ผักกาดหอม
ช่วงนี้ข่าวปรับ ครม.มาแรง…
ไม่ทราบเพราะแรงส่งจาก นิด้าโพล หรือไม่ แต่ในพรรคเพื่อไทย เริ่มขยับกันแล้ว
วันก่อน “สมคิด เชื้อคง” รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ออกมาเปิดหัว
“…ได้ยินสมาชิกพรรคเพื่อไทยพูด และหลายคนพูดถึงเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตร พืชผลบางชนิดบางตัวตก บางตัวมันก็ได้อยู่ อย่างเช่น ยางพารา ปาล์ม แต่ข้าวนาปรังและมันสำปะหลังจะมีปัญหา
ฉะนั้น กระทรวงพาณิชย์จะต้องไปปรับปรุงเร่งรัดใการทำงาน…”
เขาเรียกว่าเขย่าครับ!
เป็นธรรมชาติของนักการเมืองก่อนจะมีการปรับ ครม. อีกธรรมชาติหนึ่งของการปรับ ครม.คือ จะเกิดความเคลื่อนไหวหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
มุ้งต่างๆ ในพรรครัฐบาลจะเริ่มส่งคนเข้าประกวด
เพียงแต่การซักฟอกครั้งที่ผ่านมา หวยไปลงที่ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนเดียว การจุดกระแสเพื่อปรับครม.จึงค่อนข้างลำบาก
เพราะหากปรับนายกฯ ออกคือการเปลี่ยนรัฐบาล
ผิดกับการซักฟอกรัฐมนตรีรายบุคคลที่มีรัฐมนตรีคนอื่นๆ ถูกซักฟอกด้วย
แบบนี้ง่ายครับ!
รัฐมนตรีที่ถูกชำแหละจนเลือดสาด จะตกเป็นเป้าขย่มจากพรรคพวกทันที
ฉะนั้นการปรับ ครม.เที่ยวนี้ตอบยากครับว่าจะมีขึ้นเมื่อไหร่
แต่ไม่ช้าก็เร็วมีแน่นอน
ฟังนายกฯ แพทองโพย ให้สัมภาษณ์ ดูเธอจะเข้าใจสถานการณ์การเมืองพอสมควร
“…ความจริงแล้วใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง ไม่ว่าตำแหน่งทุกอย่างหรือแม้แต่ตำแหน่งของนายกฯ ก็เช่นกัน ไม่ใช่แค่ตำแหน่งของใครคนใดคนหนึ่ง ตำแหน่งของนายกฯ ก็เช่นกัน เพราะฉะนั้นเราก็ทำใจให้นิ่งไว้…”
“…ทุกๆ คนบอกว่าทุกๆ อย่างเราต้องใจนิ่งๆ ไว้ ตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิมไม่ได้คิดจะปรับอะไร แต่พอรับฟังความคิดเห็นก็ต้องมาดูว่าอย่างไรบ้าง เพราะความจริงแล้วดิชั้นชอบทำงานเป็นทีม ชอบทำงานในแบบที่ทำงานด้วยกันไม่ต้องสู้กัน ไม่ต้องไฟต์กันในแต่ละกระทรวง
ความจริงไม่ชอบความแตกสามัคคี แต่ก็ทำดีที่สุดแล้ว ดูว่าเป็นอย่างไร ถ้าสมมุติว่าเกิดอะไรขึ้นมาเราไปปรับแก้ตอนนั้น แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นอะไร…”
ถ้าเข้าใจว่าใดๆ ในโลกล้วนอนิจจังจริงๆ ก็นับเป็นบุญของประเทศครับ
จะได้ไม่ต้องดันทุรังเพื่อรักษาตำแหน่งเอาไว้ ให้มันเกิดความขัดแย้งเหมือนพ่อที่สร้างความฉิบหายมาร่วม สองทศวรรษ
ลึกลงไปในคำให้สัมภาษณ์ของนายกฯ แพทองโพยมีบางอย่างซ่อนอยู่ครับ
นั่นคือ ชอบทำงานเป็นทีมที่ไม่มีความขัดแย้ง
แต่คงจะยากหน่อยครับ สำหรับพรรคร่วมรัฐบาลที่จะสั่งซ้ายหันขวาหันได้ทุกเรื่อง
ไม่มีหรอกครับ!
ในใจของนายกฯ แพทองโพยโดยพ่อบังเกิดเกล้า อยากจะปรับ ครม.ใจจะขาด แต่เงื่อนไขในขณะนี้มันยังไม่เอื้อให้ทำเช่นนั้น เพราะระบอบทักษิณมิได้ยิ่งใหญ่เหมือนในอดีต
ยิ่งเป็นการปรับโดยเขี่ยบางพรรคออกยิ่งยากไปใหญ่
เพราะนั่นจะเป็นการนับถอยหลังอายุรัฐบาลทันที
ไม่ว่าจะเป็น ภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ ประชาธิปัตย์ “ทักษิณ” เก็บไว้กับตัวจะมีประโยชน์มากกว่าถีบไปเป็นฝ่ายค้าน
อย่างน้อยก็ในแง่มวลชน
กลุ่มอนุรักษนิยมบางส่วนยังต้องกัดฟันสนับสนุนรัฐบาลต่อไป
มีทางเดียวที่ “ทักษิณ” จะปลี่ยนโฉมรัฐบาลครั้งใหญ่ได้ คือการไปคุยกับ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” สั่งพรรคส้มร่วมรัฐบาล
มีทั้งเป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้
อย่างน้อยการแล่เนื้อทาเกลือรัฐบาลแบบไม่สุดของพรรคส้ม ยังมีช่องให้ทั้ง ๒ พรรคร่วมงานกันได้
แต่อายุของสภาฯ ที่เหลืออยู่แค่ ๒ ปี พรรคส้มจะกล้าเสี่ยงเอาอนาคตทางการเมืองมาเป็นหุ้นส่วนในกงสีของ “ทักษิณ” หรือไม่
ครับ…รัฐบาลยืนยันแล้วจะควักเงินเดินหน้าแจกหัวละหมื่นต่อไป ไม่สนใจว่าเศรษฐกิจโลกกำลังจะพินาศ ถึงเวลานั้นรัฐบาลจะเอาเงินมาจากไหน
ก็คงจะออก พ.ร.บ.กู้เงินแหละครับ จะไปมีปัญญาทำอะไรได้
เสียดายเงินแผ่นดินจริงๆ รัฐบาลนี้จุดไฟเผาไปเป็นแสนล้านแล้ว ไม่เห็นเกิดมรรคผลอะไรขึ้นมาเลย
ไม่มีพายุหมุน มีแต่ลมพัดพอให้ใบไม้ไหว แล้วรัฐบาลไปทึกทักว่า นั่นไง พายุหมุนทางเศรษฐกิจ
เงินแสนล้านเอาไปทำอย่างอื่นให้งอกเงยได้เยอะครับ
วันก่อน AOT บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ทอท. เปิดแผนพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ ๗ โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมไม่ต่ำกว่า ๑.๗ แสนล้านบาท ให้สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
๑.โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ อยู่ด้านทิศใต้ของสนามบิน หรือ South Terminal พื้นที่ ๔ แสนตร.ม. และอาคารเทียบเครื่องบิน ๖ แสน ตร.ม. ซึ่งจะเพิ่มการรองรับผู้โดยสารอีก ๗๐ ล้านคนต่อปี เป็นรูปแบบ Mega Termnal เพิ่มพื้นที่เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ใกล้อาคารผู้โดยสาร (แอร์พอร์ต พลาซา) ขนาด ๓.๕ แสนตร.ม. โดยมีทางยกระดับ และรถไฟฟ้า เชื่อมเข้าอาคารด้านทิศใต้โดยตรง
๒.ทางวิ่งเส้นที่ ๔ หรือรันเวย์ ๔ วงเงินลงทุนรวม ๓ หมื่นล้านบาท เพิ่มการรองรับเที่ยวบิน ๒๖ เที่ยวบินต่อชั่วโมง ซึ่งหากรวมการลงทุนอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้
๓.ส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) พื้นที่ ๘.๑ หมื่น ตรม. ลงทุน ๑.๒๕ หมื่นล้านบาท เพิ่มการรองรับผู้โดยสารอีก ๑๕ ล้านคน ทำให้สนามบินสุวรรณภูมิรองรับผู้โดยสารเพิ่มจาก ๖๕ ล้านคนในปัจจุบัน เป็น ๘๐ ล้านคน และเพิ่มพื้นที่อาคารผู้โดยสารเป็น ๒.๕๗ แสน ตร.ม.
๔.อาคารผู้โดยสารทั่วไป หรือ General Aviation: GA (การบินทั่วไป) พื้น ๑ แสน ตร.ม. สำหรับรองรับการบินที่ไม่ได้ทำการบินตามตารางเวลา เช่น เที่ยวบินเช่าเหมาลำ การบินส่วนบุคคล รองรับการจอดเครื่องบินได้ ๑๐ ลำ
๕. VIP Terminal พื้นที่ ๘ หมื่น ตร.ม. รองรับผู้โดยสารระดับวีไอพี และไพรเวตเจ็ตระดับหรู ซึ่งอาคารนี้จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ Landside/Airside
๖.โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน หรือ Maintenance Repair Overhaul (MRO) ซึ่งทางสนามบิน มีพื้นที่ทั้งด้านทิศเหนือและทิศใต้ ในการผลักดันการลงทุนให้เกิดขึ้น โดยพื้นที่ด้านทิศใต้ ๓.๕ แสน ตร.ม.สามารถรองรับเครื่องบินได้ ๑๘ ลำ ทางทิศเหนือจะมีพื้นที่ ๑.๒๕ แสน ตร.ม. สามารถทำศูนย์ซ่อม MRO รองรับเครื่องบินได้ ๖ ลำ และพื้นที่ราว ๑.๕ แสน ตร.ม. สามารถสร้างโรงซ่อมอากาศยาน รองรับเครื่องบินได้ ๘ ลำ
๗.แอร์พอร์ต ซิตี ซึ่งเป็นพื้นที่แปลง ๓๗ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ๕๔๗.๙๒ ไร่ (ที่ดินราชพัสดุ) ซึ่งอยู่ในเขตสนามบิน โดยมองว่ามีศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นศูนย์แสดงสินค้าและศูนย์ประชุม
รวมถึงธุรกิจโรงแรม ๓ ดาว โรงแรม ๔ ดาว รองรับผู้มาใช้บริการในพื้นที่และผู้โดยสารที่มาจากสนามบิน เพื่อท่องเที่ยวหรือทำธุรกิจในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นคนละกลุ่มเป้าหมายกับโรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิ ที่อยู่ประชิดอาคารผู้โดยสาร
หลับตานึกดูครับ แจกเงินหมื่น ๔.๕ แสนล้านบาท เงินมหาศาลแค่ไหน
เพราะรัฐบาลมีสมองไว้แค่คั่นหู เราจึงต้องสูญเสียงบประมาณไปกับนโยบายหาเสียง แทนที่จะเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งจะมีผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ฉะนั้นปรับ ครม.ก็คงช่วยอะไรได้ไม่มาก เอาระบอบทักษิณลงจากอำนาจ ประเทศจะได้ประโยชน์กว่า
เว้นเสียแต่ว่าคนไทยจะหนีเสือปะจระเข้.
