ผักกาดหอม
ชัดๆ…
จากปากคนเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
“… ท่านสี จิ้นผิง ได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับโครงการนี้
ดิชั้นได้อธิบายว่า เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่เพียงกาสิโน แต่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่ครบวงจร มีโรงแรม ร้านอาหาร สถานบันเทิง และกิจกรรมสำหรับครอบครัว
ส่วนของกาสิโนจะมีพื้นที่เพียง ไม่ถึง ๑๐% ของโครงการทั้งหมด
เราต้องยอมรับว่าปัจจุบันในไทยมีบ่อนเถื่อนอยู่แล้ว
แต่เงินเหล่านั้นกลับไม่ได้ก่อประโยชน์ต่อประเทศ
ถ้าเรามีกฎหมายรองรับ เก็บภาษีถูกต้อง รายได้สามารถนำไปพัฒนาโครงการสำคัญ เช่น ทุนการศึกษาให้เด็กไทย และการพัฒนาประเทศ…”
“…ผู้นำจีนได้ให้ข้อแนะนำว่าการมีกาสิโนอาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆ ซึ่งรัฐบาลไทยยืนยันว่า พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะของจีน และจะนำไปศึกษาเพิ่มเติม…”
นั่นคือคำพูดของ “แพทองธาร ชินวัตร”
ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
การกระทำใดๆ ที่หากยังไม่เห็นผลเสียหายร้ายแรง มักไม่คำนึงถึงว่า การกระทำของตนเองนั้นเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม
ไทยไม่ใช่เมืองขึ้นจีน ไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งซ้ายหันขวาหัน
แต่กรณีนี้ ไม่ต่าง อาแปะเตือนหลานสาว
จีนผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านความล่มสลายของชาติมาแล้ว ผู้นำจีนยุคสาธารณรัฐทุกคนจึงระมัดระวังเรื่องนี้เป็นอย่างดี
อะไรที่จะสร้างความฉิบหายให้ประเทศผู้นำจีนไม่ทำ
คราวที่แล้วเขียนถึงบทเรียนจากสงครามฝิ่น กับอังกฤษ ผู้ล่าอาณานิคม
วันนี้ว่าด้วยบทเรียนจากกาสิโน โดยโปรตุเกส อดีตเจ้าอาณานิคมปกครองมาเก๊า
รศ. ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เขียนบทความเรื่อง “ทำไม จีน ‘say NO’ to กาสิโน!?”
บางช่วงบางตอนดังนี้ครับ…
“…มีกระแสกดดันเรียกร้องให้รัฐบาลจีนเปิดกาสิโนและนำพนันออนไลน์เป็นกิจกรรมถูกกฎหมาย เนื่องจากปัจจุบันพลเมืองจีนจำนวนมากเดินทางไปใช้จ่ายเงินในบ่อนกาสิโนของมาเก๊า ฟิลิปปินส์ และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงมีการเล่นพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย
การประมาณการโดยบริษัทในเครือของสำนักข่าว Xinhua พบว่า ในแต่ละปีชาวจีนแผ่นดินใหญ่ใช้เงินเดิมพันผ่านการพนันออนไลน์มูลค่ามากกว่า ๑๔๕ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ดังนั้น การอนุญาตให้มีกาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย จะสามารถสร้างรายได้ให้รัฐบาลจีนจำนวนมหาศาล รวมถึงเงินของนักพนันไม่รั่วไหลออกนอกประเทศ
แต่จุดยืนและหลักการของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังคงชัดเจนตลอดว่า รัฐบาลจีนไม่มีความคิดในการนำการพนันทุกประเภทเป็นกิจกรรมถูกกฎหมาย เพราะแม้ภาครัฐจะมีรายได้มหาศาลจากการนำธุรกิจใต้ดินเหล่านี้มาอยู่บนดินมากเพียงใด แต่ก็ไม่อาจเทียบได้กับความเสียหายทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น จากการที่ชาวจีนจำนวนมากกลายเป็นผีพนัน
ดังนั้น มาตรการที่รัฐบาลจีนใช้ในการแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย คือ เร่งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพ และปราบปรามการพนันผิดกฎหมายทุกรูปแบบอย่างเด็ดขาดและจริงจัง โดยรัฐบาลจีนเพิ่มความเข้มข้นในการปราบปรามการพนันข้ามพรมแดน เพราะนอกจากจะเป็นสาเหตุทำให้ชาวจีนติดการพนันแล้วยังมักนำมาซึ่งการฉ้อโกง การฟอกเงิน การลักพาตัว การกักขัง การค้ามนุษย์ และการลักลอบค้ายาเสพติด
โดยรัฐบาลจีนได้ใช้วิธีทางการทูตและคำเตือนไปยังหลายประเทศ อาทิ สถานทูตจีนในสิงคโปร์ เกาหลีใต้ ศรีลังกา ประกาศให้ชาวจีนอยู่ห่างจากการพนันทุกรูปแบบ โดยระบุว่า การเล่นพนันของชาวจีนในต่างประเทศเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
ในประเด็นการพนันออนไลน์ ความพยายามของทางการจีนในการกดดันประเทศในภูมิภาคอาเซียนให้จัดการกับฮับที่มีต้นทางจากประเทศเหล่านี้ ทำให้ช่วงปลายปี ๒๕๖๒ รัฐบาลกัมพูชาต้องยกเลิกการพนันออนไลน์อย่างสิ้นเชิง ส่งผลให้ผู้บริการการพนันออนไลน์ชาวจีนจำนวนมากต้องเดินทางออกจากสีหนุวิลล์
สำหรับพม่าได้ร่วมมือกับประเทศจีนในการปราบปรามและดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดน โดยจับกุมบุคคลจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางอาญาออนไลน์เมื่อปลายปี ๒๕๖๖
ในกรณีของฟิลิปปินส์ หลังจากปี ๒๕๕๙ ที่รัฐบาลของประธานาธิบดีดูเตอร์เตได้อนุญาตให้สร้างฐานเว็บไซต์ในประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อให้บริการพนันออนไลน์แก่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ (Philippines Offshore Gaming Operators: POGOs) รัฐบาลจีนได้ใช้ความพยายามหลายครั้งเพื่อขอให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ยกเลิกการให้ใบอนุญาตแก่ POGOs
เนื่องจากมองเห็นอย่างชัดเจนว่า นอกจากการพนันออนไลน์บ่อนทำลายความเข้มแข็งของเศรษฐกิจจีนแล้ว ยังสร้างปัญหาอาชญากรรมและปัญหาทางสังคม จนในที่สุดประธานาธิบดีมาร์กอสจูเนียร์ ได้ยกเลิกการให้ใบอนุญาตแก่ POGOs ในปีที่ผ่านมา
เมื่อครั้งเริ่มต้นขึ้นสู่อำนาจในปี ๒๕๕๕ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงก็ได้เรียกร้องให้มาเก๊าสร้างเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน และเมื่อเดือนธันวาคมปี ๒๕๖๗ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงก็ยังปราศรัยกระตุ้นให้มาเก๊า ลดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยอุตสาหกรรมการพนัน แต่ให้เพิ่มขีดความสามารถในอุตสาหกรรมอื่น ซึ่งจะดึงดูดแรงงานทักษะสูงเข้ามาในพื้นที่…”
ครับ…ตั้งแต่ปี ๒๕๗๗ รัฐบาลจีนกวาดล้างกิจกรรมผิดกฎหมายในมาเก๊า
และนี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้พวก “จีนเทา” อพยพไปยัง “พื้นที่สีเทา” อื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สาเหตุที่ต้องกวาดล้าง เพราะกาสิโนถูกกฎหมายในมาเก๊า ถูกใช้เป็นกลไกการฟอกเงินของกลุ่มอาชญากรรมในจีน
สอดคล้องกับสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เผยรายงานเรื่อง กาสิโน การฟอกเงิน ธนาคารใต้ดิน และกลุ่มอาชญากรข้ามชาติในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า เป็นภัยคุกคามที่ซ่อนเร้นและทวีความรุนแรงมากขึ้น”
ที่ “สี จิ้นผิง” เตือน เป้าหมายหลักไม่ได้เป็นห่วงคนไทยหรอกครับ แต่จีนเป็นห่วงคนของเขา โดยเฉพาะจีนเทา และคนจีนที่ตกเป็นเหยื่อจีนเทา
วันก่อน “พันโทหน่าย หม่องโซ” รองผู้บังคับกองพันบีจีเอฟ (กองกำลังพิทักษ์ชายแดน) ประจำจังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา บอกกับนักข่าวว่า…
“…ในช่วงแรกๆ กลุ่มทุนจีนที่ไปลงทุนขอเสนอใช้พื้นที่ในเขตอิทธิพลของกองกำลังกะเหรี่ยงบีจีเอฟนั้น ไม่ได้บอกว่าจะไปทำคอลเซ็นเตอร์ แต่แจ้งว่าทำกาสิโน-สถานบันเทิง และที่รับการดูแลคุ้มครองให้พื้นที่ใช้ เพราะอยากให้พื้นที่ชายแดนรัฐกะเหรี่ยง มีการพัฒนาประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีงานทำ แต่พอนานเข้าเริ่มมีปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้ฝ่ายบีจีเอฟเองไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เดียวได้…”
รัฐบาลไทยยืนยันว่ากาสิโนไทยใช้สิงคโปร์เป็นโมเดล แต่กลับไม่มีการศึกษาผลกระทบที่เป็นชิ้นเป็นอันแต่อย่างใด
ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐของไทยมีปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมายในขั้นรุนแรง
จีนอาบน้ำร้อนมาก่อนไทย “สี จิ้นผิง” ถึงได้เตือนว่า กาสิโน จะนำมาซึ่งปัญหามากมาย
ในแง่การเมืองระหว่างประเทศเป็นการเตือนอย่างสุภาพที่สุดแล้ว
ฉะนั้นหากไทยกลายเป็นฮับการฟอกเงิน ของอาชญากรข้ามชาติ ใครจะรับผิดชอบ
ไม่ไหวอย่าฝืนนะ…อุ๊งอิ๊ง
![](https://plewseengern.com/wp-content/uploads/2024/09/plew-300x245.jpg)