“ช้อปพร้อมชาร์จ” ในตลาดแบบเพลิน ๆ

คำถามของคนใช้รถยนต์ มันก็คงมีมากมายจนน่าปวดหัว !
และหากยิ่งเป็น “รถยนต์สมัยใหม่ที่ใช้ไฟฟ้า”
ก็จะยิ่งแล้วใหญ่
โดยเฉพาะคนไทยที่เคยคุ้นชินกับรถใช้น้ำมันมาหลายสิบปี
อยู่ดี ๆ จะให้มาเปลี่ยนเป็นรถพลังงานใหม่…
คนมันจะไปยอมรับกันได้ในทันที
เพราะไอ้ที่ใช้รถอยู่ทุกวันนี้ก็เจอปัญหากันนับไม่ถ้วน

นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องค่างวด ค่าดาวน์ ลามไปจนถึงค่าใช้ ไหนจะค่าที่จอดรถ
แถมรถยนต์ไฟฟ้าก็แพงหูฉี่
ถ้าไม่ใช่ระดับคนพอมีเงินและไม่ต้องมีภาระ
ใครมันจะเอาเงินก้อนไปทุ่มไหว ?

แล้วหากมันอยากรู้อยากลองขึ้นมาจริง ๆ เอาเงินไปใส่ไว้กับรถยนต์ไฟฟ้า
ปัญหาก็ตามมาอีกเพียบ !
เสียแล้วจะซ่อมที่ไหน ช่างร้านทั่วไปก็อาจจะไม่รู้จักระบบ
ศูนย์บริการเพียงพอหรือเปล่า อะไหล่รอนานไหม
และสิ่งที่น่ากังวลที่สุดก็คือ…ถ้าไฟหมดจะไปเติมยังไง

ราคาแพงไหม วิ่งได้เท่าไหร่ ?
คำถามยังมีอีกเพียบ !

แต่ในปี 2566 นี่ มันเปลี่ยนไป เดี๋ยวนี้มองไปทางไหนก็เริ่มเห็นคนขับยานยนต์ไฟฟ้ากันแล้ว

มีรถรุ่นใหม่ ๆ หน้าตาแปลก ๆ ให้เห็นได้บ่อยขึ้น แถมยังเห็นโฆษณา รีวิว และบริการพ่วงที่พูดถึงการใช้รถไฟฟ้าอีกมากมาย
มิหนำซ้ำ คำถามที่เคยสงสัย ที่เคยถูกตั้งไว้ก็มีการสร้างความเข้าใจมากขึ้น

จากความกังวลเปลี่ยนมาเป็นความสนใจได้ในช่วงไม่กี่ปี…
ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ในไทยเรานั้นกำลังถูกผลักดันให้ไปสู่อนาคตได้รวดเร็วมากขึ้น

“รถไฟฟ้า” หรือที่เรียกกันว่า “อีวี” เป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ
ภาครัฐเองก็เต็มที่กับการสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม หรือบริการก็มีนโยบายให้เพียบพร้อม

เอกชนก็เร่งเครื่องเต็มสูบที่จะทำให้รถอีวีมัน “ขายได้ในประเทศ”
ไม่ใช่แค่เอกชนที่ผลิตหรือนำเข้าตัวรถเท่านั้น

ภาคบริการสำหรับรถอีวีก็สำคัญ !
ไม่ว่าจะเป็นการบริการหลังการขายของค่ายรถ
การประกันภัยของบริษัทขายประกันก็ต้องทำให้ครอบคลุม

รวมไปถึงสิ่งที่เคยเป็นคำถามสำคัญอย่างเรื่อง “การเติมไฟ” หรือที่เรียกกันว่า “ชาร์จไฟ”
ก็มีหลายหน่วยงานเข้ามาบริหารดูแลเรื่องนี้

จึงสามารถขจัดความกังวลของคนใช้รถอีวีได้ว่า ไฟหมดจะไปเติมที่ไหน ?
เพราะเดี๋ยวนี้ “สถานีชาร์จไฟฟ้า” หรือ “ปั๊มชาร์จไฟ” ของรถอีวี เริ่มผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด !

สถานที่สำคัญ ๆ หรือจุดรวมตัวของคนในสังคมก็ต้องมีหัวชาร์จไฟติดตั้งไว้
และมีอีกในเส้นทางสำคัญ ๆ ที่คนใช้สัญจรกันบ่อย ๆ ก็มีหัวชาร์จไฟตลอดสาย
ขนาดในตลาดยังมี !

เพราะล่าสุดนี่ ออน-ไอออน (on-ion) ผู้ให้บริการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจร
ภายใต้บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS)

พร้อมด้วย บริษัท รัจนาการ แมเนจเม้นท์ จำกัด ขยายเครือข่ายสถานีอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า (on-ion EV Charging Station)
เอาใจ “สายชาร์จพร้อมช้อป” จบครบในที่เดียวย่านประชาชื่น
เปิดให้บริการหัวชาร์จรถอีวีในตลาดบองมาร์เช่ ตลอด 24 ชั่วโมง !

แถม นายโทรณ หงศ์ลดารมภ์ Head of EV Charger Business อรุณ พลัส ยังออกมากล่าวอีกว่า ผู้ใช้บริการสถานีชาร์จจะได้รับ“พลังงานสะอาด”ที่มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่ผลิตในประเทศไทยทั้งหมด
ในรูปแบบ Green Charging Network

และได้รับ“สิทธิพิเศษ” จาก ออน-ไอออน
ด้วยการมอบคะแนนสะสม Greenpoint สามารถนำมาแลกเป็นค่าชาร์จไฟในครั้งต่อไปได้ !

ซึ่งหัวชาร์จนี้ตั้งอยู่ในตลาดบริเวณลานจอดรถหน้าจุดทางเข้าที่ 2 ของโครงการ
มีการกำหนดอัตราค่าบริการ Normal Charge 8.5 บาทต่อหน่วย และค่าบริการ 10 บาท/ชั่วโมง จำนวน 1 ช่องจอด
และ Fast Charge ขนาดกำลังไฟ DC 100 กิโลวัตต์ จำนวน 2 ช่องจอด
ซึ่งสามารถชาร์จไฟได้ในเวลาเพียง 30 นาที ค่าบริการ 9.5บาทต่อหน่วย

แถมยังควบคุมการใช้งานผ่าน “on-ion Mobile Application”

บอกแล้วว่าเดี๋ยวนี้มันสะดวก ใครที่กำลังตัดสินใจเรื่องการออกรถใหม่อยู่
การมองรถอีวีเป็นหนึ่งตัวเลือก ก็เป็นข้อพิจารณาที่น่าสนใจ…

เพราะปัจจุบันนี้ การใช้งานแทบจะเทียบเท่ารถใช้น้ำมันได้ 100% ในทุกด้านแล้ว
แถมยังเหนือกว่าในเรื่องของรักษาสิ่งแวดล้อมและไม่สร้างมลภาวะอีกด้วย !

Written By
More from pp
ราเมศ เผย เฉลิมชัย ตั้ง ส.ส. ชัยชนะ ผอ. เลือกตั้ง เขต 3 นครศรี
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดนครศรีธรรมราชว่า
Read More
0 replies on ““ช้อปพร้อมชาร์จ” ในตลาดแบบเพลิน ๆ”