ผักกาดหอม
มันเหลือเชื่อมั้ยล่ะครับ….
เมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานี่เอง “ประยุทธ เพชรคุณ” โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นั่งแถลงข่าวพูดถึงอาการของ “นักโทษชายทักษิณ” ว่าป่วยขั้นวิกฤต
“…จากสภาพที่เห็นท่านทักษิณ ซึ่งนั่งวีลแชร์มาพบอัยการ ดูแล้วป่วยขั้นวิกฤต เดินไม่ไหว และจากการพูดคุย ท่านก็ไม่ค่อยมีเสียง…”
๑ เดือนที่แล้ว ทั่นนักโทษชายยังวิกฤต เดินไม่ไหว ไม่คอยจะมีเสียงอยู่เลย
แต่วันเสาร์ที่ผ่านมา “ปาก” ทำงานแล้ว
“…ยังไงก็โปรดเข้าใจและเห็นใจคนแก่ในวัย ๗๕ ปีด้วย ที่จากบ้านเกิดเมืองนอนไปนาน วันนี้กลับมาใครไม่ชอบหน้า ก็ต่างคนต่างอยู่ไป…”
เป็นไปได้หรือครับ…
ผ่านไปแค่เดือนเดียว ผู้ป่วยขั้นวิกฤต เดินไม่ไหว พูดไม่มีเสียง จะยืนให้สัมภาษณ์ พูดจาชัดถ้อยชัดคำ เรียกทัวร์ไปลงได้
ไม่ธรรมดา สมกับเป็นนักโทษเทวดาจริงๆ
แต่…”นักโทษชายทักษิณ” เข้าใจอะไรผิดไปเยอะครับ
นักโทษวัย ๗๕ มีอยู่คนเดียวครับ ที่หนีโทษจำคุกคดีคอร์รัปชันไปนานหลายปี แล้วกลับมาโดยไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว
หาก “ทักษิณ” เป็นแค่ชายแก่วัย ๗๕ ไม่มีความผิดติดตัว เดินทางกลับบ้านเกิด เพราะไม่อยากอยู่เมืองนอก ใครจะไปว่าอะไรล่ะครับ
มีแต่ยินดีต้อนรับกลับบ้าน
แต่นี่ไม่ใช่!
แน่นอนครับมีคนไม่ชอบขี้หน้า “นักโทษชายทักษิณ” เยอะ
แม้การเมืองวันนี้จะผสมข้ามสายพันธุ์ แต่ก็ใช่ว่า คนที่เคยลุกขึ้นมาต่อต้านระบอบทักษิณในอดีต จะไปนิยมชมชอบพรรคเพื่อไทย
หรือแม้กระทั่ง คนเสื้อแดง ในอดีตที่จงรักภักดี “นักโทษชายทักษิณ” ก็ใช่ว่าวันนี้จะยังคง จงรักภักดีอยู่
ดู “อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” อดีตแดงนครปฐมตัวแม่ วันนี้เป็นนักการเมืองค่ายสีส้ม เป็นตัวอย่าง
ยิ่งนับวันยิ่งเกลียด
ด่ากราดผ่านโซเชียล เป็นสุกรเป็นสุนัข
“…แทนที่ #ทักษิณ จะใช้โอกาสเป็นรัฐบาลผลักดัน กม.นิรโทษกรรม ผ่าน กม.เสร็จได้รับอิสรภาพพร้อมกับทุกคนที่ไม่ได้รับความยุติธรรมจากคดีความทางการเมือง
ผลการเลือกตั้งฝั่ง ปชต.คะแนนรวมกันชนะถล่มทลาย สะท้อนเจตนารมณ์ชัดแจ้งของพี่น้อง ปชช.ต้องการสั่งสอนคนทำรัฐประหารและสืบทอดอำนาจ
ประเทศสูญเสียโอกาสสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลง ความหวังของผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งถูกบดขยี้ทำลายด้วยการตระบัดสัตย์ข้ามขั้ว ด้วยดีลเห็นแก่ตัวของทักษิณ
ฉุดพัฒนาการ ปชต.ของประเทศถอยหลังลงคลองเสร็จ กลับมาติดคุกทิพย์ตามดีล เย้ยหยันทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรม
คุ้มครองครบ เหมาจ่ายจบ ตั้งแต่รุ่นเล็กถึงรุ่นใหญ่
Generali Thailand
เสร็จแล้วไม่อยู่บ้านเลี้ยงหลานตามที่คุย มาเดินสายขอความเข้าใจเห็นใจคนแก่อายุ ๗๕ ใครไม่ชอบผมก็ต่างคนต่างอยู่
ถามว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?
‘เดินสายไม่เลี้ยงหลานอยู่บ้าน ดูทรงแล้วไม่ปลง ออกไปทางมักใหญ่ใฝ่สูง อยากเป็นสมเด็จแบบฮุนเซน’…”
เกลียดเข้าไส้ทีเดียว!
กรณีนี้คือถูกหลอก
คนเสื้อแดงจำนวนมากคิดได้ว่าถูก “นักโทษชายทักษิณ” หลอก จึงหันไปเป็นสาวกพรรคก้าวไกลแทน
กลุ่มนี้ยังรู้สึกเลยครับ จะมาพูดว่าต่างคนต่างอยู่ได้ไง
แล้วคนที่ต่อต้านระบอบทักษิณ ต่อต้านการปล้นชาติ รู้หรือเปล่าว่าคนกลุ่มนี้รู้สึกอย่างไร เมื่อ “นักโทษชายทักษิณ” กลับมาแล้วโกงคุกอีกที
ฉะนั้นต่างคนต่างอยู่ลำบากครับ
คนโกงมันต้องอยู่ในคุกต่างหากถึงจะถูกต้อง
แต่สิ่งที่ “นักโทษชายทักษิณ” ประเมินผิดไปอย่างมาก นั่นคือ ความผิดที่ก่อ ไม่ใช่แค่ ถูกศาลสั่งจำคุกคดีคอร์รัปชันเท่านั้น
แต่ยังอยู่เบื้องหลัง สร้างความขัดแย้งทางการเมืองอย่างต่อเนื่องนานนับสิบปี
“นักโทษชายทักษิณ” มีส่วนสำคัญในการจุดชนวนความขัดแย้ง จนนำไปสู่เหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองเมื่อปี ๒๕๕๓
ปราศรัยผ่านวิดีโอลิงก์ว่า “พี่น้องชาวเสื้อแดงทั่วประเทศไทย หากมีอะไรเกิดขึ้นกับคนเสื้อแดง ให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดได้เลย”
ผลเป็นไงครับ
คดีเผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ศาลสั่งจำคุกจำเลย ๑๒ คน
คดีเผาศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ศาลตัดสินจำคุกจำเลย ๒๒ คน
คดีเผาศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ศาลตัดสินจำคุกคนเสื้อแดง ๑๓ คน
โทษไม่เบานะครับ หลายคนติดคุก ๒๐-๓๐ ปี
ช่วงปี ๒๕๕๓ “นักโทษชายทักษิณ” คือศูนย์กลางของม็อบเสื้อแดง การเคลื่อนไหวหลายครั้งต้องรอสัญญาณจาก นักโทษชายคนนี้
ขณะนั้นแกนนำ นปช.ต่างรู้ดีว่ามวลชนทั้งหมดเป็นมวลชนของ “คนแดนไกล”
ฉะนั้นหากจะนับความเสียหายที่เกิดจาก “นักโทษชายทักษิณ” มันไม่ใช่แค่คดีความที่ขึ้นโรงขึ้นศาลเท่านั้น แต่ความขัดแย้งทางการเมือง ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องยาวนาน ก็คือความหายนะที่เกิดจาก ความโลภในอำนาจของ “นักโทษชายทักษิณ” เช่นกัน
มาถึงตรงนี้ ถามว่า ต่างคนต่างอยู่ ได้หรือไม่?
ถ้าต่างคนต่างอยู่ โดยไม่มีการตรวจสอบ พฤติกรรมของนักโทษชาย ที่ยังไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว และจะพ้นโทษในอีก ๕ เดือนข้างหน้า ประเทศไทยจะเหลืออะไร?
รัฐบาลไทยรักไทยเต็มไปด้วยการทุจริตเชิงนโยบาย มีผลประโยชน์ทับซ้อนมากมาย
แทนที่จะคิดได้
มาถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์โกงจำนำข้าวอีก
แล้วจะวางใจรัฐบาลเศรษฐาได้หรือว่าจะเป็นรัฐบาลมือสะอาด ในขณะที่มือของ นักโทษชาย เริ่มจะเอื้อมไปแตะ นายกฯ เศรษฐาแล้ว
“นักโทษชายทักษิณ” พูดเรื่องงานของรัฐบาลว่า ยากกว่าสมัยช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง เพราะมีความซับซ้อนและยากมากกว่า
เหมือนจะแบไพ่ ตอกย้ำว่าเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบันวิกฤตหนักกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งเสียอีก
จะให้เข้าทางนโยบาย แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต อย่างนั้นหรือ
ก็เอาสิครับ ไหนๆ นายกฯ ตัวจริงเดินได้ พูดได้แล้ว
เอาแบบ “ฮุน เซน” เลย