ระวัง..เหลืออด-สันต์ สะตอแมน

สันต์ สะตอแมน

อย่าผิดศีลข้อมุสาเลย..

นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษที่ได้รับการพักโทษด้วยเจ็บป่วยขั้นวิกฤติ จะไปขึ้นเขา-ลงเหวที่ไหน กระทั่งไปนั่งให้สส.พรรคเพื่อไทยกราบถึงที่ทำการพรรค (วันนี้) ก็เชิญ..ตามสบาย!

ทั้งคุณภูมิธรรม เวชยชัย ทั้งคุณพวงเพ็ชร ไม่ต้องอรัมภบทมดเท็จ เพราะถึงขั้นไปไหน-มาไหนไม่ต้องสวมปลอกคอ ไม่ต้องขออนุญาตกรมราชทัณฑ์ อย่างนี้แล้ว..

ขี้หมา-ขี้หกไปใครก็ไม่เชื่อ สู้ปิดปากเงียบเสียดีกว่า อย่าให้ผู้คน-สังคมเขาเอือมระอา หดหู่ใจมากไปกว่าที่เห็น-เป็นอยู่นี้เลย!

เชื่อแล้วล่ะว่านายเหนือหัวพวกคุณยิ่งใหญ่คับฟ้า-คับแผ่นดินจริง และไม่เฉพาะนักโทษได้รับการพักโทษนายทักษิณ..

“อุ๊งอิ๊ง”ลูกสาว ก็ดูจะเจริญรอย “ความยิ่งใหญ่”ตามพ่อมาอีกคน!

และเมื่อใหญ่กันทั้งบ้าน ก็ขอให้สุขสำราญกันให้เต็มที่ จะทำอะไรก็เอาตามที่สบายใจ ไม่มีแล้วประชาชน ไม่มีแล้วกฏหมายที่จะไปราวี-วอแว หรือบังคับนายทักษิณได้..

ระวังอย่างเดียว..เหลิง-ท้าทายมากไป คนที่เขาหมั่นไส้ จะเหลืออดเอา!

เอ้า..แล้วนั่นก็คงจะเหลืออด คุณชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ถึงได้แหกพรรค (ที่รอร่วมรัฐบาล) ออกมาพูดถึงรัฐบาลเศรษฐาแบบไม่ไว้หน้า..

“จากที่หลายสถาบันองค์กรทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงภาครัฐ เอกชน ไม่ว่าจะเป็นธนาคารโลก สภาพัฒน์ฯ ศูนย์วิจัยธนาคารไทยพาณิชย์ กสิกรไทย

ต่างศึกษาวิเคราะห์ประมาณการเจริญเติบโตเศรษฐกิจหรือ GDP ของประเทศไทยในปีนี้จะลดลงจากเดิมกว่า 3% ลงมาเหลือกว่า 2%

สะท้อนถึงการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลตลอด 6 เดือนว่า ล้มเหลวอย่างชัดเจน และขาดความเชื่อมั่นในสิ่งที่รัฐบาลจะทำต่อไปในอนาคต

ที่สำคัญยังบกพร่องเรื่องจริยธรรม เพราะรัฐบาลทำลายกระบวนการยุติธรรมไทย ทำให้การดูแลนักโทษเกิดสองมาตรฐาน

อย่างไรก็ตาม ข้ออ้างหนึ่งที่รัฐบาลชอบใช้แก้ตัว คือ งบประมาณแผ่นดินล่าช้าเป็นเหตุให้ไม่มีผลงานนั้น ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล

เพราะรัฐบาลมีอำนาจที่จะบริหารงบประมาณทั้งก่อนและหลังงบประมาณบังคับใช้ เช่น การเร่งรัดหลักเกณฑ์การใช้จ่ายงบประมาณ

ซึ่งจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในส่วนต่างๆ และเห็นภาพที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้

เริ่มต้นเข้ามาบริหารประเทศรัฐบาลประกาศจะทำหลายเรื่อง ทั้งโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท การขึ้นค่าแรง แก้ปัญหาหนี้สิน แต่ทำสำเร็จเพียงเรื่องเดียว คือ ช่วยนักโทษอดีตนายกฯ

ที่ผ่านมานายเศรษฐาเดินสายไปต่างประเทศบ่อยครั้ง ซึ่งช่วงแรกเดินทางไปโรดโชว์ ขายเมกะโปรเจกต์โครงการแลนด์บริดจ์ แต่สุดท้ายไม่มีใครสนใจชัดเจน

จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเดินแฟชั่นโชว์ขายผ้าขาวม้า นายกฯ อาจรู้สึกภูมิใจนิตยสารดังให้สมญานามเป็นเซลส์แมน แต่สำหรับตนอายคนทั้งโลก

เพราะนายเศรษฐาเป็นได้เพียงเซลส์แมนขายฝัน เป็นผู้นำแฟชั่น แต่ไม่ใช่ผู้นำประเทศ..

ส่วนโครงการแก้หนี้ให้กับประชาชน มองว่า ขณะนี้หนี้สินทั้งในและนอกระบบ มีมูลค่าเกือบ 20 ล้านล้านบาท สุดท้ายก็ปิดโครงการ ช่วยได้ไม่ถึง 1% ของหนี้ทั้งหมด..

เศรษฐกิจไทยต้องเร่งปรับโครงสร้าง เพราะการโปรโมท แต่การท่องเที่ยวเหมือนหากินกับของเก่าขายสมบัติชาติระยะยาว ชูเรื่องนี้อย่างเดียวไม่ได้

ประกาศวิสัยทัศน์ให้ไทยประเทศเป็นฮับการท่องเที่ยว ซึ่งไม่ต้องประกาศก็เป็นอยู่แล้ว..”

ครับ..ที่พูดนี้ไม่รู้ได้ปรึกษาหัวหน้ากับเลขาพรรคหรือยัง ก็หวังว่าพูดแล้วคุณชนินทร์จะไม่โดน (แอบ) ตบปาก เพราะก็รู้ๆ กันอยู่..

ประชาธิปัตย์ยุคนี้แม้จะมีความขลัง ความดุดันตามแบบฉบับ “ฝ่ายค้าน” มือวางอันดับ 1 ก็จริง แต่ตอนนี้ดูอ่อนระโหยโรยแรง..

มันเป็น “พันพรือ” ..แหลงถิ!

Written By
More from pp
BEM ผนึกพันธมิตร มอบประสบการณ์เดินทาง เพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน ชวนวัยทำงานบอกลาออฟฟิศซินโดรม ใน BEM Care 2024
BEM ฉลองวาระครบรอบ 20 ปี รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ผนึกพันธมิตรและเครือข่าย จัดกิจกรรม BEM Care 2024…Say...
Read More
0 replies on “ระวัง..เหลืออด-สันต์ สะตอแมน”