24 กุมภาพันธ์ 2566-นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงสโลแกนหาเสียง ‘ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ’ ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ในฐานะที่ประชาชนที่ต้องทนมา 9 ปี สโลแกนนี้คงไม่เหมาะสม แต่คำที่คู่ควรมากที่สุดตอนนี้ก็คือ “ประยุทธ์พอแล้ว 9 ปีหนี้ท่วม” มากกว่า
เพราะตั้งแต่ปี 2557 ที่พลเอกประยุทธ์รัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลประชาธิปไตย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เหลืออีก 3 เดือนก็จะครบ 9 ปีเต็ม ถือได้ว่า เป็น 9 ปีที่ประเทศได้รับความเสียหายหลายด้าน โดยเฉพาะหนี้สินของประเทศที่แทบจะท่วมหัว
ทั้งหนี้สาธารณะ คงค้าง ณ เดือนธันวาคม 2565 ทั้งสิ้น 9,302,526 ล้านบาท หรือเกือบ 10 ล้านล้านบาท หนี้ครัวเรือนสูงขึ้นอยู่ที่ 14.7 ล้านล้านบาท คิดเป็น 88% ของGDP และยังขยายเพดานหนี้อีก แม้แต่นายดนุชา พิทยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ ได้แถลงชัดเจนว่า “ปัญหาหนี้ครัวเรือนยังไว้วางใจไม่ได้ต้องแก้ไปเรื่อยๆ หนี้ครัวเรือนเป็นเหมือนระเบิดเวลาต้องแก้ไขอย่างต่อเนื่อง”
พรรคเพื่อไทยตระหนักถึงปัญหานี้เป็นอย่างดี จึงมีนโยบายแก้ไขหนี้ด้วยการสร้างรายได้ โดยเฉพาะภาคการเกษตร ราคาสินค้าเกษตรจะปรับขึ้นยกแผง ค่าแรงผู้ใช้แรงงานจะปรับขึ้นเป็นวันละ 600 บาท เงินเดือนปริญญาตรีจะปรับขึ้นเป็น 25,000 บาท ภายใน4ปี พักหนี้ 3 ปีทันที ปลอดต้น ปลอดดอกเบี้ย มั่นใจว่าประชาชนจะหลุดพ้นบ่วงกรรมหนี้ที่รัฐบาลได้สร้างเอาไว้แน่นอน
“หนี้แทบจะท่วมหัว ไม่รู้กี่ปีกี่ชาติจะใช้หนี้หมด ถ้าท่าน “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” ท่านจะทำให้หนี้พอกพูนมากขนาดไหน พอแล้ว พอกันที ปล่อยให้มืออาชีพทำงาน พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมทั้งนโยบายและบุลากรมากฝีมือ ตั้งใจเข้ามาแก้วิกฤต เพื่อพลิกฟื้นประเทศและทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หมดเวลาแห่งความทุกข์ยากของประชาชนแล้ว” นางสาวตรีชฎา กล่าว