เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2566 พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงาน ผบ.ตร./ โฆษก ศูนย์รักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต.ตร.) เปิดเผยว่า ศลต.ตร.ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศลต.ตร. เตือนประชาชนห้ามขีดเขียน หรือทำลายป้ายหาเสียงของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และพรรคการเมือง รวมทั้งการปลดป้ายหาเสียงด้วยตนเอง เพราะอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 ฐานทำให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ล่าสุดได้รับรายงานจาก สน.ราษฎร์บูรณะ ว่า เมื่อวันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.15 น. พนักงานวิทยุ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งจากระบบแจ้งเหตุ 191 ว่ามีการทำลายป้ายหาเสียงบริเวณซอยราษฎร์บูรณะ 22-30 แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร จึงเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบนายมงคล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ยืนโวยวายอยู่บริเวณปากซอยราษฎร์บูรณะ 30 โดยมีชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงแจ้งตำรวจว่านายมงคลฯ ซึ่งน่าจะมีอาการทางจิต เป็นผู้ก่อเหตุ โดยปลดป้ายหาเสียงลงมา แต่ยังไม่ทันได้มีการกรีดทำลายหรือทำให้เสียหายด้วยวิธีอื่นใด จากการตรวจสอบป้ายที่ถูกปลดลงมามีจำนวน 17 ป้าย เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายมงคลฯ ไปที่ สน.ราษฎร์บูรณะ
จากการตรวจสอบชายดังกล่าวมีอาการไม่ปกติ ต่อมาสามารถติดต่อลูกชายทางโทรศัพท์ แจ้งว่าพ่อมีอาการทางประสาท ได้หายออกจากบ้านพักอาศัยในจังหวัดราชบุรีมาประมาณ 2 เดือนที่แล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ ได้ประสานตัวแทนพรรคเพื่อแจ้งเหตุ ในเบื้องต้นแต่ละพรรคไม่ติดใจเนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิต และได้รับป้ายหาเสียงกลับไปเพื่อติดตั้งใหม่ ส่วนผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำส่งพนักงานสอบสวน และส่งตัวไปโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา เพื่อดำเนินการในกระบวนการรักษาอาการป่วยต่อไป
โฆษก ศลต.ตร. กล่าวว่า ศูนย์รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต.ตร.) ได้จัดเตรียมกำลังพลเพื่อดูแลความปลอดภัยในภารกิจต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการเลือกตั้ง ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งร้องขอ
ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ พร้อมกำชับให้วางตัวเป็นกลางทางการเมือง หากพี่น้องประชาชนไม่ได้รับความสะดวก หรือพบเห็นการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือ1599 หรือสถานีตำรวจในพื้นที่ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมที่จะดูแล บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชนในทุกภารกิจ
