เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์ในพรรคว่า เรื่องสมาชิกพรรคลาออกนั้น เคารพในการตัดสินใจซึ่งอาจจะมีเหตุผลส่วนตน ได้แต่หวังว่าวันหนึ่งจะได้กลับมาร่วมในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคในวันข้างหน้า
สำหรับในส่วนของพรรค ต้องย้ำว่า เมื่อผ่านกระบวนการขั้นตอนการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคตามกฎหมายและข้อบังคับพรรคแล้ว ทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบ ทำงาน มุ่งมั่น ฟื้นฟู พัฒนาพรรค ให้ก้าวเดินต่อไป ซึ่ง เวลา และการทำงาน จะเป็นเครื่องพิสูจน์ พรรคพร้อมรับฟังทุกความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่การทำงานที่มีจุดมุ่งหมายที่สำคัญคือการพัฒนาพรรคให้ดีขึ้นในวันข้างหน้า
นายราเมศกล่าวต่อไปว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อาสามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ทั้ง ๆ ที่ไม่อยากเข้ามารับตำแหน่ง แต่เมื่อสมาชิกเรียกร้องต้องการให้เข้ามาเพื่อช่วยนำพาพัฒนาพรรค จึงยินยอมเสียสละอาสาเข้ามาทำหน้าที่ เชื่อว่าหากสมาชิกได้เห็นถึงความตั้งใจในการทำงานของนายเฉลิมชัย ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ที่ทำงานให้พรรคมายาวนาน ทุกคนก็จะต้องร่วมกัน ช่วยกันคนละไม้ละมือทำงานเพื่อให้พรรคดีขึ้น เมื่อพรรคมีกฎเกณฑ์กติกากระบวนการเลือกหัวหน้าพรรค และทุกอย่างจบ หน้าที่ของทุกคนในพรรคก็ต้องหาวิธีการช่วย สนับสนุน ตามภาระหน้าที่ที่ทุกคนสามารถทำได้ เวลานี้ต้องมองถึงอนาคตของพรรคเป็นสำคัญ เพราะคนที่เป็นผู้บริหารมาแล้วก็ไป แต่พรรคประชาธิปัตย์ยังต้องอยู่
ดังนั้นเมื่อโจทย์ใหญ่สำคัญที่สุดคือพรรคประชาธิปัตย์ต้องอยู่ต่อไป ทุกคนในพรรคก็ต้องช่วยกันด้วยความมีเอกภาพ ส่วนผู้บริหารมีความท้าทายที่สำคัญคือการทำงานอย่างหนัก เพื่อให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ หากทำไม่ได้สมาชิกพรรคไม่ยอมรับ หรือไม่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องสิ้นสุด และมีกระบวนการเลือกผู้บริหารพรรคชุดใหม่ ระบบประชาธิปไตยในพรรคก็เป็นเช่นนี้ และนายเฉลิมชัยก็พร้อมพิสูจน์ด้วยการทำงาน ในส่วนการยึดอุดมการณ์ของพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ย่อมใช้เป็นแนวทางในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอยู่แล้ว จึงขอให้สมาชิกรวมใจกัน จับมือกัน ร่วมกันทำงานสนับสนุนให้พรรคก้าวไปสู่ความมั่นคงต่อไป
นายราเมศกล่าวในตอนท้ายว่า ขณะนี้พรรครอขั้นตอนกระบวนการของนายทะเบียนพรรคการเมืองอยู่ เมื่อกระบวนการแล้วเสร็จ ก็จะได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคนัดแรก ก็เชื่อว่าจะเห็นแนวทางชัดเจนยิ่งขึ้นว่าแนวทางการทำงานของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะเป็นไปในทิศทางใด และตนจะได้แจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง