้ได้
เมื่อวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 น. ตามเวลานครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา (ตรงกับเวลาในประเทศไทย 02.00 น...
Read More
0 replies on ““ศุภชัย” ตอก “DSI” หยุดท่าทีไม่สุจริต กลับไปยืนอยู่ในหลักยุติธรรมแท้จริง อย่ารับใช้นักการเมืองจนหมดความไว้วางใจจากประชาชน เตือนผู้บริหารองค์กรก่อนจะสายไป”