“ก้าวไกล” ที่ไม่รู้ “ใครศัตรู” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

เมื่อวาน……
อ่านที่ “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” กับ “นายชัยธวัช ตุลาธน” ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ”  ในหัวข้อ
จับจังหวะเปลี่ยน ‘นายกฯใหม่’ -‘ก้าวไกล’ พร้อมชิง ‘เพื่อไทย’
ก็นึกขึ้นได้พุธที่ ๒๔ มกรา.ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยเรื่อง พิธาถือหุ้นสื่อ iTV

และพุธที่ ๓๑ มกรา.เรื่องพิธาและพรรคก้าวไกล หาเสียงการยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒

ผมว่า รอให้คำวินิจฉัยทั้ง ๒ คดีออกมาซะก่อน ค่อยคิดเรื่อง “ชิงนายกฯ” กับเพื่อไทย นั่นก็ยังทันนะ

ความจริง ทั้งนายพิธาและนายชัยธวัช พูดตามอายุ คนเลย ๔๐ ขวบ เขาไม่นับเป็น “คนรุ่นใหม่” แล้ว

“พูด-คิด-ทำ” ผ่านบทเรียนจนตกผลึกเป็นประสบการณ์ นั่นตะหาก คือตัวบอก “ความเป็นมนุษย์”

ส่วนคำว่า “รุ่น” แปลว่า “คอก” ขังสัตว์
“สัตว์” มันไม่มีความคิด จึงสร้าง “คอก” ไว้ขังมันไงล่ะ!

เมื่อ “พรรคก้าวไกล” สร้างคอกเป็น “พรรคคนรุ่นใหม่” ขังตัวเอง

ผม…ในความเป็นมนุษย์ อยากบอกด้วยรักและปรารถนาดี ว่า

ในความเป็นคอกก้าวไกล ทางกลยุทธ จะสำเร็จหรือล้มเหลว ขึ้นอยู่กับ “กลวิธี” เป็นตัวกำหนดว่า

“กลยุทธ”นั้น………
นำไปสู่ทาง “หักล้าง” หรือทาง “สร้างสรรค์”!?

เพราะคำว่า “ใหม่-เก่า” ในทัศนคติคนคอก เหมือน “มีด”
ใช้ฆ่าคนอื่นก็ได้ ขณะเดียวกัน ใช้ฆ่าตัวเองก็ได้

ถ้าขาด “ธัมมวิจยะ” คือการ “ค้นหาความจริง ๓ อย่าง”

-สุตธรรมวิจยะ การหาความจริงจากการรับมาจากผู้อื่น -จินตธรรมวิจยะ การหาความจริงจากสิ่งคิด

-ธรรมวิจยะ การหาความจริงจากการทดลอง

คนคอกก้าวไกล นั้น รวมทั้งพิธา-ชัยธวัช, ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์ และใครต่อใคร
ผมยอมรับว่า เป็นคนมีความรู้และมีเป้าหมายชีวิต

แต่ความรู้ที่ไม่มีการค้นหานั้น ทำให้ “หลงติด” เฉพาะสิ่งที่ตัวเองรู้ และการหลงติดก็จะ “ปิดกั้น” การค้นหา การทดลอง ซึ่งนั่น ทำให้ตัวเอง “คับแคบ”

อะไรที่ผิดจากตัวเองรู้และตัวเองคิด จะปฎิเสธ-ต่อต้านไปทั้งหมด ว่าทั้งไม่ใช่ ทั้งผิด ต้องแนวคิด-แนวทางตัวเองเท่านั้นที่ถูก

ผลคืออะไร?
ผลคือ “ก้าวไกล” เป็นคอกของคน “ไร้ประสบการณ์” ในโลกเป็นจริง ไม่มีวันเจาะทะลุถุงยางไปปฎิสนธิสู่มิติจักรวาลใหม่ได้เลย!

ตราบที่ “ก้าวไกล” ยังติดยึดแต่มายาคำว่า “รุ่นใหม่”
แค่ตะวันรุ่งอีกวัน พวกคุณก็เป็น “รุ่นใหม่หลังเขา” ไปแล้ว

เพราะเมื่อวาน “กุมารา-กุมารี” จำนวนหนึ่ง เจาะถุงน้ำคร่ำในห้องคลอด ทะยอยออกมาเป็น “คนรุ่นใหม่” ไล่ถีบหลังพวกคุณแล้ว

คุณพิธานั้น…ขอโทษนะ
ผมไม่เคยให้ค่าคุณในทางการเมืองเลย แต่ถ้าจะไปเป็นดารา ไปเป็นหนุ่มบาร์โฮส ผมจะโพสต์รูปหัวใจให้ทุกวันเลย

แต่ที่จะเผยอไปเป็นนายกฯ นั้น….
คุณอย่าไปทำให้เศรษฐา “ดูมีราคา” ขึ้นทันที ในตำแหน่งนายกฯเลย…ขอร้อง!

คุณมีแต่น้ำ ผมควานจนช้อนหักไปหลายคันแล้ว เจอแต่ฟัก ไม่เจอเนื้อซักชิ้น

ส่วนคุณ “ชัยธวัช” นั้น ดูเหมือนทื่อๆ ไม่มีสีสันจี๊ดจ๊าด แต่เท่าที่สังเกต เป็นทื่อประเภท “น้ำนิ่ง-ไหลลึก”

ในความไม่จี๊ดจ๊าดนั้น ซ่อนในซ่อนบางสิ่งไว้ลึกๆ ชนิดที่ “ธนาธร-ปิยบุตร” ยังคลำจุดนั้นไม่เจอ

ในทางการเมือง “ระยะกลาง-ยาว” ถ้าชัยธวัชให้เวลาตัวเอง “ทบทวน-ใคร่ครวญคิด” ในตัวเอง แยกให้ตกผลึกระหว่างคำว่า
-“กลยุทธ” กับ “กลวิธี”
-“ยุทธศาสตร์” กับ “ยุทธวิธี”
-“ตัวบุคคล” กับ “สถาบัน”

ในความดูเหมือนทื่อ แต่อึดทน-มุพยายามนั้น
ถ้าชัยธวัชใช้ “ความลึก-ผลึกลับ” ที่ธรรมชาติมอบให้มาพร้อม “มโนธาตุ” แต่กำเนิด

แล้วตีโจทย์ในคำที่คุณให้สัมภาษณ์ไว้ให้แตก หมุนไปตามโลก แต่ไม่หลงโลก
โอกาสสำเร็จมีมากกว่า ๖๐-๗๐%!

ที่คุณให้สมภาษณ์ไว้ว่า…..
“อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง ผมคิดว่าตอนนี้วัฒนธรรมทางการเมืองไทยเริ่มเปลี่ยน (ผม)ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว

แล้วจริงๆ ไปไกลกว่า…
คือถวิลหาความเปลี่ยนแปลง ถ้าเกิดเราช่วยเปลี่ยนแปลงในทางวัฒนธรรมที่ไม่ยึดติดกับอดีต มันจะลดเงื่อนไขปะทะขัดแย้งในทางการเมืองลง”

รุ่นใหม่ใน “กากตำรา” มีคำพูดเท่ๆ “แต่กลวงโบ๋” ใช้กันประจำเลยนะ

อย่างเช่น เป็นคนที่เท่าทัน, สังคมกดทับ, ความเหลื่อมล้ำ, การทับซ้อนทางชนชั้น เป็นต้น

ที่ชัยธวัชพูดนี่เหมือนกัน
“……ถ้าเกิดเราช่วยเปลี่ยนแปลงในทางวัฒนธรรมที่ไม่ยึดติดกับอดีต มันจะลดเงื่อนไขปะทะขัดแย้งในทางการเมืองลง”

ชัยธวัช ตอบซิ……..
“วัฒนธรรม” คืออะไร?
“ไม่ติดยึดอดีต” หมายถึงอะไร?

และอะไรคือ “เงื่อนไขปะทะขัดแย้งในการเมือง” ตามนิยามที่คุณอ้างอิงถึงวัฒนธรรมที่ไม่ติดยึดอดีตในเชิงเป็นอุปสรรคนั่นน่ะ

ผมถึงบอกไง เรียนรู้แค่ “ทฤษฎี-ตำรา” มันทำให้โง่ เมื่อโง่ ก็จะไม่ค้นหาความจริง มีคนบอก “คลองบางกอกน้อย” เกิดก่อน “แม่น้ำเจ้าพระยา” หน้าธรรมศาสตร์ คุณก็ไม่เชื่อ

ทั้งที่คุณเรียนจุฬาฯไปคลุกคลีธนาธรที่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เห็นทั้งเจ้าพระยาทั้งคลองบางกอกน้อยก็ตาม

เพราะฟังแล้วก็ไม่ค้นหาความจริงนั่นแหละ
จึงดักดาน ยึดแค่ที่เห็น-ที่ฟัง “ใครบอก…เจ้าพระยาช่วงนั้น” ขุดใหม่ “ตั้งแต่สมัยอธุยา คุณก็ไม่เชื่อ

รู้ทฤษฎี-รู้ตำรา แต่ไม่ค้นหาคือขาด “ประสบการณ์”
นั่นคือหลุมฝังพวกฉลาดแต่โง่!

ที่ชัยธวัชพูดประโยคนั้น เข้าตำรา “ยิ่งเรียนยิ่งโง่-ยิ่งโตยิ่งง่าว” มาทางไหน น่าไปเอาดีทางนั้นมากกว่า

อย่ามาเป็นนักการเมืองคิดล้มเพื่อไทยใต้ “เงาทักษิณ” หวังทะยานเป็น “นายกฯคนรุ่นใหม่” เลย

เมื่อวันเด็ก….
มีเด็กๆ ไปทำเนียบกันเยอะ ยุคนายกฯ ประยุทธ์ วันเด็กที่ทำเนียบ มีไดโนเสาร์ให้เด็กๆ ดู

ยุคนายกฯ เศรษฐา เก็บทิ้งเรียบ แล้วบอกเด็กๆ “ทำเนียบเดี๋ยวนี้ไม่มีไดโนเสาร์แล้วนะ”
แต่เด็กกลับบอกว่า “หนูชอบไดโนเสาร์มากกว่าค่ะ”!

นี่สะท้อนถึงอดีตและวัฒนธรรมแบบง่ายๆ
วัฒนธรรม ประกอบด้วยศัพท์ ๒ ศัพท์ คือ

-วัฒนะ ความงอกงามทางสร้างสรรค์ด้วยภูมิปัญญาทุกด้านของหมู่ชนจนเจริญงอกงามเป็นเอกลักษณ์แห่งชาติและสังคมชนนั้นๆ

-ธรรม ก็ตรงตัว คือความดีงาม

ความงอกงามทางสร้างสรรค์ด้วยภูมิปัญญา เป็นความดีงามสั่งสมสืบทอดจากบรรพชนมาเป็นพันปี จนเป็นรากแก้วชาติ จากอดีตตราบปัจจุบันยันนิรันดร์กาล

คือ “ชาติ-พระศาสนา-สถาบันพระมหากษัตริย์”

นี่ใช่มั้ย คือ “อดีต” ที่ชัยธวัชบอก “ไม่ให้ยึดติด”
และให้คน “รุ่นใหม่” ช่วยกันเปลี่ยนแปลง “วัฒนธรรมที่ไม่ติดยึดกับอดีต”

คือล้มความเป็น “ชาติ, พระศาสนา, สถาบันพระมหากษัตริย์” มันทิ้งซะ

เพราะ “ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์” นี่แหละ ชัยธวัชเน้น “เป็นเงื่อนไขสร้างความขัดแย้งให้เกิดการปะทะทางการเมือง”!!!

ถามจริงๆ เถอะชัยธวัชและทุกคนในคอกก้าวไกล…
พวกคุณยังไม่รู้ตัวอีกหรือว่า ที่ชนะเลือกตั้งแล้วไม่ได้เป็นรัฐบาลเพราะอะไร และใครอยู่เบื้องหลัง?

พวกคุณยังไม่รู้อีกหรือว่า ใครคือ “มิตรในศัตรู-ศัตรูในมิตร” ที่ชิดใกล้ในหม้อข้าวคุณ?

พวกคุณเรียนมากจนโง่ ไม่รู้ว่า ผลไม้นั้น ไม่ว่าพันธุ์ไหน ที่สุกโดยไม่ผ่านการเป็นดอกและดิบมาก่อน มันไม่มี?

และพวกคุณยังไม่เรียนรู้การอยู่ร่วมกับความคิดเห็นต่าง

พวกคุณไม่เรียนรู้กระทั่งว่า…
เวลานี้ สภาคองเกรส “เจ้าโลกประชาธิปไตย” ค้นพบแล้วว่า ที่สังคมอเมริกันล้มเหลววันนี้

เพราะ “ประชาธิปไตย” ในระบบทุนผูกขาด และเขากำลังปรับเปลี่ยนระบบปกครองใหม่เป็น “ประชาธิปไตยคุณธรรม”

สรุปสั้นๆ
“เหลื่อมล้ำ, กดทับ, คนที่เท่ากัน” ทั้งหมดที่พวกคุณคลั่งไคล้พูดนั้น

เพราะฉลาดในกะลาครอบนั่นแหละ พวกคุณจึงไม่รู้ว่า
เหล่านั้น “พระพุทธองค์” ตรัสสอนไว้แล้วในอดีตกาลทั้งสิ้น

“ฝรั่ง” ตื่น กำลังทิ้งเปลือก เข้าหาแก่น
“ไทย-รุ่นไหม่” ก็ตื่น……

เผาแก่น เก็บเปลือกที่ฝรั่งทิ้ง มาทำเป็น “ตะปิ้งประชาธิปไตย”!

เปลว สีเงิน
๑๖ มกราคม ๒๕๖๗

Written By
More from plew
จตุรมิตร “บอลคู่ปฐพี” – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน รองจาก “บอลโลก, บอลโอลิมปิก” รายการแข่งขันฟุตบอลที่ “ยิ่งใหญ่-เกรียงไกร” มีความหมายต่อปฐพีไทยมากที่สุด ก็ “ฟุตบอลจตุรมิตร” นี่ไง!
Read More
0 replies on ““ก้าวไกล” ที่ไม่รู้ “ใครศัตรู” – เปลว สีเงิน”