สันต์ สะตอแมน
“ประกาศ “วางมือ” แล้ว ยังไม่พอนะ!
แต่.ต้อง “สำนึกผิด” และ “ขอรับโทษ” กับการก่อกรรมที่ไว้ด้วย และย้ายบ้านซะ! เปลืองงบว่ะ…จะดีกว่าแค่ “วางมือ”
นี่..คุณอ๋อม-สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ดาราสาว-ส.ส.สอบตกพรรคเพื่อไทย ได้คิด-ประดิดประดอยคำนำมาโพสต์ ซึ่งคำว่า ““สำนึกผิด” และ “ขอรับโทษ” กับการก่อกรรม” นั้น..
ไม่รู้คุณอ๋อมเจตนาจะตีวัวกระทบคราดไปถึงบุคคล 2 คนที่พเนจรร่อนเร่อยู่แดนไกลด้วยหรือไม่ เพราะนั่นแหละ “ตัวพ่อ-ตัวแม่” ที่ต้องสำนึกผิดและขอรับโทษเมื่อกลับเข้ามาประเทศไทย!
ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ประกาศ “วางมือทางการเมือง” จะมีเรื่องอะไรให้สำนึกผิดผมก็คิดไม่ออก..
นอกจาก “ผิด” ที่อยู่มา 9 ปี ยังไม่สามารถลากคนทำผิด-หนีคุก หนีคดี กลับมาเข้าคุกได้!
กับ “ผิด” อีกหนึ่ง ที่ปล่อยให้พวกอวิชาการ-ผู้เฒ่า 3 กีบล้างสมองเด็กให้เกลียดชังสถาบันไปทั่วราชอาณาจักร และอีกที่ผิด คือไม่ยอมปฏิรูปตำรวจจริงจัง-เด็ดขาดเท่านั้นเอง!
และสำหรับ “ขอรับโทษกับการก่อกรรม”..นี่ ก็ขึ้นอยู่กับคุณอ๋อมล่ะว่าได้รวบรวมการก่อกรรมหรือการกระทำความผิดของพล.อ.ประยุทธ์เอาไว้หรือยัง มีอะไรบ้าง?
ซึ่งในอนาคตอันใกล้ เมื่อพรรคเพื่อไทย คุณเศรษฐาหรือคุณอุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ ก็หวังว่าคุณอ๋อมจะได้ชำระแค้นให้สาสมแก่ใจ โดยเฉพาะแค้นที่ “กองสลากพลัส” ถูกทำลายรัง..
ทำให้คุณอ๋อมไม่มีโอกาสได้โชว์ถูกล็อตเตอรี่อีกเลย!
อ้อ..แล้วเรื่อง “ย้ายบ้านซะ..เปลืองงบว่ะ” ผมอ่านกฎหมายไม่รู้ ดูกฎหมายไม่เป็น ฉะนั้นขออนุญาตลอกเอาจากข่าว..
“ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไม่ขาดคุณสมบัติความเป็นนายกฯ
จากกรณีพักอาศัยในบ้านพักข้าราชการทหารแม้เกษียณอายุไป 6 ปีแล้ว หรือที่รู้จักในชื่อ “คดีพักบ้านหลวง” เนื่องจากเป็นไปตามระเบียบภายในของกองทัพบก (ทบ.) ปี 2548
และยังชี้ว่ารัฐพึงจัดสรรที่พำนักให้ผู้นำประเทศ เพื่อ “สร้างความพร้อมทั้งสุขภาพกายและจิตใจในการปฏิบัติภารกิจในการบริหารประเทศล้วนเป็นประโยชน์ส่วนรวม”
คุณอ๋อมคงมัวแต่ตามหาเลขเด็ด ไม่ได้ตามข่าวใช่ไหม? และเมื่อรู้อย่างงี้แล้ว ก็อย่าเสร่ออีกล่ะ!
เอ้า..แต่นั่นจะว่า “เสร่อ” ก็ไม่เชิง แต่ที่คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกฯคนที่ 30 ออดอ้อน-วิงวอน ขอร้องส.ว.อย่าดึงสถาบันเป็นข้ออ้างไม่โหวตนายกฯ นั้น
อยากจะพูดว่า “แล้วกัน”.. ทีประชาชน ส.ส. ส.ว.ขอร้อง-วิงวอนอย่าแตะม.112 คุณพิธากับชาวคณะไม่เห็นจะฟัง หรือยอมทำตาม กลับกันยังแข็งขัน ดื้อดึง กร้าว ท้าทายอย่างที่เห็น
กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนาน่ะ เมื่อคุณพิธาแสดงให้เห็นเป็นประจักษ์ด้วยการติดสติกเกอร์ในช่อง “ยกเลิกม.112” เช่นนั้น ส.ส.-ส.ว.ก็ย่อมจะคิดเอาได้ว่า..
สิ่งที่คุณพิธากระทำ มันคือเจตนาที่แท้จริงภายในจิตใจ!
ฉะนั้น..ที่มาพูดเอาตอนนี้.. “ยืนยันจงรักภักดี อยากเห็นสถาบันอยู่คู่สังคมไทยต่อไป” จึงไม่รู้ว่าจะ “ช้าไปแล้วต๋อย” หรือไม่อย่างไร ซึ่งในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ก็จะมีคำตอบแล้ว!
เออ..พูดเรื่อง “จงรักภักดี” เห็นกูรู-กูรั่ว บอกทำนอง ถึงเวลาที่ต้องหยุดสร้างความขัดแย้งเรื่องชังชาติ ชังเจ้า ได้แล้ว เพราะไม่ตั้งอยู่บนความเป็นจริง
ก็ทำให้นึกอยากถาม ว่าปรากฏการณ์ที่เห็นกันเรื่อยมาจนถึงขณะนี้ ไม่มีขบวนการคบคิดชังชาติ-ชังเจ้าเลยใช่ไหม?
แล้วไอ้พวกอัปปรีย์-จัญไรที่มันด่าเจ้า-ด่าสถาบันอยู่โครมๆ นั้น..
ตาบอด-หูหนวกรึไงถึงไม่เห็น-ไม่ได้ยิน..หือ?