นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ไฟป่า ใน 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ว่า มีสถานการณ์ดีขึ้นมาก ซึ่งจากการรายงานความคืบหน้าของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (ส่วนหน้า) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย นายพงศ์บุณย์ ปองทอง รองปลัดฯ ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการฯ พบว่า
1.จากการเฝ้าระวังและควบคุมไฟป่าตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ hotspot ลดลงถึง 50% จาก 674 จุด เหลือ 336 จุด
2.ดับไฟได้ 419 จุด มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจากเดิม 40% เป็น 50%
3.นับตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค เป็นต้นมา มีจำนวนคดีเพิ่ม 72 คดี รวมสะสม 454 คดี ล่าสุด จับกุมตัวผู้ต้องหา เพิ่มได้อีก 1 ราย รวมสะสม 10 ราย คือ นายสุทิวัส อานึกุ อายุ 25 ปี ชาว อ.แม่สรวย จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางรังผึ้งป่า ถุงย่าม จอบ มีด และไฟแช็ค
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการดับไฟป่าและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อดับไฟให้สนิท ไม่ให้เกิดhotspot เพิ่ม โดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก และ เชียงราย สำหรับพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ดับไฟได้ทั้งหมดแล้ว แต่ยังคงจัดชุดกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเฝ้าระวังในบริเวณสถานที่ดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก
ทั้งนี้ ปลัด ทส. ได้ย้ำว่า รัฐบาลและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ให้ความสำคัญยิ่งต่อการแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชนและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งกำชับให้เร่งหาผู้กระทำผิดโดยเร็วและดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด ขณะเดียวกันต้องขอขอบคุณและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานทุกคน โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยในการทำงานด้วย ตลอดจนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากการดับไฟป่า ซึ่งกระทรวงฯ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาทุกครอบครัวอย่างเต็มที่