อย่าได้ชื่อ “ปัญญาอ่อน”?- สันต์ สะตอแมน

สันต์ สะตอแมน

เทศกาลกรุงเทพกลางแปลงกลับมาแล้ว!!

หลายท่านน่าจะรู้ และบางท่านก็น่าจะได้ไปนั่งดูมาแล้ว เพราะเทศกาลฯได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 7 ตุลา ประเดิมด้วยภาพยนตร์เรื่อง “ทรชนคนสวย” ที่ “มิตร ชัยบัญชา” ได้แสดงไว้เมื่อปี 2510

และตลอด 5 สุดสัปดาห์ที่เหลือ ทางกรุงเทพมหานคร สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) และสมาคมหนังกลางแปลงแห่งประเทศไทย ..

ได้มีกำหนดการไว้.. ตั้งแต่เวลา 17.00น. เป็นต้นไป มีการเสวนาพิเศษ พูดคุยกับผู้กำกับและนักแสดง , มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง และ 19.00น. เริ่มฉายหนัง ตามสถานที่ดังนี้

“ลานคนเมือง” วันที่ 14 ต.ค. เรื่อง 14 ตุลา สงครามประชาชน (2544) 15 ต.ค. เรื่อง องค์บาก (2546)

ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น (ดินแดง) 20 ต.ค. เรื่อง “GOAL CLUB เกมล้มโต๊ะ” (2544) 21 ต.ค. เรื่อง “นักเตะเสี้ยวลิ้มยี่” (2544) (พิเศษพากย์สดโดยนักพากย์ต้นตำรับ)!

วันที่ 22 ต.ค. ฉายเรื่อง “KUNG FU PANDA” (2558) (พิเศษในระบบสามมิติ (3D)

สวนลุมพินี 27 ต.ค. เรื่อง “รัก 7 ปี ดี 7 หน” (2555) 28 ต.ค. ร่างทรง (2564) 29 ต.ค. หอแต๋วแตก แหกกระเจิง ภาค 2 (2558)

ประปาแม้นศรี 3 พ.ย. PHOTOGRAPH (2562) 4 พ.ย. เทพธิดาบาร์ 21 (2521) 5 พ.ย. เรื่องตลก 69 (2542)

ดาดฟ้า ลาซาล 10 พ.ย. LOST IN BLUE (2559) 11 พ.ย. CONCRETE CLOUD (2557) 12 พ.ย. CLOSE (2565)

นอกจากนี้ยังมีการฉายหนังสั้นนักศึกษา และหนังสั้นจากโครงการ Today at Apple ที่ทางกทม.จัดอบรมร่วมกับสมาคมผู้กำกับฯ เปิดหัวในทุกครั้ง

ครับ..ก็บอกกล่าวให้รู้ไว้ เผื่อว่างไปรู้จะไปไหน ก็ไปนั่งดูหนังกลางแปลงอย่างน้อยๆ ก็พอจะได้กลิ่นอายอดีตอยู่บ้าง ซึ่งนี่ถือเป็นผลงานที่ผู้ว่าชัชชาติแสนจะเป็นปลื้ม!

แต่..ก็น่าจะปลื้มน้อยกว่านายกรัฐมนตรี-คุณเศรษฐา ทวีสิน ที่แม้จะมีนักวิชาการและคณาจารย์เศรษฐศาสตร์ได้เห็นพ้องต้องการเป็นร้อย ลงชื่อเรียกร้อง..

ให้รัฐบาลถอยนโยบาย “แจกเงินดิจิทัล 10,000” บาท เพราะหวั่นประเทศจะฉิบหาย!

กระนั้น คุณเศรษฐาก็ยังยืนยันหนักแน่น.. “มีประชาชนหลายพื้นที่แสดงเจตจำนงว่าอยากได้มาก ตนก็ดีใจ

เพราะตลอด 48 ชั่วโมงที่ผ่านมามีนักวิชาการหลายท่านไม่เห็นด้วย เรียกร้องให้ยกเลิกโครงการ

ตนยืนยันตั้งแต่เข้ามาเป็นนายกฯ รัฐบาลและคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้รับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะ ข้อแนะนำทั้งหลายจากทุกหน่วยงาน รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทยด้วย

เราน้อมรับไปพิจารณาเพื่อปรับปรุงแต่งเติมให้ทุกอย่างดูดีขึ้น แต่ไม่มีการยกเลิก

ยืนยันว่าโครงการเงินดิจิทัลไม่ใช่โครงการหาเสียง ไม่ใช่โครงการที่มาโปรยเงินให้ประชาชนเลือกตั้งให้เรากลับมาใหม่

แต่เป็นโครงการที่เราตระหนักดีถึงความจำเป็นและความต้องการของประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม”

เมื่อยันยันเสียงแข็ง “ไม่มีการยกเลิก” อย่างนี้แล้ว ก็คงยากที่จะใครจะขวางได้ แต่ถึงอย่างไรก็อยากเตือนคุณเศรษฐา อย่ามั่นใจหรือมุทะลุเกินไปนัก

จิ้งจกทักยังต้องฟัง แล้วนี่เหล่ากูรู-คณาจารย์เศรษฐศาสตร์ทักจะไม่คิดหาทางออก-ทางลงให้ตัวเองเชียวรึ จะเอาชนะคะคานด้วยเดิมพันของประเทศไปทำไม..หือ?

เอาล่ะ..ไม่ฟังเสียงนักวิชาการ ก็ควรที่จะย้อนฟังคำพูดของคนคนนี้.. “กู้เงินเอาไปแจก ผมว่าปัญญาอ่อน ถ้ามีปัญญาเขาไม่แจก เขาใช้เงินไปสร้างเศรษฐกิจ ให้เศรษฐกิจแข็งแรง”

จำได้ไหม..นายทักษิณ ชินวัตร คนที่คุณเศรษฐาเพิ่งจะยกปอปั้นว่า เป็นผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล วางโครงสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ นั่นไงล่ะ!

ผมน่ะ ไม่ดูถูก-ดูแคลนหรอกนะ ว่าการกู้มาแจกปัญญาอ่อน เพราะบางครั้งด้วยวิกฤติ-ปัญหาเศรษฐกิจ จำเป็นที่รัฐบาลต้องทำอย่างนั้น

แต่กับสภาพที่เป็นอยู่ในขณะนี้ อยากให้คุณเศรษฐาได้ฉุกคิดหรือเชื่อคนมีวิสัยทัศน์กว้างไกลไว้หน่อยก็ดี..

เพื่อที่จะได้ไม่..“ปัญญาอ่อน”!

Written By
More from pp
ทำผิด ต้องถูกลงโทษ กฎหมาย ต้องเป็นกฎหมาย ! “อนุทิน” วางหลักคุมกลุ่มอิทธิพลท้องถิ่น
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 ที่อาคารรัฐสภา กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ถึงมาตรการจัดการกลุ่มอิทธิพล...
Read More
0 replies on “อย่าได้ชื่อ “ปัญญาอ่อน”?- สันต์ สะตอแมน”