“หลวงพ่อทวด” สยบราหู – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

“ราศีเมษ” เป็นลัคนา “ดวงเมืองไทย” และ “ดวงโลก”
พระราหู “ดาวร้าย” อยู่มา ๑๘ เดือน
พรุ่งนี้ (๑๗ ตค.๖๖ )จะออกจากเมษไปอยู่ราศีมีน
โหราจารย์ท่านว่า ก่อนออก ราหูจะ “ถีบส่งท้าย” แรง

น่าจะจริงแฮะ!
เพราะโลกตลบด้วย “ควันปืน-ควันระเบิด” จากการตอบโต้กัน ระหว่าง “ปาเลสไตน์-อิสราเอล” ขณะนี้้

ไทยทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาด้วย
แต่ “คนงานไทย” ที่ไปทำงานที่นั่น เสียชีวตไปแล้ว ๒๘ ศพ ถูกจับไปเป็นตัวประกันอีกหลายสิบคน!

เมื่อ ๑๘ ปีที่แล้ว….
คือราวๆ ๒๕๔๗-๔๘ ราหูก็อยู่ที่ราศีเมษ ก่อนออก “ก็ถีบส่งท้าย” แบบนี้

เกิด “สึนามิ” นักท่องเที่ยวและคนไทยภาคใต้ ตายไปกว่า ๒-๓ พันคน!
ราหูออกจากราศีเมษแล้วไปอยู่ไหน?
ไปอยู่ “ราศีมีน”

ราศีมีน มี “พระพฤหัส” เป็นเจ้าบ้าน พระพฤหัสเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่แห่ง “ความดี-มีคุณธรรม”

พระราหู เป็นดาวอันธพาล ดาวโกงบ้าน-กินเมือง ดาวมัวเมา-ลุ่มหลงในอบายมุข และความชั่วร้าย ทุกรูปแบบ

ฉะนั้น เมื่อโจรไปอยู่ในบ้านพระ คือที่ราศีมีน
ท่านว่า พระราหูถึงวาระ “โจรจำศีล”!

นั่นคือ พระราหูที่ “ไม่กลัวใครเลย” ทั้ง ๓ โลก แต่หนึ่งเดียวที่กลัว คือ
“ราหู” กลัว “พระ”

และเกรงคนดี ราหูจะไม่กล้ากับคนทำดี มีศีล-มีธรรม ตรงกันข้าม จะคุ้มครอง-ป้องปก ให้ด้วยซ้ำ

ขนาด “พระอาทิตย์-พระจันทร์” ยังเป็นลูกไล่ให้พระราหูเตะตูดเล่น วันดี-คืนดี จับพระอาทิตย์มาอม เกิดสุริยุปราคา
จับพระจันทร์มาอม มาหนีบรักแร้ให้ดมขี้เต่าเล่น จนเกิดจันทรุปราคา

ใครก็ปราบราหูไม่ได้!

“สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า” พระองค์เดียวเท่านั้น ที่ปราบราหูได้ แค่เปล่งพระสุรเสียง ราหูก็กลัว ตัวสั่นงันงก หนีเตลิดแล้ว

ใน “พระสุตตันตปิฎก” เล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
“สุริยสูตรที่ ๑๐” กล่าวไว้ ดังนี้

ก็โดยสมัยนั้น “สุริยเทวบุตร” ถูก “อสุรินทราหู” เข้าจับแล้ว ครั้งนั้น “สุริยเทวบุตร” ระลึกถึงพระผู้มีพระภาค ได้กล่าวคาถานี้ ในเวลานั้นว่า

“ข้าแต่พระพุทธเจ้าผู้แกล้วกล้า ขอความนอบน้อมจงมีแด่พระองค์ พระองค์เป็นผู้หลุดพ้นแล้วในธรรมทั้งปวง

ข้าพระองค์ถึงเฉพาะแล้วซึ่งฐานะอันคับขัน ขอพระองค์จงเป็นที่พึ่งแห่งข้าพระองค์นั้น ฯ

ลำดับนั้น “พระผู้มีพระภาค” ทรงปรารภ “สุริยเทวบุตร” ได้ตรัสกะ “อสุรินทราหู” ด้วยพระคาถาว่า

“สุริยเทวบุตร” ถึงตถาคตผู้เป็นพระอรหันต์ ว่าเป็นที่พึง ดูกร…ราหู ท่านจงปล่อยสุริยะ

พระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นผู้อนุเคราะห์แก่โลก สุริยะใดเป็นผู้ส่องแสง กระทำความสว่างในที่มืดมิด มีสัณฐานเป็นวงกลม มีเดชสูง

“ดูกรราหู…
ท่านอย่ากลืนกินสุริยะนั้น ผู้เที่ยวไปในอากาศ”

“ดูกรราหู…ท่านจงปล่อยสุริยะ ผู้เป็นบุตรของเรา”ฯ

ลำดับนั้น “อสุรินทราหู” ปล่อยสุริยเทวบุตรแล้ว มีรูปอันกระหืดกระหอบ เข้าไปหา “อสุรินทเวปจิตติ” ถึงที่อยู่

ครั้นแล้ว ก็เป็นผู้เศร้าสลด เกิดขนพอง ได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ฯ
“อสุรินทเวปจิตติ” ได้กล่าวกับ “อสุรินทราหู” ผู้ยืนอยู่ ณ ที่

ควรส่วนข้างหนึ่ง ด้วยคาถาว่า
“ดูกรราหู…ทำไมหนอ ท่านจึงกระหืดกระหอบ ปล่อยพระสุริยะเสีย ทำไมหนอ ท่านจึงมีรูปเศร้าสลด มายืนกลัวอยู่”ฯ

อสุรินทราหู กล่าวว่า
“ข้าพเจ้าถูกขับด้วยคาถาของพระพุทธเจ้า ถ้าข้าพเจ้าไม่พึงปล่อยพระสุริยะ ศีรษะของข้าพเจ้าพึงแตกเจ็ดเสี่ยง
มีชีวิตอยู่ ก็ไม่พึงได้รับความสุขฯ”

เห็นมั้ย….!
ทั้งมนุษยโลก เทวโลก พรหมโลก พระราหูไม่เคยกลัวใคร กลัว “พระพุทธองค์” เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น

ฉะนั้น ในโอกาสนี้ เรามาทำดี “สร้างพระร่วมกัน” ให้สำเร็จลุล่วงเป็นการ “สยบราหู” สักองค์เถอะ

คืออย่างนี้ครับ……..
เมื่อ พฤหัสบดีที่ ๑๒ ตุลา.๖๖ มี ๓-๔ ท่านมาคอยพบผมที่สำนักงาน เขาไม่รู้จักผม ผมก็ไม่รู้จักเขา

นั่งคุยกัน ท่านหนึ่งในจำนวนนั้น แนะนำตัวว่า เดินทางมาจากสงขลา เพื่อมาขอความอนุเคราะห์จากผม

ผมถามว่า “มีเรื่องอะไรหรือ?”
ท่านก็มอบจดหมายเป็นหนังสือทางการ จากวัดทรายขาว ตำบลทุ่งหวัง อำเภอเมือง สงขลา ให้ผม พลางบอก

“มีความเห็นกันแล้ว ถ้าผมช่วยอนุเคราะห์ งานที่ค้างคามา ๒๐ กว่าปี สำเร็จแน่”

ผมนึกในใจ โอ๊ะ..อะไรจะขนาดนั้น ก็ยังไม่ทันได้อ่านจดหมาย ฟังเขาพูดไปเรื่อยๆ หูผมฟัง ตาผมพินิจ-พิจารณาแต่ละท่านไปด้วย

ขั้นแรก มีความรู้สึกบอกตัวเองว่า ๒-๓ ท่านที่มานี้ เชื่อถือในความ “ซื่อสัตย์-สุจริต” ได้

สรุปง่ายๆ คือ เป็นดี ไม่ใช่มาหลอกลวง-ต้มตุ๋น อย่างที่เป็นมากมายอยู่ตอนนี้

ขั้นที่สอง ฟังจบ ดูภาพถ่าย ใจบอกตัวเองทันที “ปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ได้” และคิดต่อว่า
อยู่กันคนละมุมประเทศ ทั้งไม่เคยรู้จักกัน แต่บากบั่น-เจาะจงมาหาผม ทั้งที่ผมก็มิใช่คนใต้
มีแต่ใจเท่านั้น ที่รักคนใต้

และจริงๆ แล้ว ตัวผมไม่มีต้นทุนทางความ “เชื่อถือ-ศรัทธา” มากมายอย่างที่เขาคิดและตั้งหวัง?

ก็นั่งซักถามเรื่องราวพอได้ความ ผมก็บอกท่านทั้ง ๔ ไปว่า “ยินดีช่วยตามที่ร้องขอ”

แต่ที่จะให้เป็นประธานนั้น….เอาอย่างนี้เถอะ
ผมจะบอกกล่าวเรื่องนี้ไปทางแฟนๆ ไทยโพสต์ได้ทราบ

ท่านใด “บุญถึง-ศรัทธาถึง-บารมีถึง”
ท่านนั้น ก็จะปรากฎตัวและปวารณารับเป็นประธานให้เอง

ประเด็นมีอย่างนี้ครับ “พระเทพญานโมลี” (ผัน ปสันโน) อดีตเจ้าอาวาสวัดทรายขาว และอดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๘
สร้างองค์ “หลวงพ่อทวด” ไว้องค์หนึ่ง

ใหญ่ขนาดหน้าตัก ๘ เมตร สร้างได้ “ครึ่งองค์” จากส่วนศีรษะถึงหน้าอกเท่านั้น พระเทพญานโมลี ท่านก็มรณภาพ
ปล่อยตากแดด-ตากฝนไว้อย่างนั้นมานานกว่า ๒๐ ปีแล้ว (ตามภาพประกอบ)

ทีนี้ ทางวัดและผู้ศรัทธาในหลวงพ่อทวด อยากจะสร้างให้ครบองค์ พร้อมศาลา ๑ หลัง

คุณชาตรีที่มาด้วยในคณะบอกว่า ตัวท่านศรัทธาหลวงพ่อทวดมาก ตอนนี้รวบรวมทองเหลือง เครื่องหล่อ ครบแล้ว

แต่ค่าดำเนินการ ค่าช่าง ในส่วนนี้ ต้องใช้เงิน ๕-๖ ล้านบาท จึงอยากให้ผมประกาศให้ผู้มีศรัทธาช่วยกันบริจาคเพื่อสร้างให้เต็มองค์

ส่วนศาลา ต้องใช้เงินอีก ๓๐-๔๐ ล้านบาทนั้น ผมบอกว่า ค่อยเป็น-ค่อยไปเถอะ ตอนนี้ เอาแค่หาเงินหล่อหลวงพ่อทวดให้เป็นองค์สมบูรณ์ก่อนละกัน

ก็ตกลงกันตามนี้!

หลวงพ่อทวดองค์นี้ใหญ่ขนาดไหน อ่านจดหมายท่านเจ้าอาวาสดูนะครับ

วัดทรายขาว ตำบลทุ่งหวัง อำเภอเมืองสงขลา
เจริญพร คุณเปลว สีเงิน

ด้วยวัดทรายขาว ได้ดำเนินการสร้างองค์หลวงพ่อทวดเนื้อบรอนซ์ ขนาดหน้าตัก ๙ เมตร ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมอาคารขนาดกว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๔๕ เมตร สูง ๖ เมตร

และวิหารประดิษฐานสรีระพระเทพญานโมลี (ผัน ปสันโน) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๘ อดีตเจ้าอาวาสวัดทรายขาว
โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ ๓๐-๔๐ ล้านบาท

ซึ่งเมื่ออาตมาภาพ “พระครูสังฆรักษ์พิเชษฐ์ จิตตปาโล” ได้เข้ามาเป็นรักษาการเจ้าอาวาส

มีความคิดที่จะดำเนินการก่อสร้างองค์หลวงพ่อทวดให้แล้วเสร็จตามปณิธานของ “พระเทพญานโมลี” (อาจารย์ผัน)

พระผู้ที่ยังความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาให้กับพุทธบริษัททั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

อาตมาภาพมีความเชื่อมั่นว่า การดำเนินงานในครั้งนี้จะก่อประโยชน์ให้เกิดในหลายๆด้าน

ทั้งด้านจิตใจ ความศรัทธา ความมั่นคงในพระพุทธศาสนา และเกิดประโยชน์แก่ชุมชนโดยรอบ

ในการนี้ จึงขอเจริญพรมายังคุณเปลว สีเงิน ขอความอนุเคราะห์เป็นสะพานบุญช่วยประชาสัมพันธ์กิจกรรมของวัดทรายขาว

โดยทางวัดได้มอบหมายให้คุณนพรุจน์ งามอภิชน และคุณพิภพ เจียรวงศ์ตระกูล เป็นผู้ดำเนินการติดต่อประสานงานในครั้งนี้

ขอเจริญพร
พระครูสังฆรักษ์พิเชษฐ์ จิตปาโล
รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดทรายขาว

โทร.๐๙-๐๔๗๖-๔๔๖๔
………………………………..

เรื่องก็เป็นเช่นนี้แหละครับ “หลวงพ่อทวด” นั้น ผมกราบไหว้เคารพบูชาทุกวัน ทั้งที่บ้าน-ที่ทำงาน

ชะรอย “หลวงพ่อทวด” ประสงค์ให้พวกเราชาวไทยโพสต์ที่รักบ้าน-รักเมืองได้ร่วมกันสร้างองค์ท่านให้สมบูรณ์ก็เป็นได้

ฉะนั้น ช่วยกันนะครับ โอนเงินเข้าบัญชี วัดทรายขาว ธนาคารกสิกรไทย สาขา เลขที่บัญชี

ท่านใดต้องการใบอนุโมทนาบัตร inbox ชื่อที่อยู่ไปที่ Facebook เปลว สีเงิน ผมจะรวบรวมให้ทางวัดออกและจัดส่งให้ และผมจะประกาศทุกรายชื่อให้ทราบ

ช่วยกันสร้างหลวงพ่อทวดให้เป็นองค์สมบูรณ์ เพื่อพระราหูได้ร่วมอนุโมทนา กะว่า ปลายปีจะลงไปดูที่วัดให้เห็นกับตา
ขอบารมี “หลวงพ่อทวด” อนุโมทนาทุกท่านนะครับ

เปลว สีเงิน
๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๖

Written By
More from plew
ล็อกทำไม “กรุงเทพฯ”? – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน ผมว่านะ…. บางทีเราก็ใช้คำกันเกินเหตุ เช่น “กรุงเทพฯ แตกแล้ว” ป่วยโควิด “ล้นโรงพยาบาล” แล้ว ทุกโรงพยาบาล “ไม่รับ”...
Read More
0 replies on ““หลวงพ่อทวด” สยบราหู – เปลว สีเงิน”