ผักกาดหอม
บิงโก…!
หวนคิดถึงคำพูดของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ก่อนเลือกตั้ง
“…ไม่ต้องกังวลว่าผมจะเป็นภาระพรรคเพื่อไทย ผมจะเข้าสู่กระบวนการกฎหมายและวันที่ผมกลับยังเป็นช่วงรัฐบาลรักษาการของ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ ทั้งหมดคือการตัดสินใจของผมเองด้วยความรักผูกพันกับครอบครัว แผ่นดินเกิดและเจ้านายของเรา…”
และยังเคยบอกว่า การกลับจะไม่ใช้กฎหมาย ไม่ต้องนิรโทษกรรม
ถัดมาเดือนสิงหาคม “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร” บอกว่า การกลับมาของพ่อไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือพรรคเพื่อไทย และคดีความก็ไม่เกี่ยวกับการโหวตเลือกนายกฯ และพรรคเพื่อไทยเช่นกัน
ถึงวันนี้เป็นที่ประจักษ์กันแล้วนะครับ “นักโทษชายทักษิณ” รักษาคำมั่นไว้ได้ ๑๐๐% รัฐบาลเศรษฐาไม่ต้องวุ่นวายกับการออกกฎหมายเพื่อช่วยเหลือตัวเองเลย
ที่ได้ไปนอนห้อง วีไอพี ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ ก็เป็นไปตามระเบียบกรมราชทันฑ์ โดยกรมราชทัณฑ์เองยืนยันเสียงแข็ง ไม่มีการเลือกปฏิบัติ ทักษิณ จะนอนชั้น ๑๔ นานแค่ไหนเป็นเรื่องของ หมอ
ส่วนหมอใหญ่โรงพยาบาลตำรวจก็กลืนน้ำลายเอื๊อก! ตั้งแต่วันแอร์เสีย ยันวันที่ ทักษิณ ผ่าตัด นี่ก็ผ่านไปนานพอที่แผลจะแห้ง ปิดสนิทแล้ว
แต่ยังอยู่ชั้น ๑๔ ไม่ยอมลงมาเสียที
สรุปแล้วรัฐบาลเศรษฐาไม่ได้ช่วยอะไรทักษิณเลย
ไม่มีการแก้กฎหมาย ไม่มีการนิรโทษกรรม
ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ล้วนๆ
ช่างเหลือเชื่อจริงๆ!
และแล้วกรมราชทัณฑ์ก็มีระเบียบใหม่ออกมา “สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์” รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทน อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ลงนามในคำสั่งไปเมื่อวันที่ ๘ ธันวาคมที่ผ่านมา ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ที่มีเรือนจำทั่วประเทศ
เป็นระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. ๒๕๖๖ ออกตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. ๒๕๖๐
ไม่ได้แก้กฎหมายครับ
แค่ออกระเบียบตามกฎหมายที่มีอยู่แล้ว
เห็นมั้ยครับว่า “นักโทษชายทักษิณ” รักษาสัจจะแค่ไหน
แกะดูระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. ๒๕๖๖ มีใครเข้าข่ายได้ประโยชน์บ้าง
หมวด ๑ เกี่ยวกับสถานที่คุมขัง ระบุเอาไว้แบบนี้ครับ…
ข้อ ๖ การคุมขังผู้ต้องขังในสถานที่คุมขังให้สามารถทำได้เฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์และในสถานที่คุมขัง ดังต่อไปนี้
(๑) การปฏิบัติตามระบบการจำแนกและการแยกคุมขัง โดยคุมขังในสถานที่สำหรับอยู่อาศัย สถานที่สำหรับควบคุม กักขัง หรือกักตัวตามกฎหมายของทางราชการที่มิใช่เรือนจำ
(๒) การดำเนินการตามระบบการพัฒนาพฤตินิสัย โดยคุมขังในสถานที่ราชการ หรือสถานที่ ที่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐใช้ประโยชน์ในการจัดทำบริการสาธารณะ สถานศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ วัดตามกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์ มัสยิดตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม สถานที่ทำการหรือสถานประกอบการของเอกชน สถานที่ทำการของมูลนิธิ สถานสงเคราะห์ หรือสถานที่ที่ใช้สำหรับการสังคมสงเคราะห์ ไม่ว่าจะเป็นของทางราชการหรือเอกชน
(๓) การรักษาพยาบาลผู้ต้องขัง โดยคุมขังในสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
(๔) การเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย โดยคุมขังในสถานที่คุมขังตาม (๑) (๒) หรือ (๓) ข้อ ๗ สถานที่คุมขังตามระเบียบนี้ต้องมีลักษณะ ดังต่อไปนี้
(๑) กรณีอสังหาริมทรัพย์ ต้องมีทะเบียนบ้านและเลขประจำบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร
(๒) กรณีอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างต้องมีเลขที่อาคาร เลขที่ห้อง อักษรหรือสัญลักษณ์อื่นใด ที่สามารถระบุตำแหน่งของอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวว่าอยู่ตำแหน่งใดของอสังหาริมทรัพย์ และอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวนั้นต้องมีทะเบียนบ้านและเลขประจำบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร
(๓) สามารถกำหนดตำแหน่งหรือพิกัดเพื่อใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ การกำหนดและการยุบเลิกสถานที่คุมขังตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่อธิบดีกำหนด โดยประกาศในระบบสารสนเทศของกรมราชทัณฑ์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
(๑) เป็นสถานที่คุมขังที่มีวัตถุประสงค์ใด และเป็นประเภทใดตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ซึ่งออกตามความในมาตรา ๓๓ แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. ๒๕๖๐
(๒) ที่อยู่และเลขประจำบ้านที่ระบุไว้ในทะเบียนบ้าน เลขที่อาคาร เลขที่ห้อง อักษรหรือ สัญลักษณ์อื่นใด ที่อ่านแล้วสามารถเข้าใจได้ว่าสถานที่คุมขังดังกล่าวตั้งอยู่ ณ ท้องที่ใด
(๓) แผนที่แสดงอาณาเขตของสถานที่คุมขังดังกล่าว
(๔) ชื่อและนามสกุลของผู้ดูแลสถานที่คุมขัง กรณีสถานที่คุมขังตามวรรคหนึ่งได้มีการกำหนดอาณาเขตไว้ชัดเจนแล้วตามกฎหมายอื่นจะถือเอาการกำหนดอาณาเขตดังกล่าวมากำหนดเป็นอาณาเขตตามระเบียบนี้ก็ได้เพื่อประโยชน์ในการงานเรือนจำและสถานที่คุมขังของกรมราชทัณฑ์ อธิบดีจะกำหนดให้ สถานที่ใดเป็นสถานที่คุมขังไว้เป็นการล่วงหน้าก็ได้
หมวด ๒
ข้อ ๘ คุณสมบัติของผู้ต้องขังที่ได้รับการพิจารณาให้ออกไปคุมขังยังสถานที่คุมขัง
ผู้ต้องขังที่จะได้รับการพิจารณาคัดเลือกไปคุมขังในสถานที่คุมขัง ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
(๑) เป็นผู้ต้องขังตามกฎหมายราชทัณฑ์
(๒) ผ่านการจำแนกลักษณะผู้ต้องขังหรือทบทวนแผนการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังรายบุคคล และคณะทำงานเพื่อจำแนกลักษณะของผู้ต้องขังประจำเรือนจำเห็นว่า ควรกำหนดแผนการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง รายบุคคลโดยให้คุมขังในสถานที่คุมขังตามระเบียบนี้
(๓) มีคุณสมบัติเฉพาะและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดไว้ในประกาศกำหนดคุณสมบัติเฉพาะ ลักษณะต้องห้าม และวิธีการคุมขังในสถานที่คุมขังสำหรับผู้ต้องขังแต่ละกลุ่มของกรมราชทัณฑ์
หมวด ๓
การพิจารณา
ข้อ ๑๐ การให้ผู้ต้องขังออกไปคุมขังในสถานที่คุมขังตามระเบียบนี้ ให้คณะทำงานเพื่อจำแนกลักษณะของผู้ต้องขังประจำเรือนจำดำเนินการคัดกรองแล้วเสนอต่อผู้บัญชาการเรือนจำ
ข้อ ๑๑ ให้คณะทำงานเพื่อจำแนกลักษณะของผู้ต้องขังประจำเรือนจำตรวจสอบคุณสมบัติผู้ต้องขังที่มีคุณสมบัติตามข้อ ๘ และไม่ต้องห้ามตามข้อ ๙ และตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้แก่ ข้อมูลการถูกดำเนินคดีซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลในคดีอื่น ประวัติและพฤติกรรมก่อนต้องโทษ ประวัติการใช้ความรุนแรงหรือการใช้ความรุนแรงภายในครอบครัว ประวัติการเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ประวัติการกระทำผิดความผิดเกี่ยวกับเพศ การเปลี่ยนหรือย้ายที่อยู่อาศัย
พฤติกรรมขณะต้องโทษ และรายละเอียดอื่นเท่าที่จะรวบรวมได้ และพิจารณาว่า ผู้ต้องขังดังกล่าวสมควรที่จะใช้วิธีการคุมขังในสถานที่คุมขังหรือไม่
ในกรณีที่เห็นสมควรให้คุมขังในสถานที่คุมขัง สมควรกำหนดแผนการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังมีรายละเอียดอย่างไร มีเงื่อนไขให้ปฏิบัติหรือข้อห้ามใด และมีข้อที่ผู้ดูแลสถานที่คุมขังจะต้องปฏิบัติอย่างไร รวมทั้งความยินยอมของผู้ดูแลสถานที่คุมขัง จากนั้นให้เสนอผู้บัญชาการเรือนจำพิจารณา
ครับ…ภาษากฎหมายอาจเข้าใจยากสักเล็กน้อย ต้องอ่านทวนหลายรอบถึงจะจับใจความได้
แต่สรุปสั้นๆ ให้เข้าใจง่ายที่สุดได้ดังนี้
ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติของนักโทษ สถานที่คุมขัง รวมทั้งหลักเกณฑ์การพิจารณาว่าเข้าเกณฑ์หรือไม่ นักโทษที่ไปรักษาตัวห้องวีไอพี ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจอยู่ในเกณฑ์ระเบียบกรมราชทัณฑ์ฉบับนี้ทุกประการ
เพราะเกณฑ์การได้นอน ห้องวีไอพี ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ นั้นสูงกว่ามาก
ฉะนั้นมีโอกาสสูงครับ ที่ “นักโทษชายทักษิณ” จะได้ย้ายไปนอนบ้านจันทร์ส่องหล้าที่แอร์ฉ่ำกว่า ที่นอนนิ่มกว่า โอ่โถงกว่า ในเร็วๆ นี้
อาจได้ฉลองปีใหม่กับลูกหลานที่นั่นด้วยซ้ำ
และมีแนวโน้มสูงครับว่าเมื่อ “นักโทษชายทักษิณ” ถูกย้ายที่คุมขังไปบ้านจันทร์ส่องหล้า และบ้านจันทร์ส่องหล้าคือสถานที่เตรียมความพร้อมก่อนปล่อย
หมายความว่าได้รับการปล่อยตัวที่บ้านจันทร์ส่องหล้านั่นเอง
ไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียวตามที่ “นักโทษชายทักษิณ” เคยประกาศไว้จริงๆ