๔+๔ ปี “รัฐบาลเศรษฐา” – เปลว สีเงิน

คลิกฟังบทความ…⬇️

เปลว สีเงิน

ได้ยินนักข่าวถามอุ๊งอิ๊งเมื่อวาน (๒๘ สค.๖๖) หลังเข้าเยี่ยมนักโทษเปราะบางที่โรงพยาบาลตำรวจ
“อาการคุณพ่อเป็นอย่างไรบ้างครับ?”
อุ๊งอิ๊งไม่ตอบ ขึ้นรถกลับบ้าน

อาการป่วยเป็นสิทธิส่วนบุคคล ราชทัณฑ์บอก ขนาดหมอเองก็ยังบอกไม่ได้ ขืนบอก ผิดจรรยาบรรณแพทย์!

ฉะนั้น ถูกต้องแล้ว ที่อุ๊งอิ๊ง ในฐานะลูกเทพ จะไม่ตอบ

อีกเหตุผลหนึ่งที่ไม่ตอบ
เพราะจะให้ตอบ ก็ไม่รู้จะตอบยังไง ในเมื่อนักข่าวถามไม่ตรงประเด็น

ถ้าถาม “คุณพ่อนอนอยู่ที่โรงพยาบาลแน่นะครับ คุณอุ๊งอิ๊ง?”
เออ…แบบนี้ เธออาจตอบ

เพราะมี ๒ ช้อยส์เท่านั้นให้เลือก สั้นและง่าย
คือ แน่ค่ะ กับ ไม่แน่ค่ะ!

เอาละ เรื่องนักโทษทักษิณ เป็นเรื่องของเทวดา มนุษย์ขี้เหม็นอย่างเราๆ ท่านๆ อย่าสะเออะไปอยากรู้ให้มากนัก

เอาเป็นว่า รายชื่อ “ครม.เศรษฐา” ประกาศเป็นทางการออกมาวันไหน
ก็วันนั้นแหละ อย่างช้าก็รุ่งขึ้นอีกวัน

ทักษิณน่าจะหายป่วย-หายไข้ สบายดี-มีแฮง!

จากชั้น ๑๔ โรงพยาบาล มีความเป็นไปได้ ที่ราชทัณฑ์จะเชิญท่านนักโทษกลับไปพำนัก ณ เรือนจำ “ลาดยาวส่องหล้า”

เป็นเทวดาคอยให้คำปรึกษารัฐบาลมนุษย์ ผ่านทางช่องตาข่ายห้องเยี่ยม

ถึงตอนนั้น ก็น่าอีกร่วมครึ่งเดือน

ถ้าอีกครึ่งเดือน เทวดาทักษิณยังเร้นกายอยู่ในก้อนเมฆ ราชทัณฑ์และโรงพยาบาล ไม่ทำให้ประจักษ์ต่อสังคมว่านักโทษทักษิณ มีตัวเป็นๆ อยู่จริง และป่วยหนักจริงละก็

ผมว่า ไม่เพียงโรงพยาบาลตำรวจและราชทัณฑ์เท่านั้นเป็นจำเลยสังคม
“รัฐบาลเศรษฐา-นายกฯเศรษฐา” ด้วย งานเข้าแน่!

ทั้งหมดนี้ สรุปอยู่ที่คำเดียว คือ “ความเชื่อ”

ทักษิณอาจป่วยจริงอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจก็ได้ แต่ด้วยพฤติกรรมราชทัณฑ์แต่วันแรกจนถึงวันนี้

ทำให้จากที่เชื่อครึ่ง-ไม่เชื่อครึ่งในคำว่า “คุกมีไว้ขังหมากับคนจน” ให้เป็นความจริงที่เชื่่อได้ ๑๐๐%

แล้วทุกวันนี้ ยังเหลือระบบไหนในสังคมชาติให้ประชาชนเชื่อถือในมาตรฐาน “สุจริต-เที่ยงธรรม-เสมอหน้า” ด้านกฎกติกาและด้านกฎหมายบ้าง?

นักการเมืองเขาบอกว่า “ประชาธิปไตยกินได้”

เพราะอย่างนี้กระมัง ประเทศไทยน่าจะเป็นประเทศเดียวในโลก ที่นักการเมืองปั๊มสารพัดกฎหมายออกมาจนท่วมบ้าน-ท่วมเมือง

ก็เพราะมันกินได้ไง
ชาวบ้านไม่ได้กินหรอก ผู้มีอำนาจใช้กฎหมายและผู้บังคับใช้กฎหมายตะหาก เขาได้กินกันจากกฎหมายนั้นๆ
ด้วย “เลือกปฎิบัติ” และ “เลือกที่จะไม่ปฎิบัติ”

อย่างกรณีทักษิณ ใช่ว่าโทษคุก ๘ ปี แล้วคดีหมดแค่นั้น

มีค้างที่อัยการ ยังไม่ได้ส่งฟ้องเพราะจำเลยหลบหนีอีกหลายคดี เช่นคดีในความผิดเกี่ยวกับมาตรา ๑๑๒

เห็นหมอวรงค์ “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” หัวหน้าพรรคไทยภักดี ไปทวงถามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเมื่อวาน
ว่าตัวจำเลยมาแล้ว จะส่งฟ้องได้เมื่อไหร่ เป็นต้น

หรืออย่างเรื่องบุกรุกป่าสงวนที่ราชบุรี กับคุณปารีณา ไกรคุปต์ แจ้งปุ๊บ ถูกดำเนินคดีปั๊บ

แต่กับคดีนางสมพร-ธนาธรและพี่สาว ซึ่งเป็นเรื่องฉาวพร้อมๆกัน จนถึงวันนี้ …….

คำว่า “คนทุกคนเท่าเทียมกันทางกฎหมาย” มันมีอยู่จริงในสารบบกระบวนการยุติธรรมไทยมั้ย”?

นี่เห็น “ปฐมบท” ของคำว่า “ประชาธิปไตยกินได้” กำลังจะมีให้กินกันอีกแล้ว

และนี่แหละจะเป็น “หอกย้อนหอก” ไปสวนทวารรัฐบาลเพื่อไทย ว่าด้วยเรื่องพรรคที่ปูรากฐานเป็นสัญญาไว้แต่แรก

ที่ว่า เป็นรัฐบาลปุ๊บ….
ประชุมครม.นัดแรก มติที่จะออกมา

“ตั้งสสร.เขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” ปั๊บ นั่นแหละ!

เมื่อวาน “แก๊งไอลอว์-ด้อมส้ม” ขบวนการสามนิ้วล่มชาติ-ล้มสถาบัน ยกขบวนไป “ทบทวนความจำ” ที่พรรคเพื่อไทยแล้ว

ให้ “พรรคเพื่อไทย-นายกฯ เศรษฐา” เร่งทำประชามติ เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน
และหัวข้อที่จะถามให้ประชาชนตอบนั้น ต้องครอบคลุมในประเด็นว่า

-ต้องเขียนใหม่ทั้งฉบับ
-สสร.(สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ)ต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด

“ชลน่าน” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยบอกว่า

“คำถามที่เสนอเป็นประโยชน์ต่อครม.มาก และครม.จะนำไปกำหนดเป็นนโยบายร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลที่เสนอต่อรัฐสภา

ในฐานะพรรคแกนนำเราได้บอกกับพรรคร่วมรัฐบาลแล้วว่าขอใช้นโยบายของเราเป็นหลัก การประชุมครม.นัดแรก หากทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เราจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาและมีมติออกมา

ในส่วนคำถามที่กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญได้เขียนมา ถือว่าใกล้เคียงกับของเราที่ได้คิดไว้”

นี่แหละ “ปฐมบท” แห่งมหาวิบากของรัฐบาล ๑๑ พรรค ที่เพื่อไทย โดยนายเศรษฐาเป็นนายกฯ ละ!

ก้าวไกล โดยไอลอว์ ส้มสามนิ้ว นำแถลงของเศรษฐามาค้ำคอ ท่านหัวหน้าชลน่านก็จำต้องไปตามน้ำ

ในขณะที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล ที่จะเป็นเนติบริกรรัฐบาลใหม่ ใช้ลีลานักกฎหมายตอบแบบผีเสื้อโบยบินไปได้

ตอนแรกน่ะใช่ ที่แถลง วาระเร่งด่วนของรัฐบาลเพื่อไทยคือ “ตั้งสสร.เขียนใหม่ทั้งฉบับ”

แต่ตอนเชิญพรรคอื่นๆ มาร่วม ประกอบกับเสียงค้านชาวบ้านส่วนใหญ่ วาระเร่งด่วนควรเป็นเรื่องแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง

ไม่ใช่ตั้งสสร.เขียนรัฐธรรมนูญใหม่!
และเสียงส่วนใหญ่ ทั้งพรรคร่วมและประชาชน บอกว่า ถ้าจะแก้ ให้แก้ในรัฐสภาและต้องไม่แตะหมวด ๑ หมวด ๒ และมาตราที่เกี่ยวข้องสถาบัน

ไม่เอาแบบตั้งสสร.เขียนใหม่ทั้งฉบับ เพราะทั้งเปลืองงบประมาณร่วม ๒ หมื่นล้าน ทั้งไม่จำเป็น
และทั้งไว้ใจไม่ได้ ว่าที่ยกโขยงกันมาเป็นสรร.จะไม่ใช่คนในขบวนการสามนิ้วเป็นส่วนใหญ่

ถึงตอนนั้น ยากที่จะมั่นใจว่าไม่เขียนเปิดช่องให้ประเทศจากราชอาณาจักรไทยไปเป็นสาธารณรัฐ!

ดูเหมือนเพื่อไทยเอนอ่อน-ผ่อนตามไปทางนี้ กระทั่งสว.เองก็สนับสนุนแนวทาง

ถ้าจะแก้ ให้แก้ในรัฐสภา โดยสส.-สว.กันเอง ไม่ต้องตั้งสสร. ให้มากเรื่องแถมเปลืองเงิน

เศรษฐาก็เปลี่ยนทิศเป็นเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
เดินสายไปดูท่องเที่ยวทางใต้ พูดคุยนักธุรกิจ เลิกพูดเรื่องตั้งสสร.เขียนรัฐธรรมนูญ!

แล้ว “กรรมวิบาก” ก็ตั้งเค้า ก็ทั้งเห็นใจและเข้าใจเพื่อไทย จะปฎิเสธเงื่อนไขจากแก๊งส้ม ก็ยากปฎิเสธ

ครั้นจะรับ..ครับ ปฎิบัติเต็มสูบ ก็ทำไม่ได้และมันไม่ใช่ในทิศทางที่จะเดินไปของรัฐบาลพรรคร่วม ๑๑ พรรค

ในความเห็นผม
ถ้าทำอย่างที่ชลน่านเออออแก๊งส้มสามนิ้ว “ที่เสนอมาใกล้เคียงกับที่เพื่อไทยคิดไว้” ละก็

“ตั้งสสร.เขียนใหม่ทั้งฉบับ” ออกมาวันไหน
รัฐบาลเพื่อไทย ๑๑ พรรค พังวันนั้น!

ซ้ำประชาชนจะบอกว่า ถ้าจะเขียนใหม่ งบที่ใช้ร่วม ๒ หมื่นล้าน ซึ่งยังไม่นับงบที่ต้องทำประชามติด้วย รวมแล้วจะเกิน ๒ หมื่นล้านด้วยซ้ำ

ทั้งหมดนี้ เพื่อไทยจ่ายเองนะ จะเอามั้ย?

ผมจะบอกให้ ที่สว.เทให้ ๑๕๒ เสียง ทำให้เศรษฐาเป็นนายกฯนั้น
เจตนารมณ์สำคัญที่ว่า “เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้” นั้น

เขาให้เดินหน้าทางพัฒนาและขับเคลื่อนปัญหาเศรษฐกิจ
ไม่ได้ให้ไป “ตั้งสสร.เขียนรัฐธรรมนูญใหม่” ตามที่พวกจัญไรวางแผน-วางเกมล่มเมือง!

ทั่วๆ ไป ตั้งรัฐบาลใหม่ปุ๊บ พวกกูรูจะว่าไม่ครบเทอมบ้าง อย่างเก่งก็ไม่เกิน ๒ ปีบ้าง

แต่ผมว่า รัฐบาล ๑๑ พรรคเพื่อไทย ปรับครม.กี่ครั้งไม่รู้ รู้แต่ว่า อยู่ครบ ๔ ปี
อาจต่ออีก ๔ ปี ด้วยสามัคคี-ปรองดองด้วยซ้ำ

ถ้า…..
ไม่ตั้งสสร.ให้ตะกวดลากหางเข้าไปวางไข่ซ่อนในบรรทัดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เขียนกัน

ชัดนะ!

ปลว สีเงิน

๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๖

 

Written By
More from plew
่อ่าน “จะได้เป็นรัฐบาล” #เปลวสีเงิน
เปลว สีเงิน ดีใจสุดๆ…. เมื่อทราบว่า “เข็มทิศ” ชี้บอกอนาคตประเทศ “พุ่งพรวด”! จากสถิติงาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติ” ครั้งที่ ๒๙ ที่...
Read More
0 replies on “๔+๔ ปี “รัฐบาลเศรษฐา” – เปลว สีเงิน”