“ครอบงำ”..เป็นอย่างไง?-สันต์ สะตอแมน

สันต์ สะตอแมน

เรื่องความนิยมผมเห็นด้วยกับผลโพล!

แต่..ที่คุณเทพไท เสนพงศ์ ว่า.. “เมื่อมองถึงแนวโน้มการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้และอนาคต พรรคก้าวไกลยังครองใจคนส่วนใหญ่ของประเทศ

ยิ่งประชาชนมีความรู้สึกว่า พรรคก้าวไกล ถูกกลั่นแกล้งหรือถูกรังแกทางการเมืองมากเท่าไหร่ คะแนนความสงสาร คะแนนของชนชั้นกลาง ก็จะเทให้พรรคก้าวไกลมากขึ้นเท่านั้น

ซึ่งเป็นโจทย์ที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมต้องขบคิดกันต่อไปว่า ทำอย่างไรถึงจะเอาชนะพรรคก้าวไกลให้ได้

การทำลาย การบอนไซ หรือการตัดตอนพรรคก้าวไกล โดยการยุบพรรค ไม่ใช่โจทย์คำตอบในการเอาชนะพรรคก้าวไกลบนเวทีการเมืองได้”นั้น

ผมเห็นจะขอขัดคอโดยเฉพาะประโยคท้าย.. “การทำลาย การบอนไซ หรือการตัดตอนพรรคก้าวไกล โดยการยุบพรรคไม่ใช่โจทย์คำตอบในการเอาชนะพรรคก้าว..”

แม้ลึกๆ ผมเชื่อมีความพยายามจะทำลาย จะบอนไซ จะตัดตอนพรรคก้าวไกล แต่ผมไม่มีทางเชื่อหรอกว่าการทำลายก็ดี การบอนไซก็ดี หรือการตัดตอนก็ดี..

จะสำเร็จได้ดังหมาย หากว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้ทำผิดกฏหมายในทุกกรณี!

ฉะนั้น พรรคก้าวไกลจะถูกยุบ-ไม่ถูกยุบจึงขึ้นอยู่กับ “ความผิด” โดยศาลเป็นผู้วินิจฉัย ซึ่งทุกเรื่องที่พรรคก้าวไกลถูกร้องเรียน ก็ล้วนเกิดจากการกระทำของตัวเองทั้งนั้น!

คุณเทพไทอาจจะเป็นประชาชนคนหนึ่งที่รู้สึกพรรคก้าวไกลถูกกลั่นแกล้ง-ถูกรังแก นั่นก็เป็นสิทธิ์ที่ใครก็ไม่อาจห้ามความรู้สึก-ความคิดได้

และแม้คะแนนความสงสาร คะแนนของชนชั้นกลาง จะเทให้พรรคก้าวไกลมากขึ้น ก็ไม่เห็นเป็นไร และถ้าก้าวไกล (ไม่ถูกยุบ) จัดตั้งรัฐบาลได้ ก็ต้องยอมรับ

คุณเทพไทไม่ต้องห่วงหรือกังวลหรอกว่า “ฝ่ายอนุรักษ์นิยม” จะเอาชนะก้าวไกลได้อย่างไร และไม่ต้องไป (ช่วย) โน้มน้าวสังคมว่าก้าวไกลถูกกลั่นแกล้ง!

ตอนนี้..เอาจริงๆ ผมก็อยากให้พรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลอยู่นะ ถึงจะอ่านเลขผิดๆ ถูกๆ ก็เถอะ!

เปล่า..ผมไม่ได้นิยมชมชอบหรือศรัทธาในตัวคุณพิธาอะไรหรอก แค่ผมคิดเอาว่า ถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล เรื่องเดียวที่จะทำคือการยกเลิกม.112

ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้โดยง่าย จะต่างกับพรรคเพื่อไทยที่เป็นรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ ที่คิด-ทำหลายอย่างโดยแต่ละอย่างล้วนส่อไปในทางสร้างความมั่นคง-มั่นคั่ง..

หรือได้ประโยชน์กับเจ้าของพรรคเสียส่วนใหญ่!

สังคมไทยยามนี้ผมมองว่าตกอยู่ในสภาพ “กบเลือกนาย” ไม่เอาก้าวไกลก็ต้องเอาทักษิณ ไม่เอาเพื่อไทยก็ต้องเอาธนาธร-พิธา

ก็..อยากให้ถามใจตัวเองกันว่า ระหว่างทักษิณกับธนาธร เราจะฝากฝี-ฝากไข้ ฝากบ้าน-ฝากเมืองไว้กับใคร?

เออ..แล้วที่คุณอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. พูดถึงกรณีนายทักษิณ เดินทางไปพรรคเพื่อไทย ทั้งที่ยังมีสถานะเป็นนักโทษเด็ดขาดในคดีทุจริตที่อยู่ระหว่างการพักโทษ

การกระทำนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทยผิดกฎหมายพรรคการเมือง ว่า..“กกต.มีหน้าที่ดูแลพรรคการเมืองอยู่แล้ว ถ้าพรรคใดยินยอมให้บุคคลใดมาครอบงำ

หรือคนใดไปครอบงำพรรคการเมือง ก็มี พ.ร.ป.พรคการเมือง มาตรา 28 และ 29 ระบุไว้ชัดเจน ห้ามพรรคการเมืองยินยอมให้ผู้ใดมาครอบงำ

ดังนั้นถ้ามีการกระทำใดๆ ที่อาจจะเข้าข่ายฝ่าฝืน 2 มาตรานี้ ก็เป็นเรื่องที่ กกต. สามารถดำเนินการได้

ส่วนการปรากฏตัวของนายทักษิณ มี สส. รัฐมนตรี และสมาชิกพรรค ไปพบที่พรรค ซึ่งต่างจากการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่

ยืนยันคำเดิมว่า ถ้าผิดกฎหมายจะต้องมีการครอบงำ”

แล้ว..“ครอบงำ” น่ะ เป็นอย่างไง..หือ?

Written By
More from pp
“อนุดิษฐ์” แนะรัฐบาลเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค-ตรวจเชื้อโควิด-19 ฟรี
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เยี่ยมพี่น้องประชาชน เขตสายไหม ซอยพหลโยธิน 52 ซึ่งมีแม่ค้าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยได้นำอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มาแจกจ่ายเพื่อให้พี่น้องประชาชนใช้ดูแลตนเอง
Read More
0 replies on ““ครอบงำ”..เป็นอย่างไง?-สันต์ สะตอแมน”