สันต์ สะตอแมน
เงียบ..นึกว่ายุติปัญหากันไปแล้ว!
ที่ไหนได้..วันสองวันที่ผ่านมาบังเอิญได้พบปะหน้าพรรคพวกในวงการเพลงท่านหนึ่ง และหลังจากที่คุยโน่นนี่นั่น
เพื่อนก็ได้พูดถึงคดีความที่บริษัทโคลีเซี่ยม พร-คมน์ เอ็นเตอร์ไพร์ส เป็นโจทก์ กับคุณจักรวาร เสาธงยุติธรรม หรือ “หนึ่ง จักรวาล” นักเรียบเรียงดนตรีคนดัง เป็นจำเลย
กรณีฟ้องร้องต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าระหว่างประเทศกลาง ว่ายังคงดำเนินการไปตามขั้นตอนกฏหมายอยู่
และกลางเดือนตุลาที่ผ่านมา ก็ได้มีการนัดไกล่เกลี่ยต่อหน้าคณะผู้เข้าร่วมประชุมไกลเกลี่ย ฝ่ายโจทก์ และ จำเลย พร้อมทนายความทั้งสองฝ่าย
โดยคุณหนึ่งได้กราบขอโทษ-ขอโพยต่อคุณพรพิมล มั่นฤทัย ประธานบริษัทโคลีเซี่ยมฯ พร้อมยอมรับผิดทุกเรื่องทุกประเด็นทุกกรณี ว่าตัวเองเป็นผู้ทำให้เกิดความผิดพลาดเสียหายทั้งสิ้น!
นี่..ก็สืบเนื่องจากการจัดคอนเสิร์ต “99 ปี ชาลี อินทรวิจิตร เพลงคู่แผ่นดิน หนึ่งในจักรวาล” เมื่อเดือนมีนา ปี 64 และเกิดความขัดแย้งในข้อตกลง รวมถึงปมเรื่องเงินๆ ทองๆ ดังที่เคยเป็นข่าว
ซึ่งผลของการไกล่เกลี่ย แม้คุณหนึ่งตกลงที่จะยอมจ่ายเงินชดใช้ค่าละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ด้วยมีปัญหาในเรื่องเงินค่าจ้าง ที่ตัวคุณหนึ่งได้เคยประกาศผ่านสื่อทำนอง..
“การทำคอนเสิร์ตครั้งนี้ เป็นการทำด้วยใจ เพื่อเชิดชูบูชาครูไม่คิดใช้จ่ายทุกบาททุกสตางค์”!
แต่หลังจบงาน คุณหนึ่งได้ยื่นบิลค่าใช้จ่าย เรียกเก็บเงินกับคุณพรพิมล ซึ่งประเด็นนี้ในที่ประชุมไกล่เกลี่ยยังหาข้อสรุปกันไม่ได้
ทางคุณพรพิมลจึงเตรียมที่จะนัดหมายคุณหนึ่งเพื่อร่วมแถลงข่าวเพื่อบอกเล่าข้อเท็จจริงและตกลงกันต่อหน้าสื่อมวลชน เพื่อให้สังคมได้รับทราบด้วยกัน
ครับ..ก็นำมาบอกเล่าให้รู้ว่าปัญหาระหว่างคุณพรพิมลกับคุณหนึ่งจักรวาลข้ามปีมา ยังไม่สะเด็ดน้ำ และตอนนี้ก็อยู่ระหว่างประสานงาน กำหนดวันเวลาสถานที่..
คาดอีกไม่กี่วัน น่าจะได้มีการแถลงข่าวร่วมกัน และจะได้รู้ฝ่ายไหนที่จะเป็นผู้ชดใช้ค่าเสียหายกันแน่!
พูดถึงคดีความ..ก็พอดีมีคนสงสัยถาม ตกลงคดีคุณแอ๊ด คาราบาว ที่ถูกคุณวีระ สมความคิดร้องเรียนว่าบุกรุกที่ป่าสงวนและป่าถาวรในจังหวัดสระบุรี เวลานี้ไปถึงไหน หรือว่าจบแค่นั้น
เพราะหลังจากกรมป่าไม้ ออกมาให้ข้อมูลว่าที่ดินของคุณแอ๊ดไม่ได้อยู่ในเขตป่าสงวนและป่าถาวรแต่อย่างใด ก็ไม่เห็นข่าวคราวความเคลื่อนไหวจากคุณวีระอีกเลย
เรียกว่า..เงียบกริบ และไม่เฉพาะแต่คุณวีระ กระทั่งคุณแอ๊ดก็เงียบปาก-เงียบคำจนเห็นผิดปกติ ซึ่งในฐานะที่ตัวเองเสียหาย-เสียชื่อเสียง..
เมื่อข้อร้องเรียนไม่ถูกต้อง-ไม่เป็นความจริง คุณแอ๊ดก็น่าจะฟ้องหมิ่นประมาท หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงตัวเอง
ผมนั้นไม่ได้หมายจะยุ แต่เรื่องพรรค์อย่างนี้จะปล่อยเลยตามเลย หรือจะอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรม-นายเวร ไม่เอาเรื่อง-เอาความ ก็ดูจะใจบุญ-ใจงามเกินไป
อย่างน้อยก็ต้องทำให้เห็นว่า การจะร้องเรียนหรือกล่าวหาอะไรใครก็ตาม จะต้องยืนอยู่บนฐานข้อเท็จจริง..
ไม่ใช่การใส่ร้าย ปรักปรำ หรือทำไปโดยอคติ ถ้าไม่ได้บุกรุกป่าจริง คุณแอ๊ดก็..
ฟ้องหมิ่นฯ สิครับ..รอไร?