ผักกาดหอม
“ตะวัน” กับ “แฟรงค์” ต่ออีกสักวัน
ก่อนนี้ดูคลิปสั้นๆ ตอนแก๊งนี้บีบแตรใส่ขบวนเสด็จฯ
ก็ชัดเจนระดับหนึ่ง
ต้องขอบคุณเว็บไซต์ ilaw ที่กรุณา ถอดบทสนทนาคำต่อคำมาให้อ่านกัน จนทำให้เข้าใจสถานการณ์ได้แจ่มแจ้งขึ้น
แต่เจตนาของเว็บไซต์ ilaw คือ คำพูดแค่นี้ผิด ม.๑๑๖ ยุยงปลุกปั่น เป็นภัยต่อความมั่นคงไปได้อย่างไร
ควรหรือไม่ควรแจ้งข้อหากระทำผิด ม.๑๑๖ มาดูกัน
————
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรณีของตะวัน-แฟรงค์ เกิดเมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ตะวันไลฟ์สดผ่านบัญชีเฟซบุ๊ก Tawan Tantawan เป็นเหตุการณ์การเจรจากันระหว่างแฟรงค์ซึ่งเป็นคนขับรถ กับตะวัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่อยู่ในบริเวณนั้น
นาทีที่ ๐๐.๐๐ เกิดเสียงบีบแตรขึ้น จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินมายังรถยนต์ที่ตะวันและแฟรงค์ใช้เดินทาง
ตะวัน : “ถนนก็ถนนประชาชน มีปัญหาอะไรพี่”
นาทีที่ ๐๐.๑๘ เสียงแตรหยุดลง
ตำรวจคนที่ ๑ : “คุณแซงขบวนน่ะครับ”
ตะวัน : “ขบวนอะไรคะพี่”
แฟรงค์ : “ขบวนอะไรครับ ขบวนแล้วมันยังไงหรอครับ”
ตะวัน : “ขบวนมันทำไมคะพี่”
ตำรวจคนที่ ๑ : “คุณต้องรอแป๊บนึง”
ตะวัน : “รออะไรคะพี่”
แฟรงค์ : “ประชาชนผมต้องรอขบวนหรอครับ”
ตำรวจคนที่ ๑ : “ผมไม่ได้ปิดเลยนะ”
ตะวัน : “ไม่ เมื่อกี้ปิดอยู่ค่ะ”
ตำรวจคนที่ ๑ : “คุณจะรีบไปไหน”
ตะวัน : “รีบค่ะพี่”
ตำรวจคนที่ ๑ : “คุณจะรีบไปไหน”
ตะวัน : “ไม่แล้วขบวนพี่รีบไปไหน”
แฟรงค์ : “มีธุระครับ”
ตำรวจคนที่ ๑ : “แล้วคุณจะรีบไปไหน ผมจะปล่อย คุณจะรีบไปไหน”
ตะวัน : “ไม่ ขบวนพี่รีบไปไหน ทำไมถึงใช้ถนน ถึงปิดได้สบายๆ ทำไมคะ”
ตำรวจคนที่ ๑ : “ผมไม่ได้ปิด”
ตะวัน : “เมื่อกี้ติดอยู่”
ตำรวจคนที่ ๑ : “ติดตรงไหนครับ”
ตะวัน : “เมื่อกี้ติดอยู่”
ตำรวจคนที่ ๑ : “ติดตรงไหนครับ”
ตะวัน : “ก็เมื่อกี้อะติดอยู่ค่ะ ก็เลยงงว่าปิดทำไม”
ตำรวจคนที่ ๑ : “ติดตรงไหน”
แฟรงค์ : “มันก็เห็นชัดเจน”
ตะวัน : “เมื่อกี้อะค่ะ รถคันนี้ก็ติดอยู่ก็เลยถามว่าทำไม ไม่แล้วคือทำไมถึงต้องมีคนไหนที่ต้องสามารถไปได้อย่างสะดวกกว่ารถคันอื่นคะพี่ ตอบหนูได้ไหม ทำถึงต้องมีคันไหนคันหนึ่งที่มันไปได้สะดวกกว่ารถของประชาชน มันทำไมอะ”
นาทีที่ ๐๐.๕๗ เจ้าหน้าที่ตำรวจหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา
ตะวัน : “ถ่ายเลยพี่”
นาทีที่ ๐๐.๕๘ เกิดเสียงแตรขึ้น
ตะวัน : “ถ่ายเลยหนูก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมนักหนา ติดขบวนเนี่ย มันทำไมเนี่ย เนี่ยแล้วก็ติดเนี่ย ไม่เข้าใจว่าทำไมมีขบวนเสด็จแล้วก็มาปิดเนี่ย”
นาทีที่ ๐๑.๒๓ เสียงแตรหยุดลง
แฟรงค์ : “กวักมือเรียกประชาชนไปท้าตีท้าต่อย”
นาทีที่ ๐๑.๒๖ เสียงแตรดังขึ้น
ตะวัน : “อ้าว กวักมือเรียกประชาชนไปท้าตีท้าต่อยด้วยคันนั้น”
นาทีที่ ๐๑.๓๐ เสียงแตรหยุดลง
แฟรงค์ : “มาดิ คิดว่าเจ๋งมากหรอพี่”
ตะวัน : “เอ้ย พี่ หนูถาม หนูถามเนี่ย”
แฟรงค์ : “คิดว่าเจ๋งมากหรอพี่ เป็นตำรวจแล้วเจ๋งมากอ๋อ”
ตำรวจคนที่ ๒ : “ไม่ คุณก็ต้องรู้ว่ามันมีภารกิจ ไปดิไป”
ตะวัน : “มีภารกิจอะไร ทำไมมันถึงต้องมีรถคันนึงที่มันไปได้สะดวกกว่าคันอื่นเนี่ย”
แฟรงค์ : “มีภารกิจอะไรทำไมไปได้สะดวกกว่าชาวบ้านเขา”
ตำรวจคนที่ ๒ : “เอ้า ครับ โชคดี”
แฟรงค์ : “โชคดีอะไร”
ตะวัน : “ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเป็นอะไรกันนักหนากับแค่ขบวนเสด็จเนี่ย”
แฟรงค์ : “เป็นค_ยอะไรเนี่ย ไอ้เหี้ย”
ตะวัน : “เนี่ยแล้วก็มามีปัญหา ประชาชนก็มาติดเนี่ย ละก็มาบอกว่าปฏิบัติภารกิจ ทำภารกิจ ภารกิจอะไร ภารกิจอะไร”
นาทีที่ ๐๒.๐๗ เสียงแตรดังขึ้น
แฟรงค์ : “ค_ย”
นาทีที่ ๐๒.๐๙ เสียงแตรหยุดลง
ตะวัน : “เนี่ย…กว่าจะผ่านมาได้นะคะ เมื่อกี้ก็คือแบบไม่เข้าใจ งง (ถอนหายใจ) ก็ติดขบวนแล้ว อยู่ๆ คือเราก็ขับมา รถประชาชนบนถนน ถนนก็มีให้รถขับอะค่ะ หนูก็ขับกันมาแล้วกลายเป็นว่าตำรวจมันก็ปิดดัก แล้วก็ลงมาบอกว่าเขาก็ทำภารกิจนู่นนี่นั่น หนูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมรถประชาชนมันต้องมารอรถใครหรอคะ ไม่เข้าใจจริงๆ แต่ว่าตอนนี้โอเคแล้วค่ะ ผ่านมาได้แล้ว ยังไงไว้ถ้ามีอะไรมาอีกจะมาอัปเดตนะคะ แต่ตอนนี้ก็คือโอเคผ่านมาได้ด้วยดี…แล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีใครตามอะไรมั้ยยังไง แต่ถ้ามี เดี๋ยวยังไงจะมาอัปเดตอีกทีค่ะ ขอบคุณ”
————-
ครับ…จากบทสนทนาทั้งคู่รู้ครับว่าเป็น “ขบวนเสด็จฯ”
ซ้ำยังแสดงความไม่พอใจ ขบวนเสด็จฯ
ใช้คำหยาบคาย ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
และยังบอกกับแฟนเพจว่า จะอัปเดตสถานการณ์อีกครั้ง
ตำรวจที่ปรากฏในคลิปอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ตามกฎหมายว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยสถาบันพระมหากษัตริย์
คือการถวายความปลอดภัยในขบวนเสด็จพระราชดำเนินภายในประเทศโดยพระราชพาหนะ
ไม่ใช่นึกอยากจะไปโบกรถให้หยุดก็ทำโดยไม่มีเหตุจำเป็น
ในคลิปก็ถือว่าสั้นมากแค่ ๒ นาที
อ่านจบแล้วลองพิจารณาดูครับว่า เจตนาเข้าข่ายเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย
เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร
หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินข้อใดข้อหนึ่งหรือไม่ หรือทุกข้อ
ถ้าใช่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๗ ปี