ผักกาดหอม
เปลี่ยนไวราวกับติดจรวด!
คือการเมืองไทยครับ
เรื่องความนิยมชมชอบของประชาชน เป็นสัจธรรมการเมืองจริงๆ เพราะเปลี่ยนไปราวฟัากับเหวในช่วงเวลาแค่สัปดาห์ หรือเดือนเท่านั้น
เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ ๓/๒๕๖๗”
วันนั้น “มาดามแพ” นำเดี่ยว ทิ้งที่สองคือ “เท้ง-ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” จากพรรคส้มเป็นทุ่ง
“มาดามแพ” ได้รับความนิยม ๓๑.๓๕ %
ขณะที่ “เฮียเท้ง” ได้ ๒๒.๙๐%
ถือว่าขาดพอควร
แต่…มาวานนี้ (๒๗ ตุลาคม) “นิด้าโพล” เจ้าเก่า เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “รัฐบาลนายกฯ อุ๊งอิ๊ง ไปไหวไหม”
จากการสำรวจเมื่อถามความเชื่อของประชาชนต่อการอยู่รอดของรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร จากสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน
พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ ๓๑.๖๘ ระบุว่า เชื่อว่าจะไปต่อได้จนครบเทอมในปี ๒๕๗๐
รองลงมา ร้อยละ ๑๙.๐๘ ระบุว่า เชื่อว่าจะไปต่อได้อีกประมาณ ๒ ปี (๒๕๖๙)
ร้อยละ ๑.๘๗ ระบุว่า เชื่อว่าจะไปต่อได้อีกประมาณ ๑ ปี (๒๕๖๘)
ร้อยละ ๑๑.๙๙ ระบุว่า เชื่อว่าจะไปต่อได้จนเกือบๆ ครบเทอมในปี ๒๕๗๐
ร้อยละ ๙.๗๗ ระบุว่า เชื่อว่าจะไปต่อได้ไม่เกินสิ้นปี ๒๕๖๗
และร้อยละ ๐.๖๑ ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ผลโพลแบบนี้ดูดีใช่มั้ยครับ
เพราะเกือบครึ่ง เห็นว่าอยู่ครบเทอมหรือเกือบครบเทอม
แต่…อีกมุม ไม่ถึงครึ่งที่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอม
แสดงว่ารัฐบาลกำลังมีปัญหาเรื่องคะแนนนิยมอย่างหนัก
ถ้าเป็นการโหวตใช้เสียงข้างมาก ตามระบอบประชาธิปไตยที่ชอบอ้างกัน ว่ารัฐบาลสอบผ่าน หรือไม่ผ่าน
แบบนี้ ถือว่าสอบตก!
ฉะนั้นรัฐบาลอย่าเพิ่งปลื้มผลโพล เพราะเห็นโฆษกรัฐบาล “จิรายุ ห่วงทรัพย์” ไปแปลความว่า ประชาชนเชื่อมั่นว่าจะไปต่อได้และจะอยู่จนครบเทอม
“รัฐบาลขอขอบคุณประชาชนที่เชื่อมั่นในเสถียรภาพของรัฐบาล”
ไม่ถึงครึ่งครับที่ตอบว่าจะอยู่ครบเทอม
นั่นทำให้อีกคำถามของนิด้าโพล จึงได้คำตอบออกมากลายเป็นหนังคนละม้วน
ถามถึงปัจจัยที่จะส่งผลให้รัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ไปต่อไม่ได้
พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ ๓๔.๔๓ ระบุว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่เป็นไปตามที่สัญญาและคาดหวัง
รองลงมา ร้อยละ ๓๒.๕๒ ระบุว่า กลุ่มนักร้องเรียนที่พุ่งเป้าไปยัง “ทักษิณ ชินวัตร” และพรรคเพื่อไทย ร้อยละ ๒๙.๔๗ ระบุว่า การบริหารที่ผิดพลาดของนายกฯ แพทองธาร จนนำไปสู่สถานการณ์วิกฤต
ร้อยละ ๒๘.๘๕ ระบุว่า กลุ่มนักร้องเรียนที่พุ่งเป้าไปยังนายกฯ แพทองธาร และพรรคเพื่อไทย
ร้อยละ ๑๙.๗๗ ระบุว่า การบริหารงานที่ไม่ระมัดระวังจนอาจเกิดการทุจริตคอร์รัปชัน
ร้อยละ ๑๗.๒๕ ระบุว่า ความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล
ร้อยละ ๑๖.๖๔ ระบุว่า ไม่มีปัจจัยใดๆ ที่จะทำให้รัฐบาลนายกฯ แพทองธารไปต่อไม่ได้
ร้อยละ ๑๐.๙๒ ระบุว่า การชุมนุมประท้วงรัฐบาลจนเกิดความวุ่นวายทางการเมือง
ร้อยละ ๙.๖๒ ระบุว่า การเสนอแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญในประเด็นจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ร้อยละ ๙.๐๘ ระบุว่า การทำงานของพรรคฝ่ายค้านที่จะนำไปสู่การล้มลงของรัฐบาล
ร้อยละ ๘.๒๔ ระบุว่า การเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมที่มีประเด็นอ่อนไหว
ร้อยละ ๘.๐๙ ระบุว่า ประเด็นคดีตากใบ
และร้อยละ ๖.๙๕ ระบุว่า การก่อรัฐประหารล้มรัฐบาล
เอาที่น่ายินดีก่อน ที่โหล่คือ การรัฐประหาร
ประชาชนไม่เชื่อว่าจะมีการรัฐประหาร นับเป็นเรื่องดี เพราะรัฐประหารไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด และยังจะสร้างปัญหาตามมาอีกมาก
แต่ปัญหาเศรษฐกิจคือปัจจัยหลักที่จะล้มรัฐบาลแพทองธาร
ความจริงที่ปรากฏขณะนี้คือ เศรษฐกิจประเทศแทนที่จะกระเตื้องขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ กลับพบว่ายังคงซึมกะทือ และดูเหมือนว่ารัฐบาลแพทองธาร ไม่มีความรู้ เครื่องไม้เครื่องมือที่จะรับมือ
เอาแต่ตีโพยตีพาย โทษรัฐบาลเก่าบ้าง โทษแบงก์ชาติบ้าง
ว่าเป็นผู้ก่อปัญหา
ทั้งๆ ที่รู้ว่าโครงสร้างเศรษฐกิจไทยมีปัญหา การส่งออกจึงสู้ประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ แทนที่จะยกให้เป็นวาระแห่งชาติ ระดมมันสมองทุกฝ่ายช่วยกันแก้ปัญหา
กลับกู้มาแจก!
ความรู้ทางเศรษฐกิจสมัยเป็นฝ่ายค้านหายไปไหนหมด
ครั้งนั้นโจมตีรัฐบาลประยุทธ์ว่า บริหารแบบเกรงใจนายทุนทำประชาชนเดือดร้อน
บริหารจัดการประเทศอย่างไร้องค์ความรู้ ไร้จริยธรรม และไร้ศีลธรรม
พลเอกประยุทธ์ไม่มีความรู้ความเข้าใจทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังคงใช้คนที่ชอบแก้ตัวมากกว่าที่จะแก้ไข เศรษฐกิจไทยไม่มีวันจะฟื้นได้
ไม่โปร่งใส ไม่สามารถเปิดเผยข้อเท็จจริงของการจัดการงบประมาณในสถานการณ์เร่งด่วน ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน
“ใจดำ ไร้หัวใจความเป็นมนุษย์” อีกทั้งยัง “โอหัง คลั่งอำนาจ”
ด่าทุกเม็ด รู้ทุกเรื่อง
พอมาเป็นรัฐบาล..เป็นไงครับ
นิด้าโพลบอกว่าปัญหาใหญ่ที่ทำให้ รัฐบาลมาดามแพ ไปต่อไม่ไหว คือ แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ตามเป้า
ไปไหวหรือไม่มิทราบได้