สันต์ สะตอแมน
ตั้งใจมาตลอด..
มีโอกาสเหมาะๆเมื่อไหร่ จะต้องไปเยือน-ไปชม “พิพิธภัณฑ์มิตร ชัยบัญชา” ที่บ้านเลขที่ 37/4 ม.4 ซอยขุนทิพย์ ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก
และ.. จะขอจับไม้-จับมือแสดงความยินดี ชื่นชมคุณบัญชา วาจาสุวรรณ เจ้าของพิพิธภัณฑ์ ที่ได้มุ่งมั่นตั้งใจทำในสิ่งที่รัก-ที่ศรัทธา โดยไม่ได้มุ่งหวังเรื่องธุรกิจแต่อย่างใด ให้ได้!
ที่พูดนี้ไม่ได้จะยกยอ สอพลอ หากแต่เป็นความจริงที่ได้ประจักษ์ ว่าพิพิธภัณฑ์มิตรชัยบัญชา นั้น..
ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่รัก-แฟนคลับมิตรได้เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น!
อย่างห้วงนี้ระหว่างวันที่ 23-25 พ.ค. คุณบัญชาร่วมกับกลุ่มวัยหวานวันวานจากกรุงเทพฯ ได้จัดกิจกรรม “มีตติ้ง มิตร” (Meetting มิตร) ขึ้น
ซึ่งนอกจากจะฉายหนังกลางแปลง 16 มม.ที่มิตร ชัยบัญชาแสดงวันละ 3 เรื่องฟรีแล้ว ยังจะเปิดให้แฟนคลับ-นักเรียนได้เข้าชมของเก่า-ของโบราณที่หาชมไม่ได้แล้วในปัจจุบัน
ไม่ว่าจะเป็นโปสเตอร์หนังเก่า แผ่นฟิล์มสมัยก่อน หรือจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ที่เคยเห็นกันในตอนสมัยเด็กๆ แต่ได้หายจากวิถีชีวิตไปนานแล้วแบบไม่คิดเงิน!
โดยเฉพาะชั้นสองที่ถือเป็น “ไฮไลท์” ของบ้าน เป็นห้องที่เก็บรวมรวบเอาพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เอาไว้อย่างสวยงาม
ด้านนอกห้องก็มีของสะสมทางประวัติศาสตร์ที่คุณบัญชาเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง คือภาพถ่ายเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ของเมืองพิษณุโลก
เป็นการเก็บรวมรวมความทรงจำของคุณบัญชาทั้งหมดไว้ที่นี่ ซึ่งจะเป็นแฟนคลับมิตรหรือไม่ก็ตาม ก็อยากให้ได้ไปดู-ไปชมกัน
ผมน่ะ ได้แต่ตั้งท่าๆ แต่ยังหาโอกาสไม่ได้สักที ทั้งๆ ที่พิษณุโลกก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล และนี่ก็รอว่าหลังคุณพิธาฟอร์มรัฐบาลเสร็จ ได้เป็นนายกฯแล้ว..
จะแวะไปสัมผัสความประทับใจในฐานะแฟนคลับมิตร ชัยบัญชา สมใจเสียที!
เออนี่..พูดถึงฟอร์มรัฐบาลที่ใจจด-ใจจ่อกันอยู่ ก็อยากให้อ่านข้อความที่รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ดูนิด..
“ขอเตือนกันดังๆ อีกครั้งว่า อย่ามัวสนใจกันแต่เรื่องจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว โควิดที่ทำท่าจะซบเซาไปแล้ว กำลังกลับมาโงหัวฟาดหางประเทศเราเป็นการใหญ่
ณ บ้านริมน้ำ ตัวเลขผู้ป่วยโควิดรอรับเข้าโรงพยาบาลกลับเพิ่มมากขึ้นใหม่ นอกจากจะเป็นผู้ใหญ่กลุ่มเปราะบางแล้ว เริ่มมีผู้ป่วยเด็กให้เห็นประปรายด้วย
ในภาพรวมประเทศสัปดาห์ล่าสุดที่ 20 ของปี ยังมีการเพิ่มขึ้นไปต่อของยอดผู้ป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล ผู้ป่วยอาการหนัก และผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจ
โดยเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ 19 ก่อนหน้าราว 12%, 26%, และ 39% ตามลำดับ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตซึ่งพุ่งตามหลังมาเพิ่มขึ้นไปถึง 200%
ที่ต้องระวังคือ ยอดผู้ป่วยอาการหนักสะสมรวมเข้าใกล้แนวรับศักยภาพตึงมือภาคการแพทย์ที่ 500 คนแล้ว และผู้เสียชีวิตก็ใกล้จะถึงแนวรับที่ 10 คนต่อวันแล้วเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้องปัจจัยหลักน่าจะมาจากผู้คนมีกิจกรรมนอกบ้านแบบไม่ระมัดระวังกันมากขึ้น ส่วนปัจจัยรองอาจมาจากสายพันธุ์ย่อยทั้งหลายที่สืบตระกูลของโอไมครอน XBB
ซึ่งถือโอกาสรุกคืบเข้ายึดครองตลาดในช่วงที่ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติและจากวัคซีนของคนไทยเราเริ่มตกลง
แถมยังเป็นช่วงที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองกันอย่างหนักทั้งในที่ลับและในที่แจ้ง
ดังนั้นการรวมตัวของกลุ่มคนจำนวนมากในที่สาธารณะช่วงนี้จึงควรหลีกเลี่ยง และขอให้เคร่งครัดการใส่หน้ากากในพื้นที่ที่การระบายอากาศไม่ดี”
ครับ..ก็เป็นความห่วงใย ความปรารถนาดีของแพทย์-ของหมอ จึงได้ออกมาโพสต์เตือน ส่วนจะเชื่อ-ไม่เชื่อนั้นก็สุดแท้ชะตาชีวิตของแต่ละคน
สำหรับผม หลังจากเผชิญกับมัน (โควิด) มาเมื่อ2-3สัปดาห์ก่อน ต้องบอกกับตัวเองเลยว่า อย่าประมาท และอย่าประเมินโคบ้าต่ำไปเชียว
คำพูด..ไม่รุนแรง-ไม่ตายนะ อาจใช่สำหรับบางคน แต่จงรู้ว่า แต่ละคนภูมิต้านทานต่อโรคไม่เหมือนกัน..
ไม่ติดดีที่สุด!