เสียดาย ‘ก้าวไกล’ ไม่ได้เป็นรัฐบาล – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

เสียดาย…

เสียดายจริงๆ ครับ

“เสียดายที่พรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นรัฐบาล”

“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” กล่าวไว้เมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต รับฟังภาพรวมการบริหารจัดการขยะน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล

ที่จริงมีผู้คนเยอะแยะครับที่เสียดาย “พิธา” ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี

ฉะนั้นการลงพื้นที่จังหวัดต่างๆของ “พิธา” จึงมีคำว่า “เสียดาย” เต็มไปหมด

แต่…ก่อนที่จะเสียดาย ต้องแยกแยะพฤติกรรม งาน ความรับผิดชอบ และหน้าที่ ให้ออกเสียก่อน

ไม่งั้นจะติดหล่มเสียดายกลายเป็นโรคซึมเศร้าเอาง่ายๆ

ภูเก็ตมีส.ส. ๓ คน ก้าวไกลยกจังหวัด นับเป็นเซอร์ไพรส์การเมือง ฉะนั้นการที่พรรคก้าวไกลจะสร้างเซอร์ไพรส์การเมืองซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่ถูกเก็ตก็ไม่ใช่เรื่องยาก

ปัญหาพื้นฐานทุกจังหวัดมีคล้ายๆกันนั่นคือ การบริหารจัดการขยะน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล ที่แย่พอๆกัน ที่ผ่านมาไม่ว่ารัฐบาลไหน ส.ส.พรรคไหน ได้รับการแก้ไขน้อยมาก

การแก้ไขในระดับที่เรียกว่า การปฏิรูป ไม่เคยเกิดขึ้นเลย ส่วนใหญ่วนอยู่กับการขอความร่วมมือ การบังคับใช้กฎหมายแบบกหลวมๆ ไม่มีระบบตรวจสอบ

ขยะมันถึงได้เต็มเมือง น้ำเสียตามลำคลองเหม็นคละคลุ้งไปหมด

ปัญหาตำตานี้เกิดขึ้นในเขตเมืองทั่วประเทศ

“พิธา” จึงร้องเสียดายว่า หากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล จะได้ดำเนินนโยบายการกระจายอำนาจ จะเพิ่มงบ เพิ่มภารกิจให้ท้องถิ่น

ฟังแบบนี้แล้ว “ด้อมส้ม” เจ็บจี๊ดรู้สึกเสียดายจริงๆที่ “พิธา” ไม่ได้เป็นนายกฯ

วันข้างหน้า “พิธา” ไปจับเรื่องใหม่ในจังหวัดอื่น แล้วบ่นเสียดายที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล “ด้อมส้ม” ก็จุกอกเสียดายที่ “พิธา” ไม่ได้เป็นนายกฯ

ทำแบบนี้ไป ๔ ปี ความเสียดายมันไปถึงสุดขีด ผลักดันให้พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งแลนด์สไลด์ จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้

แล้ววันจัดการกับความเสียดายก็มาถึง

ถ้ามองตามที่ “พิธา” กลัดกระดุมเม็ดแรกยันเม็ดสุดท้าย เจตนาให้เป็นเช่นนั้นจริง

แต่ความจริงหากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล ภาระหน้าที่ของ “พิธา” ในวันนั้น จะต่างจาก “พิธา” ในวันนี้ จากหน้ามือเป็นหลังตีน

ไม่มีหรอกครับ ที่พูดเอาหล่อทีละปัญหา ทีละพื้นที่

แต่ทุกปัญหาในประเทศนี้มันจะมากองตรงหน้าพร้อมๆ กัน ถึงวันนั้นอย่าตาเหลือก เพราะคนเป็นนายกฯ ต้องแก้ทุกปัญหาของประเทศ จะเลือกเฉพาะที่ไม่ได้

ปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ สังคม มาครบ

แล้วของจริงวันนี้เป็นเช่นไรครับ

พรรคก้าวไกลยังแก้ปัญหาในพรรคของตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ กลายเป็นที่ซ่องสุมของนักการเมืองคุกคามทางเพศ

ร้ายเงียบนะ!

ดู “ชัชชาติ สุทธิพันธุ์” สิครับ คนกรุง ๑.๓ ล้านเสียงเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ผ่านมาจะปีครึ่งแล้ว เห็นผลงานเป็นชิ้นเป็นอันให้สมกับ ชายผู้แข็งเกร่งในปฐพีแล้วหรือยัง

อำนาจมีแล้ว งบประมาณก็มาแล้ว นโยบาย ๒๑๖ ข้อ เอาชัดๆมีใครเห็นเป็นรูปธรรมแล้วหรือไม่

ที่จริง “ชัชชาติ” ลงมาเล่นเรื่องขยะ เรื่องความสะอาดตามถนนหนทาง เรื่องเดียวก็พอ ลุยให้เต็มที่ แต่ถามว่าวันนี้เห็นการเปลี่ยนแปลงในกทม.แล้วหรือยัง

แย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ

หาบเร่แผงลอยในพื้นที่ไม่ควรมีก็กลับมีเพิ่มขึ้น

มีการแก้กฎหมาย ระเบียบของกทม. เกี่ยวกับการแยกขยะกันบ้างหรือยัง

กทม.มีมาตรการบังคับให้ทุกบ้านแยกขยะเปียก ขยะรีไซเคิล

หรือโยนให้รัฐบาลกลาง ให้สภาผู้แทนฯ วุฒิสภา เป็นคนทำ

“ชัชชาติ” ไปดูงานขยะจากต่างประเทศมาก็เยอะ

กลับมาได้อะไรบ้าง

หรือได้แค่ขยะความคิด ขยะในใจ

มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสักอย่าง

ก็เทียบให้พรรคก้าวไกลได้เห็นว่า ตอนไม่มีอำนาจอยู่ในมือนั้นมันพูดง่าย จับต้องอะไรก็ดูเก่งดูหล่อไปเสียหมด

เพราะไม่ต้องทำ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร

ชี้วัวให้เป็นควายยังได้

แล้วดู “เศรษฐา แสนสิริ” วันนี้สิครับ เป็นนายกฯมาไม่ถึง ๒ เดือน แก่ไปเป็นสิบปี

ปัญหามันรุมเร้า เอาไม่ทัน

มางานงอกเรื่องสงคราม อิสราเอล-ฮามาส อีก เวลาเสริมหล่อแทบไม่มี

เรื่องแจกเงินดิจิทัล ก็นับถอยหลังลูกผีลูกคน

นี่ขนาดไม่มีปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองมาคั่นเวลานะครับ ยังถือว่ารัฐบาลเศรษฐาโชคดีกว่ารัฐบาลลุงตู่มาก ไม่ต้องเผชิญกับม็อบ ๓ เวลาหลังอาหาร

พวกแก๊งทะลุทั้งหลายเล่นเอาเป็นเอาตาย แต่รัฐบาลลุงตู่ผ่านมาได้ แถมทำได้ดีด้วย

ก็ถือว่ารัฐบาลเศรษฐาเริ่มจากจุดสตาร์ทที่ดีกว่า

ถ้าพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลหล่ะ จะทำอะไรได้บ้าง

และจะเริ่มต้นกันอย่างไร

ก็วนกลับเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง

ตอนหาเสียงพรรคก้าวไกลจะเน้นนโยบายสำคัญเร่งด่วนคือ แก้ม.๑๑๒

ทันที่ที่เข้าบริหารประเทศ รัฐบาลจะเสนอกฎหมายแก้ม.๑๑๒ เข้าสภา

สภาผู้แทนราษฎรโดยเสียงข้างมากของพรรคก้าวไกลจะผ่านกฎหมายฉบับนี้

ถึงวันนั้นเรามีส.ว.ชุดใหม่แล้วซึ่งมาจากการสรรหา

ส.ว.ชุดใหม่จะเอาตามรัฐบาลก้าวไกลหรือไม่

แล้วประชาชนทั่วไปจะรู้สึกอย่างไรที่พรรคก้าวไกลเดินหน้าแก้ม.๑๑๒ โดยไม่ฟังเสียงคัดค้าน

คงไม่ต้องพูดซ้ำว่า การแก้ม.๑๑๒ ของพรรคก้าวไกลจะนำไปสู่อะไร

แต่สิ่งที่จะนำมาสู่รัฐบาลก้าวไกลระหว่างการแก้ไขม.๑๑๒ คือความขัดแย้งครั้งใหญ่ของประชาชนสองฝ่ายในประเทศไทย

ใหญ่แค่ไหน?

ใหญ่กว่าเมื่อครั้งม็อบเหลือง ม็อบแดง ม็อบกปปส. หรือแม้กระทั่งม็อบสามนิ้ว

เมื่อถึงวันที่พรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลจริงวันนั้นอาจมีเสียงบ่น “เสียดาย” อีกครั้ง

เสียดายที่พรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล แต่ไม่รู้จักใช้อำนาจ

0 replies on “เสียดาย ‘ก้าวไกล’ ไม่ได้เป็นรัฐบาล – ผักกาดหอม”