เปลว สีเงิน
“การบ้าน-การเมือง” ขณะนี้ เหมือน “น้ำตาลหมักยีสต์”
สู่ช่วง “คาร์บอนไดออกไซด์” ขยายตัว
แต่ละเรื่องราวทั้งหลังฉากและที่นอนก้นแรมปี เริ่มมีปฎิกริยา เป็นข่าวเขย่าเมือง-เขย่าอำนาจ ด้วยระดับแอลกอฮอล์ ๘๐ ดีกรี + เป็นระยะ
ที่เปรยแบบปลงกันทุกวันนี้ว่า “กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม” นั้น
อีกไม่กี่เดือน-กี่วัน อาจได้เห็น กระเบื้องที่ฟู จะจมไปปูพื้นนรก, น้ำเต้าที่จม จะลอยเป็นดาวค้างฟ้า
และ “ไฟที่สุมขอน” จะเผาตัวเองมอดไหม้ไปเป็นขี้เถ้า!
ก็ไม่ต้องวิตกอกไหม้หรือต้องห่วงใยอะไรหรอก ดอกไม้ เมื่อถึงเวลาบาน มันก็บานของมันเอง ฉันใด
อะไรๆ ที่จะต้องเป็นไป เมื่อถึงเวลา มันก็ต้องเป็นของมันเอง ฉันนั้น
“รังสรรค์” เป็นงานของมนุษย์
แต่ “จัดสรร” เป็นงานของธรรมชาติ
“กรรม” รู้จักกันว่าเป็นภาษา “ธรรมะ “แต่โปรดเข้าใจกันไว้ “ธรรมะ” นั้น เรียกย่อมาจากคำเต็มว่า “ธรรมชาติ” โดยตรง
ที่ว่า “ไม่มีใครเหนือกรรม”
ความหมายตรงตัวก็คือ “ไม่มีใครเหนือธรรมชาติ” นั่นเอง
เหตุนั้น สิ่งที่เราจะเห็นต่อไปนี้….
“กรรมคือธรรมชาติ” จะทำหน้าที่จัดสรรมนุษย์ “ตามพังเพยที่ว่า” ใครทำดี มีเรือช่วย, ใครทำซวย มีเกือกแถม”
พูดถึง “เกือก”
เมื่อวาน รองศาสตราจารย์พิเศษ ดอกเตอร์อดิศร เพียงเกษ เห็นพาดหัวข่าว “หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์” ที่ว่า
“ไฟเขียวรมต.พบนักโทษ” “เสี่ยนิด” อ้างธรรมเนียมคนไทยเยี่ยมนายเก่าได้/ ”อิ๊งค์” อิ่มใจ
รองศาสตราจารย์พิเศษ ดอกเตอร์ (โอ๊ยยย…เหนื่อย)
ท่านขัดใจมาก จึงโพสต์ข้อความผ่าน X Dr.Adisorn Piengkes
@slide2495p ว่า….
เห็น Thaipost พาดหัว แล้วคันตีน
แลไม่เห็น วิญญาณ แห่งข่าวสาร
จริยธรรม สิ้นสูญ ดั่งยักษ์มาร
อคติ ภัยพาล สื่อสารเลว…
รองศาสตราจารย์พิเศษ ดอกเตอร์อดิศร ท่านบอกเห็นแล้ว “คันตีน” และว่าไทยโพสต์เป็นสื่อสารเลว!
แต่ผมพินิจคำใช้พาดหัวแล้ว มันก็ก้ำกึ่งอยู่นะท่าน ระหว่าง “สื่อสารเลว” กับ “คนอ่านเลว”?!
ถ้าจะคัน ท่านรองศาสตราจารย์พิเศษ ดอกเตอร์ น่าจะ “คันตา” มากกว่า “คันตีน” นะ
ว่าแต่ว่า ท่านใช้อะไรอ่านล่ะ ถึงได้เกิดไปคันที่ตีนน่ะ
เป็น “ฮ่องกงฟุต” หรือเปล่า?
ถ้าเป็น รีบไปซื้อครีม “พญายอ” ขององค์การเภสัช หรือของ “อภัยภูเบศร์” มาทาเลย
ของไทยเรา เจ๋งจริง “ทาปุ๊บ-หายปั๋บ” ผมใช้มาแล้ว ประกันคุณภาพ
แต่ถ้า “ฮ่องกงฟุต” ขึ้นปาก อย่าใช้
ท่านรองศาสตราจารย์ดอกเตอร์อดิศร ต้องไปซื้อ “กรีเซอรีนบอแรกซ์” ของวิทยาศรมมาทา
“ทาปุ๊บ-หายปั๊บ” เหมือนกัน ทาปากนะ ไม่ใช่เอาไปทาตีน
แต่เรื่องนี้ เดี๋ยวผมจะไปฟ้องให้ลูกพี่ผมมาจัดการ
กลัวแต่ว่า ท่านรองศาสตราจารย์พิศษ ดอกเตอร์อดิศร พอรู้ว่าลูกพี่ผมคือใคร?
จะแกล้ง “สลบ-หลบตีน” ซะก่อนเท่านั้นแหละ
บอกให้ก็ได้ว่า “ลูกพี่ผม” คือใคร?
“พี่บัวขาว บัญชาเมฆ” นั่นไง ลูกพี่ผม!
ช่วงนี้ ไม่รู้เป็นไง ผมถูกโฉลกกับเรื่องกระเบื้องลอยฟูซะจริงๆ อย่างวันก่อน ผู้ใช้ชื่อว่า Niwat ก็โพสต์ถึงผม
“ไอ้เปลว เดี๋ยวปลุกพี่เสธแดงไปทุบแท่นพิมพ์อีกนะ ปั่นสื่อเหี้ยๆ แบบนี้”
นี่แสดงว่า คนโพสต์ไม่ใช่ “รุ่นใหม่” น่าจะเป็นรุ่นแตกลายงาเหมือนผม เพราะรู้จักคำว่า “ทุบแท่นพิมพ์”
ยุค “จอมพลสฤษดิ์” เคยส่งลูกน้องไปทุบแท่นหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ผมก็ลืมไปแล้วว่าชื่ออะไร
ทุบแล้ว เขาไปหาที่พิมพ์ใหม่แถวๆ นครปฐมหรือที่ไหนนี่แหละ จำไม่ได้แล้ว ออกใหม่ในชื่อหนังสือพิมพ์ “อิสรภาพ”
ปรากฏว่า ขายดิบ-ขายดี ยิ่งกว่ายาบ้าสมัยนี้ซะอีก ผม ต้องไปรอรถไฟเข้าสถานีตอนเที่ยง
พอมัดหนังสือพิมพ์โยนโครมลงมาจากรถไฟ เจ้าของร้านไม่ทันตัดห่อ คนรอตัดเอง แย่งกันซื้อ แป๊บเดียวเกลี้ยง!
ผมนี่ก็บ้าประเภทหนึ่ง….
พอเฉแล้วไถลนอกเรื่องไปไกลทุกที กลับมาเข้าเรื่องที่ “กลับมาเป็นข่าว” อีกครั้งดีกว่า
เรื่องคดีอัยการกลับคำสั่ง “ไม่ฟ้อง” นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ “บอส-เรดบูล” ทายาทกระทิงแดง
ในข้อหาขับรถยนต์ชนตำรวจสน.ทองหล่อ “ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ” ตาย เมื่อปี ๒๕๕๕
และเป็นที่วิพากษ์-วิจารณ์ในด้านลบจากสังคมขนาดหนักในด้านการทำคดีของตำรวจและการสั่งคดีของอัยการ
เพราะส่อมีขบวนการช่วยเหลือ เปลี่ยนพยานหลักฐานรวมทั้งด้านความเร็วรถ ทำให้ต้องมีสอบสวนทวนความกันใหม่
และเมื่อวาน (๒๗ กพ.๖๗) มหากาพย์ “การงาบสินบน” คดี “บอส-เรดบูล” ก็มีคำตอบเป็นรูปธรรมออกมา
“ป.ป.ช.” มีหนังสือถึง “อัยการสูงสุด”
แจ้งมติ “คณะกรรมการป.ป.ช.” ชี้มูลความผิดทางอาญากับผู้ถูกกล่าาวหา ดังต่อไปนี้
-พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผบ.ตร.
-นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด
-นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตอัยการอาวุโส
-นายพิชัย (ชูชัย) เลิศพงศ์อดิศร หรือสว.ก๊อง “นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่” ปัจจุบัน
-พลตำรวจตรี ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข อดีตผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐาน
-พันตำรวจเอก วิรดล ทับทิมดี อดีตพนักงานสืบสวนสอบสวน สน.ทองหล่อ
-นายธนิต บัวเขียว
-รองศาสตราจารย์ ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม
ทั้ง ๘ นายนี้ “อัยการสูงสุด” พิจารณาสำนวนคดีแล้ว มีคำสั่งรับดำเนินคดีอาญา ฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทั้ง ๘ ตามมติป.ป.ช.
สำหรับผู้ถูกกล่าวหาอื่น ๆได้แก่ …..
พลตำรวจโท มนู เมฆหมอก, พ.ต.อ.วิวัฒน์ สิทธิสรเดช
ป.ป.ช. มีมติ “กันไว้เป็นพยาน”
พ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ นามเมือง หรือ “คทาธร พัชรนามเมือง”, พลอากาศโท จักรกฤช ถนอมกุลบุตร และพลอากาศโท สุรเชษฐ ทองสลวย
ป.ป.ช. มีมติส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตาม ป.วิ.อาญา และพรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 63
พลตำรวจโท เพิ่มพูน ชิดชอบ อดีตผช.ผบ.ตร.ปัจจุบันเป็นรมว.ศึกษาธิการ
ป.ป.ช. มีมติส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ
ตามพรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 64
-นายธานี อ่อนละเอียด วุฒิสมาชิก
-พ.ต.ท.ทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช
-นายวรพล โสคติยานุรักษ์
-นายอุสาห์ ชูสินธ์
-นางสาวณัฎณิชา ทองชื่น
ป.ป.ช. มีมติ “ไม่ชี้มูลความผิด”
ครับ…..
ถึงรอบ “กรรมเช็คบิล” ก็จะมี “คดีค้างคา-ปัญหาค้างใจ” ได้รับการชำระ-สะสาง ทั้งในทางสว่าง ทั้งในทางคดีและทางใจทะยอยออกมาเรื่อยๆ
ไปพัก “เบรกแรก” ตอนราวๆ “เมษา-ปลายพฤษภา.” โน่นแหละ แล้วจะเริ่มยกที่ ๒ ชนิด จอตุงไป-ตุงมา
“สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม”
ขึ้น “ค้ำฟ้าได้” ก็ลง “ต่ำใต้นรกได้”
“คันตีน” ก็ได้ แต่ไปที่รองศาสตราจารย์ ดอกเตอร์อดิศรโน่น
แต่ถ้า “คันใจ” จุดธูปไปปรึกษา “ศิราณี” ได้
สวัสดีทุกๆ โค้นนน พ้มมาพระนะคร๊าบบบบ!
เปลว สีเงิน
๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗