การเมืองปีมังกร – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ปลายปีที่แล้วหมาดๆ การเมืองตั้งเค้าว่าระบอบทักษิณจะเข้าสู่อีหรอบเดิม

ขยันก่อวิกฤตการเมือง

ย่างเข้าสู่ปีมังกร ความร้อนแรงน่าจะเพิ่มขึ้น

โดยเฉพาะเรื่อง “นักโทษเทวดา” ที่น่าจะปิดฉากลงด้วยการเป็นนักโทษคนแรกๆ ในประวัติศาสตร์ ที่ศาลลงโทษจำคุกแล้ว แต่ยังไม่ติดคุกเลยสักวัน

หลัง “นักโทษชายทักษิณ” เดินทางกลับไทยวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๖ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง บังคับโทษ ๓ คดี จำคุก ๘ ปี

คดีแรก คดีสั่งการให้ Exim Bank อนุมัติเงินกู้สินเชื่อ ๔,๐๐๐ ล้านบาท แก่รัฐบาลเมียนมา โทษจำคุก ๓ ปี ไม่รอลงอาญา

ให้นับโทษ คดีหวยบนดิน โทษจำคุก ๒ ปี ไม่รอลงอาญาไปด้วย เหลือการจำคุกในคดีที่ ๑ และคดีที่ ๒ เพียง ๓ ปี

คดีให้นอมินีถือหุ้นใน บมจ.ชินคอร์ป โทษจำคุก ๕ ปี ไม่รอลงอาญา ให้นับต่อจาก ๓ ปีใน ๒ คดีแรก โดยนักโทษชายทักษิณต้องโทษจำคุกจริง ๘ ปี

นั่นคือคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ประเด็นนี้จึงร้อนแรงข้ามปีอย่างแน่นอน

จนถึงวันนี้เป็นที่รับรู้กันทั่วไปแล้วว่า “ทักษิณ” เป็น “นักโทษ” ที่มีทางเลือกในการไม่เข้าไปนอนในคุกอยู่หลายทางเลือก

พูดง่ายๆ เป็นนักโทษที่เต็มไปด้วยโอกาสมากมายที่จะไม่ติดคุก ซึ่งเกินความสามารถที่นักโทษธรรมดาๆ จะกระทำได้

“นักโทษชายทักษิณ” ถูกปรับให้เข้าเกณฑ์ตามกฎหมายหลายต่อหลายกรณี อยู่ที่จะจิ้มเอากรณีไหน

ทางแรกที่ทำอยู่ในขณะนี้คือ นอนรักษาตัวที่ห้องวีไอพี ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ

วิธีนี้สามารถยืดระยะเวลาไปเท่าไหร่ก็ได้ เพราะกฎกระทรวงยุติธรรม เรื่องการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.๒๕๖๓ ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า หลังเกิน ๑๒๐ วันแล้ว รัฐมนตรียุติธรรมต้องทำอย่างไร

เป็นเพียงการรับทราบตามที่กรมราชทัณฑ์รายงานเท่านั้น กฎหมายไม่ได้ระบุว่าต้องสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่ง

๒๒ ธันวาคมที่ผ่านมาคือวันครบ ๑๒๐ วัน ที่ “นักโทษชายทักษิณ” นอนตากแอร์ในห้องวีไอพี

ฉะนั้น เมื่อ “ทวี สอดไส้” ได้รับรายงานจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ โดยความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาแล้ว จะนิ่งเฉยก็ได้ หรือจะทำตามรายงานก็ได้

ซึ่งแน่นอนว่า ความเห็นของแพทย์จะไม่ต่างจากเดิมคือ “นักโทษชายทักษิณ” ยังต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลต่อไป

แต่จะไม่มีการเปิดเผยอาการป่วย ด้วยข้ออ้างเดิมคือ เป็นสิทธิของผู้ป่วย โรงพยาบาลต้องไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้ป่วย

ทางเลือกถัดมา คือ พักโทษ

การขอพักโทษ เป็นกระบวนการที่เรือนจำจะเป็นผู้พิจารณายื่นเรื่องให้กรมราชทัณฑ์พิจารณา ซึ่งทางเรือนจำจะสามารถยื่นรายชื่อบุคคลที่จะดำเนินการพักโทษได้ จะต้องพิจารณาจากคุณสมบัติของนักโทษรายนั้น โดยแบ่งเป็น ๒ กรณี คือ

๑.แบบปกติ นักโทษรายนั้นๆ จะต้องโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า ๒ ใน ๓ ของโทษจำคุกที่ได้รับ

๒.แบบพิเศษ มีเกณฑ์แยกย่อย ๓ ข้อ คือ

จะต้องเป็นนักโทษที่มีอายุ ๗๐ ปีขึ้นไป

มีภาวะป่วยชราภาพ

ต้องโทษไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๓ ของโทษจำคุก หรือต้องโทษจำคุกตั้งแต่ ๖ เดือนขึ้นไป

“นักโทษชายทักษิณ” เข้าเกณฑ์เกือบทั้งหมด

“นักโทษชายทักษิณ” เหลือโทษจำคุกเพียง ๑ ปี จาก ๘ ปี จากการได้รับพระราชทานอภัยโทษ ฉะนั้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะครบ ๖ เดือนที่ “นักโทษชายทักษิณ” รับโทษติดคุก

ในระเบียบหรือกฎหมายหลายฉบับ เขียนตรงกันว่า การไปพักรักษาตัวนอกเรือนจำ ยังคงเป็นการรับโทษติดคุก ฉะนั้น การที่ “นักโทษชายทักษิณ” นอนตากแอร์ห้องวีไอพีก็คือการติดคุกตามนิยามของกฎหมายราชทัณฑ์

และที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ ระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.๒๕๖๖

ระเบียบนี้ “นักโทษชายทักษิณ” เข้าเกณฑ์ทุกประการเช่นกัน เพราะไม่มีข้อห้ามสำหรับคดีคอร์รัปชันโกงบ้านกินเมือง

ฉะนั้นต้นปีนี้ “นักโทษชายทักษิณ” จะได้กลับบ้านจันทร์ส่องหล้าอย่างแน่นอน ไม่ด้วยทางเลือกใดก็ทางเลือกหนึ่ง

ไปดูความเห็นนักการเมืองฝ่ายค้านกันหน่อยว่ามองการเมืองปีมังกรทองนี้อย่างไร

“ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกลและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร มองว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ ด้วยเห็นว่าในขณะนี้ “นายกฯ เศรษฐา” มีเรื่องร้องเรียนที่ถูกร้องในองค์กรอิสระ ซึ่งหากมีการชี้มูลว่ามีความผิด ก็จะกระทบต่อตำแหน่งบริหารของนายกรัฐมนตรี

พร้อมทั้งแนะให้จับตาบทบาทของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ หากมีการปรับคณะรัฐมนตรีจะมีการปรับให้ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร มารับตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่

ไม่ทราบว่าลึกๆ แล้ว “ชัยธวัช” คาดหวังอะไร แต่การเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี คือการล้างไพ่รัฐบาล

ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า เมื่อนายกฯ พ้นจากตำแหน่ง จะต้องตั้งรัฐบาลกันใหม่

รัฐบาล ๑๑ พรรค ๓๑๔ เสียง ยังคงเป็น ๑๑ พรรคเดิมหรือเปล่า

หรือมีบางพรรคออก บางพรรคเสียบแทน

วุฒิสภาชุดปัจจุบัน จะหมดวาระลงวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ไทม์ไลน์การเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกัน

อีกทั้งการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตให้ประชาชนหัวละ ๑ หมื่นบาท ก็จะแจกในเดือนพฤษภาคม

ฉะนั้นมีความเป็นไปได้สูงว่า เดือนเมษายน-พฤษภาคม นอกจากอากาศร้อนแล้ว สถานการณ์ทางการเมืองยังร้อนฉ่าอีกด้วย

การเปลี่ยนตัวนายกฯ หากจำเป็นต้องเปลี่ยนจริงๆ พรรคเพื่อไทยสะดวกใจที่จะเปลี่ยนก่อนวุฒิสภาหมดวาระ เพราะเชื่อวุฒิสภาจะยังคงโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง

แต่เกมจะเปลี่ยนไปทันที หาก “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ถูกตัดสิทธิทางการเมืองจากคดีหุ้นไอทีวี รวมถึงคดีแก้ ม.๑๑๒ ล้มล้างการปกครอง

เพราะพรรคก้าวไกลเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียวคือ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”

หมดสิทธิ์ตั้งรัฐบาล!

ยกเว้นหันไปสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคการเมืองอื่นที่มี สส.เกิน ๒๕ คนแทน

ทางเลือกนี้การเมืองก็จะยิ่งซับซ้อนยิ่งขึ้น

การเมืองปีมังกร จึงได้ลุ้นกันแทบทุกไตรมาส

“นักโทษชายทักษิณ” พ้นโทษแน่ๆ ในอีกไม่กี่เดือน หาก “อุ๊งอิ๊ง” ถูกดันให้เป็นนายกฯ หลังจากนั้น รัฐบาลเพื่อไทยจะถูกครอบงำจาก “ชินวัตรตัวพ่อ” อย่างสมบูรณ์แบบ

เตรียมรับมือ ระบอบทักษิณรีเทิร์น

Written By
More from pp
จาก ‘ทรัมป์’ ถึง ‘ทักษิณ’ #ผักกาดหอม
ผักกาดหอม จนได้…. ลอบยิง “โดนัลด์ ทรัมป์” สะเทือนมาถึงนักโทษชายที่เมืองไทยได้อย่างไรกัน การลอบสังหารผู้นำเกิดขึ้นทั่วโลก จริงบ้าง สร้างสถานการณ์บ้าง โกหกดื้อๆ เลยก็มี วานนี้...
Read More
0 replies on “การเมืองปีมังกร – ผักกาดหอม”