14 กรกฎาคม 2568 จากสถานการณ์ฝนตกหนักสะสม ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดอุทกภัยและน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ จ.น่าน, จ.แพร่ และ จ.อุตรดิตถ์
พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้มีความห่วงใยประชาชน โดยสั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่ ประกอบด้วย กองพันทหารม้าที่ 12 กองพลทหารม้าที่ 1, กองพันทหารม้าที่ 7 กรมทหารม้าที่ 2, กองพันทหารม้าที่ 15 กรมทหารม้าที่ 2, มณฑลทหารบกที่ 35, มณฑลทหารบกที่ 38, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 32 และโรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก จัดกำลังพล พร้อมยุทโธปกรณ์ของหน่วย เข้าช่วยเหลือประชาชนด้วยการเคลื่อนย้ายสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย, อำนวยความสะดวกด้านการสัญจร, มอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมจัดชุดเสนารักษ์ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพ มอบยาเวชภัณฑ์ และให้คำแนะนำในโรคต่างๆ ที่มากับน้ำ เพื่อดูแลบรรเทาทุกข์ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
และล่าสุดแม้ระดับน้ำในหลายพื้นที่ได้ลดลงแล้ว แต่หน่วยทหารของกองทัพบกยังคงเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมให้การช่วยเหลือฟื้นฟู ทำความสะอาดบ้านเรือน แหล่งชุมชน รวมทั้งเส้นทางสัญจรที่ได้รับผลกระทบจากดินโคลนที่มากับกระแสน้ำ ตลอดจนให้การพยาบาลประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมประเมินสุขภาวะทางจิต เพื่อให้ประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว
นอกจากนี้กองทัพบกยังได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือในระยะยาว สอดคล้องตามนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม โดยตั้งแต่เดือน เม.ย.68 ได้มอบหมายให้กรมการทหารช่าง และกองพลพัฒนาที่ 3 เร่งดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ ขุดลอกแม่น้ำสายและแม่น้ำรวก รวมทั้งสร้างแนวป้องกันชั่วคราว-กึ่งถาวร บริเวณชุมชนบ้านหัวฝาย, บ้านสายลมจอย, บ้านเกาะทราย และบ้านไม้ลุงขน จ.เชียงราย เพื่อเพิ่มความสามารถในการระบายน้ำ และป้องกันผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนืออย่างยั่งยืน ซึ่งมีแผนเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ก.ค.68 นี้




