‘ทักษิณริ เพื่อไทยยำ’ – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

จับต้นชนปลายกันให้ดี

เรื่องแจกเงินดิจิทัลหัวละหมื่นบาท

อายุ ๑๖ ปีขึ้นไป

๕๐ ล้านคน

ใช้เงินกว่า ๕ แสนล้าน

คำถามตัวโตๆ ตอนนี้คือ เอาเงินมาจากไหน

ฟังพรรคเพื่อไทยให้เหตุผล ก็ยังวนในอ่าง

วันก่อน ทาง กกต.บอกว่า พรรคเพื่อไทย แจ้งนโยบายหาเสียงที่ว่านี้มายัง กกต.แล้ว ตามมาตรา ๕๗ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ๒๕๖๐

แต่แจ้งไม่ครบ ไม่มีการระบุวงเงินที่ต้องใช้ และที่มาของเงิน รวมทั้งยังมีอีกหลายนโยบายที่ไม่ได้ระบุวงเงินที่ต้องใช้ และที่มาของเงิน

กกต.จึงทวงไปแล้ว

ทีนี้มาดูว่ามาตรา ๕๗ กำหนดไว้อย่างไร

การกําหนดนโยบายของพรรคการเมืองที่ใช้ในการประกาศโฆษณาให้คํานึงถึงความเห็นของสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด นโยบายใดที่ต้องใช้จ่ายเงินการประกาศโฆษณานโยบายนั้น อย่างน้อยต้องมีรายการ ดังต่อไปนี้

(๑) วงเงินที่ต้องใช้ และที่มาของเงินที่จะใช้ในการดําเนินการ

(๒) ความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดําเนินนโยบาย

(๓) ผลกระทบและความเสี่ยงในการดําเนินนโยบาย

ในกรณีพรรคการเมืองไม่ได้จัดทํารายการตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการสั่งให้ดําเนินการให้ครบถ้วนและถูกต้องภายในระยะเวลาที่กําหนด

พูดง่ายๆ คือ พรรคเพื่อไทยยังทำตามกฎหมายไม่ครบ

ขาดส่วนสำคัญไป นั่นคือ ที่มาของเงินกว่า ๕ แสนล้านบาท

ฟัง “หมอมิ้ง-พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช” ตำแหน่งยาวยืด ประธานคณะทำงานนโยบาย และประธานกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ก็ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก

แถมยังมีคำถามเพิ่ม

“หมอมิ้ง” บอกว่า

“…สำหรับข้อห่วงใยเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณในนโยบายดังกล่าวนั้น ยืนยันว่า มาจากการประเมินของหน่วยงานของรัฐ ที่คาดว่าจะมีการจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น ๒๖๐,๐๐๐ ล้านบาท

และมาจากภาษีต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นอีกประมาณแสนกว่าล้านบาท

รวมทั้งงบประมาณจากโครงการต่างๆ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว

พรรคเพื่อไทยมีนักบริหารที่มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศมาแล้ว การใช้งบประมาณทั้งหมดภายใต้กรอบที่เสนอไป…”

สรุปคือพรรคเพื่อไทยไม่แตะเรื่องการปรับโครงสร้างภาษี

แต่จะใช้เงินงบประมาณที่มีอยู่

จริงๆ แล้ว เรื่องการเก็บภาษี เรื่องงบประมาณ มันมาจากฐานที่จับต้องได้ครับ

มีใครบ้างที่เสียภาษีบุคคลธรรมดา บริษัทไหนเสียภาษีนิติบุคคล

ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ที่เป็นภาษีผู้บริโภค แต่ละปีเก็บได้เท่าไหร่

เอาตัวเลขเก่าๆ มาดู ก็พอจะมองออกว่า ภาษีแบบไหน ที่จะมีโอกาสเก็บเพิ่มได้

ง่ายๆ ละกัน อย่าง VAT ลองไปเทียบปีที่เศรษฐกิจรุ่งๆ ว่าเราเก็บได้เท่าไหร่

เอาสมัยทักษิณ ที่คุยนักคุยหนาว่าทำให้เศรษฐกิจพุ่ง ก็ได้

ก็พอจะรู้ครับว่า ความน่าจะเป็นของภาษีที่จะเก็บได้ควรเป็นเท่าไหร่

หรือจะเอาตัวแปร เรื่องจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ราคาสินค้าค่าครองชีพที่สูงขึ้นมาบวกเพิ่มเข้าไป

เพราะอย่าลืมว่า ยิ่งของแพง ราคาสูง เราก็จะเก็บ VAT ได้เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว

แต่ลืมไปเถอะครับ เพราะเพื่อไทยไม่มีแผนปรับภาษีแน่นอน

ก็ติดตรง การคาดการณ์ว่าจะสามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น ๒๖๐,๐๐๐ ล้านบาท ที่ “หมอมิ้ง” อ้างว่ามาจากการประเมินของหน่วยงานรัฐ

หน้าบางกันจังนะ

ทำไมไม่อ้างว่าเพราะฝีมือของรัฐบาลประยุทธ์

เอาเข้าจริงทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยพูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอย

หาเสียงโจมตีรัฐบาลประยุทธ์ว่า ทำเศรษฐกิจเจ๊ง

บริหารประเทศไทยมา ๘ ปี ประชาชนจนลง มีความเหลื่อมล้ำสูง

ไทยไม่มีที่ยืนบนเวทีโลก

แล้วไง

พอให้บอกที่มาของเงินที่จะนำไปทำโครงการ แจกแหลกหัวละหมื่น กลับอ้างหน้าตาเฉย รัฐสามารถเก็บรายได้เพิ่มขึ้น ๒๖๐,๐๐๐ ล้านบาท

จะเอาเงินนี้ไปใช้

แล้วงบประมาณจากโครงการต่างๆ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้แล้วนี่คืออะไร

พรรคเพื่อไทยจะล้มโครงการที่รัฐบาลประยุทธ์ทำมาใช่หรือไม่

มีโครงการอะไรบ้าง ให้คำตอบได้หรือเปล่า?

จะบอกอะไรให้ กว่าที่จะเก็บรายได้ เก็บภาษีได้เพิ่ม รัฐบาลประยุทธ์ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง

เศรษฐกิจโลกแทบล่มสลายเพราะการระบาดของโควิด-๑๙

รู้หรือเปล่าว่ารัฐบาลประยุทธ์ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่

ระหว่างปี ๒๕๖๓-๒๕๖๕ ต้องใช้งบประมาณไปทั้งสิ้น ๔๔๔,๒๙๔ ล้านบาท

แยกย่อยได้ดังนี้

ค่าบริการสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโควิด-๑๙ เช่น ค่าตรวจคัดกรอง ค่ารักษาพยาบาล ค่าฉีดวัคซีน เป็นต้น ในสัดส่วนมากที่สุดประมาณ ๒๖๐,๑๗๔ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๕๙ ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด

การจัดซื้อและบริหารจัดการวัคซีน รวม ๗๗,๙๘๗ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑๗

ค่าตอบแทน เยียวยา ชดเชย และเสี่ยงภัยสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ๕๗,๔๙๙ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑๓

ส่วนที่เหลือเป็นค่ายาและวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ พื้นที่กักกันโรคแห่งรัฐ และองค์กรการวิจัยและพัฒนา ฯลฯ

แล้วไงครับ วันนั้น พรรคเพื่อไทย ด่ารัฐบาล โกงงบโควิด หากินกับความทุกข์ของประชาชน

วันนี้เราผ่านวิกฤตโควิดมาได้เพราะงบประมาณ ๔ แสนกว่าล้านบาท ในเวลา ๓ ปี จนเริ่มตั้งหลักได้ เก็บภาษีได้เพิ่ม รายได้รัฐเริ่มจะกลับมาให้เห็นตัวเลขที่ชื่นใจ

แต่วันข้างหน้าเราจะใช้เงิน ๕ แสนล้านจากการฟื้นตัวนี้ แจกเงินประชาชน ระยะเวลา ๖ เดือน หากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล

ถามหน่อยครับ พรรคเพื่อไทยเป็นผู้สร้าง หรือผู้ทำลาย

มือเศรษฐกิจของพรรค โดยเฉพาะนักธุรกิจ อย่าง “เศรษฐา ทวีสิน” ไม่น่าจะโง่จนมองไม่ออกว่า เงิน ๕ แสนล้าน นอกจากแจกประชาชน ๕๐ ล้านคน ไม่แยกรวยจนแล้ว ยังสามารถนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบอื่นอีกได้หรือไม่

หรือเพราะแค่ตอบสนองตัณหาแลนด์สไลด์ของใครบางคน จนน้ำท่วมปากพูดอะไรไม่ออก

นอกจาก “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ”

Written By
More from pp
สฟอ. ผนึกกำลัง กฟผ. และพันธมิตร ผลักดันการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในไทย ตอบโจทย์เศรษฐกิจหมุนเวียน
สฟอ. ร่วมกับ กฟผ. ผนึกกำลังภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา เปิดตัวโครงการ “ศึกษาวิจัยจำลองกระบวนการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” เพื่อผลักดันให้เกิดระบบการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือขยะอิเล็กทรอนิกส์
Read More
0 replies on “‘ทักษิณริ เพื่อไทยยำ’ – ผักกาดหอม”