17 กรกฎาคม 2568 – ธุรกิจโรงแรมในเอเชียมีแนวโน้มให้ความสำคัญกับมาตรฐานด้านจริยธรรมในการปฏิบัติต่อสัตว์ โดย ล่าสุด กลุ่มบริษัท ONYX Hospitality Group ได้ประกาศเจตนารมณ์เปลี่ยนมาใช้ไข่ไก่ปลอดกรง (Cage-free Eggs) ในเครือโรงแรมและรีสอร์ต ในประเทศไทย ลาว มาเลเซีย และศรีลังกา หลังการหารือร่วมกับซิเนอร์เจีย แอนนิมอล (Sinergia Animal) องค์กรพิทักษ์สัตว์ระดับสากล ซึ่งนับเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนถึงการยกระดับมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ในอุตสาหกรรมบริการของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นโยบายไข่ไก่ปลอดกรงนี้ครอบคลุมถึงแบรนด์หลักของ ONYX Hospitality Group ได้แก่ Amari, Oriental Residence และ OZO โดยจะเริ่มดำเนินการในประเทศไทยในปี 2568 และตั้งเป้าหมายให้บรรลุการใช้ไข่ไก่ปลอดกรง 50% ภายในปี 2569 และ 100% ภายในปี 2570 ในทุกประเทศที่ให้คำมั่นไว้
“เรามองว่าการประกาศนโยบายไข่ไก่ปลอดกรงของ ONYX Hospitality Group ถือเป็นก้าวสำคัญของธุรกิจโรงแรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การใช้ไข่ปลอดกรงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ด้านสวัสดิภาพสัตว์ที่ควรเกิดขึ้นจากนี้เป็นต้นไป” ศนีกานต์ รศมนตรี ผู้อำนวยการ ซิเนอร์เจีย แอนนิมอล ประเทศไทย กล่าว
ประเด็นทางจริยธรรมของการเลี้ยงไก่ไข่ในระบบกรงขังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นทั่วโลก ในระบบนี้ แม่ไก่แต่ละตัวมักถูกเลี้ยงในพื้นที่แคบที่เล็กกว่ากระดาษ A4 ทำให้ไม่สามารถเดิน กางปีกได้สุด หรือแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติได้ ส่งผลต่อทั้งสุขภาพกายและจิตใจของสัตว์
ONYX Hospitality Group ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดหาวัตถุดิบที่สอดคล้องกับคุณค่าองค์กรผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย โดยระบุว่า “เราเชื่อว่าวัตถุดิบทุกชิ้นบอกเล่าเรื่องราว และนั่นคือเหตุผลที่เราตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ไข่ไก่ปลอดกรงในโรงแรมของเรา”
วิสัยทัศน์ที่ขับเคลื่อนด้วยการบริการอย่างมีจริยธรรมและความยั่งยืน
Sukamal Mondal รองประธานกรรมการแผนกปฏิบัติการและความยั่งยืนของ ONYX Hospitality Group กล่าวถึงแนวทางขององค์กรว่า
“ONYX Hospitality Group มีความมุ่งมั่นต่อแนวคิดด้าน Sustainability Crafted Hospitality ซึ่งหมายถึงการรวมประสบการณ์การบริการระดับห้าดาวเข้ากับแนวทางที่มีจริยธรรมและรับผิดชอบต่อสังคม”
“แรงผลักดันในการเปลี่ยนมาใช้ไข่ไก่ปลอดกรง มาจากความรับผิดชอบของเราในฐานะผู้ให้บริการ ที่ต้องการยกระดับสวัสดิภาพสัตว์ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจ และสนับสนุนระบบอาหารที่มีเมตตาและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ไข่ปลอดกรงไม่ใช่แค่ส่วนประกอบของเมนูอาหาร แต่เป็นสัญลักษณ์ของการก้าวไปสู่อนาคตที่มีความรับผิดชอบและความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งภาคธุรกิจด้านการบริการมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนด้วยเช่นกัน”
นอกจากนี้ ONYX Hospitality Group ยังแสดงความคาดหวังว่า นโยบายใหม่นี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับอุตสาหกรรม
“นโยบายไข่ไก่ปลอดกรงของเราไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรเท่านั้น แต่เป็นการส่งสัญญาณถึงภาคธุรกิจว่า การจัดหาวัตถุดิบอย่างมีจริยธรรมและใส่ใจสวัสดิภาพสัตว์ ควรเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม”
“เราเชื่อว่าความร่วมมือคือกุญแจสำคัญของการเปลี่ยนแปลง และหวังว่าการแบ่งปันความก้าวหน้าในครั้งนี้ ทั้งในด้านความท้าทายและแนวทางแก้ไข จะมีส่วนช่วยสร้างระบบอาหารที่มีเมตตาและยั่งยืนมากขึ้นสำหรับทุกคน”
แรงขับเคลื่อนระดับภูมิภาค ยกระดับมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์
ซิเนอร์เจีย แอนนิมอล เริ่มดำเนินงานในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2562 โดยเน้นการสร้างความตระหนักรู้เรื่องสวัสดิภาพสัตว์ควบคู่กับการทำงานร่วมกับภาคธุรกิจ และใช้เครื่องมืออย่าง Asia Cage-Free Tracker เพื่อส่งเสริมความโปร่งใสและติดตามความคืบหน้าของนโยบายการเลิกใช้ไข่ไก่จากระบบกรงในห่วงโซ่อุปทานของบริษัทต่าง ๆ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.cagefreetracker.com)
ข้อมูลจาก Chicken Watch ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการติดตามความคืบหน้านโยบายเลิกใช้ไข่จากระบบกรงของภาคธุรกิจระดับโลก ระบุว่ามีบริษัทกว่า 300 แห่งในภูมิภาคเอเชียที่ประกาศเลิกใช้ไข่จากระบบกรงขัง ครอบคลุมทั้งกลุ่มผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ เครือร้านอาหาร และภาคธุรกิจโรงแรม ทำให้การจัดหาวัตถุดิบอย่างมีจริยธรรมไม่ใช่เรื่องเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป แต่กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมใหม่
“การเคลื่อนไหวไข่ไก่ปลอดกรงไม่ใช่แค่ทางเลือกอีกต่อไป แต่คือการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก เราขอเชิญชวนบริษัทอาหารและโรงแรมในประเทศไทยและทั่วภูมิภาคเข้าร่วมไปด้วยกัน เพื่อที่เราจะสามารถสร้างระบบอาหารที่ใจดีกับสัตว์มากขึ้น และยังสอดคล้องกับค่านิยมของผู้บริโภคในปัจจุบันด้วย” ศนีกานต์ กล่าว
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับไข่ไก่ปลอดกรงได้ที่ www.sinergiaanimalthailand.org
