24 มิถุนายน 2567 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา นำคณะ ลงพื้นที่ศึกษาดูงานในสถานประกอบการ ที่เข้าร่วมโครงการดูแลสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุก หรือ Healthy Thailand เพื่อผู้ประกันตน ณ ทอสกานาวัลเล่ (Toscana Valley) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
โดยมี หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครราชสีมา ผู้บริหารและพนักงานทอสกานาวัลเล่ ร่วมให้การต้อนรับ
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ในวันนี้ผมพร้อมด้วยคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา ได้ลงพื้นที่มายังทอสกานาวัลเล่ ซึ่งสถานประกอบการแห่งนี้ได้เข้าร่วมโครงการดูแลสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกในสถานประกอบการ หรือ Healthy Thailand เพื่อผู้ประกันตน โดยลงนาม MOU กับโรงพยาบาลศิครินทร์ และสำนักงานประกันสังคม เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2566 และดำเนินการตรวจสุขภาพเชิงรุกแก่พนักงานมาแล้วจำนวน 2 รอบ
ซึ่งรอบล่าสุดเมื่อวันที่ 13 – 14 กุมภาพันธ์ 2567 นายณรงค์ รัตนานุกูล ประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านประกันสังคม วุฒิสภา ได้ลงพื้นที่มาติดตามในครั้งนั้น โดยพบว่า จากจำนวนพนักงานทั้งหมดกว่า 934 คน มีผู้สมัครเข้ารับการตรวจสุขภาพในรอบแรกจำนวน 795 คน และสมัครในรอบสองจำนวน 622 คน
ผลจากการตรวจสุขภาพทั้ง 2 รอบ พบว่า พนักงานอยู่ในกลุ่มเสี่ยงปานกลางมากที่สุดเฉลี่ย 500 คน การเข้าร่วมโครงการ Healthy Thailand เพื่อผู้ประกันตน ในปี 2566 ทำให้สถานประกอบการสามารถแยกพนักงานได้เป็น 3 กลุ่ม ตามผลการตรวจสุขภาพ ได้แก่ กลุ่มเสี่ยงน้อย กลุ่มเสี่ยงปานกลาง และกลุ่มเสี่ยงสูง
จากนั้นจะมีระบบติดตามดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ มีการให้ความรู้ เพื่อการป้องกันการเกิดโรคและเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้จำนวนพนักงานในกลุ่มเสี่ยงสูงลดลง ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้มีข้อดีคือทำให้พนักงานสามารถทราบความเสี่ยงทางสุขภาพของตนเอง เข้าถึงการตรวจสุขภาพโดยไม่กระทบการทำงาน ไม่กระทบสิทธิวันลา และเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตนได้เป็นอย่างมาก
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวต่อว่า การศึกษาดูงานในวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามความก้าวหน้าเกี่ยวกับการให้บริการดูแลตรวจสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกในสถานประกอบการ ตามโครงการ “Healthy Thailand เพื่อผู้ประกันตน” จากครั้งที่ผ่านมา พร้อมรับฟังเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการ ถึงข้อดีหรือข้อควรปรับปรุง ของโครงการดังกล่าว ซึ่งภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ พนักงานส่วนใหญ่สมัครเข้าร่วมโครงการทั้งหมด คณะกรรมาธิการจึงเห็นว่าควรขยายผลโครงการ Healthy Thailand เพื่อผู้ประกันตน ไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ และออกแบบวิธีการเพื่อให้สามารถเข้าถึงสถานประกอบการขนาดเล็ก หรืออยู่ในพื้นที่ห่างไกล ให้ผู้ประกันตนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
“โครงการดังกล่าวจะช่วยให้ระบบสุขภาพของประชาชนกลุ่มแรงงานได้มีการคัดกรองและป้องการเกิดโรคภัย ตั้งแต่ระยะแรก ย่อมส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วยของกลุ่มแรงงานลดมีจำนวนน้อยลง สามารถทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ สร้างรายได้และความมั่นคงในชีวิตได้ดียิ่งขึ้น ส่วนนายจ้างก็ไม่ต้องเสียกำลังแรงงานในการผลิต และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็น เมื่อระบบสุขภาพของแรงงานไทยมีความเข้มแข็ง ย่อมเป็นผลดีต่อระบบสุขภาพที่ดำเนินการของภาครัฐโดยรวมและลดค่าใช้จ่ายภาครัฐได้อีกทางหนึ่ง” พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าว