ผักกาดหอม
ตอนเลือดไหลออก พรรคเพื่อไทยโวยวายว่า ฝั่งตรงข้ามแจกกล้วยเป็นสวน
ด่ายับทำลายประชาธิปไตย
แต่ตอนไหลเข้า พลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้า ตดก็หอมไปหมด
วานนี้ (๘ กุมภาพันธ์) เปิดแถลงข่าวบ้านใหญ่เมืองชล ย้ายกลับเพื่อไทย
ไม่เห็นพูดถึงกล้วยสักลูก
การดูดบ้านใหญ่เมืองชล ถือเป็นการ “จก” ซึ่งหน้า
ซึ่งหน้าอย่างไร?
ก็…”อิทธิพล คุณปลื้ม” ยังนั่งทำงานเป็นรัฐมนตรีวัฒนธรรมอยู่ แต่พรรคเพื่อไทย ไปลากพี่ๆ เขาเข้าคอกหมดแล้ว
ก็ไม่อยากไปโทษอะไรพี่ใหญ่ “สนธยา คุณปลื้ม” หรอกครับ เพราะนักการเมืองกับการย้ายพรรคเป็นเรื่องธรรมดา เพียงแต่พฤติกรรมของแกนนำพรรคเพื่อไทย มันไม่น่าคบจริงๆ
ฟัง “สนธยา คุณปลื้ม” แถลงข่าว
“…พี่น้องทุกคนในบ้านพูดคุยกันตลอด ความเห็นพี่น้องคือ เราจะมาเพื่อไทย คุณอิทธิพล ขณะนี้ยังปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีวัฒนธรรม มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ทำงานร่วมกับนายกฯ ได้เป็นอย่างดี คงจะอยู่ไปจนกว่าจะครบวาระ
บ้านของเราแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบอย่างชัดเจน ผมมาลงสนามเลือกตั้ง รัฐมนตรีวัฒนธรรมก็ยังปฏิบัติหน้าที่ไป เป็นมติของครอบครัว เราจะไปไหนไปด้วยกัน มาด้วยกัน
เรามีมติร่วมกันในบ้านเราคือ มาเพื่อไทย ก่อนหน้าเราทำงาน ได้คุยกันตลอด ส่วนหน้าที่ใครที่ปฏิบัติกันอยู่ ก็ปฏิบัติกันไป คุณอิทธิพล ยังปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีวัฒนธรรม ถึงแม้คุณอิทธิพลมา คงไม่มีปัญหาใน ครม. ในเรื่องการทำงานก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ไป เราไม่แยกกันแน่นอน…”
ลองกลับข้าง แค่ใครไปดูด ส.ส.เพื่อไทย ทั้งที่ยังทำงานในสภาอยู่ รับรองโดนข้อหาทำลายประชาธิปไตยเลยเชียวครับ
ครับ…ดูเหมือน “ทักษิณ” จะพยายามพลิกเกม
แลนด์สไลด์ให้ได้
ทุ่มสุดตัวดึงกลุ่มสามมิตรกลับด้วย
กลุ่มสมศักดิ์ เทพสุทิน กลับไปรับใช้นายเก่า
แต่โดยสัดส่วน จนถึงขณะนี้ เพื่อไทยยังไหลออกมากกว่าไหลเข้า
ที่ไหลออกไป กลายเป็นหอกข้างแคร่อยู่หลายคน
เอาเฉพาะ “สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ก็เล่นเอากระเทือนทั้งอีสาน
อีสานเป็นพื้นที่เดิมของพรรคเพื่อไทย ใครคิดจะเบียด….ยาก
แต่เลือกตั้งคราวนี้ มีตัวละครเพิ่มขึ้นมาเยอะ
เมื่อตัวหารจากเดิมแทบไม่มี แต่ครั้งนี้มีถึง ๓-๔ ผลเลือกตั้งไม่มีทางเหมือนเดิมแน่นอน
โพลในภาคอีสานกี่โพลแล้ว ที่เลือกพรรคเพื่อไทย แต่อยากได้ “สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์”
โพลนี้ไม่ได้ถามตอน “เจ๊หน่อย” ยังอยู่เพื่อไทย
เป็นโพลที่เพิ่งออกมาเมื่อปลายปีที่แล้ว เป็นช่วงเวลาที่ “เจ๊หน่อย” เดินสายหาเสียงในนามพรรคไทยสร้างไทยแล้ว
ก็แสดงว่า พรรคไทยสร้างไทย จะดึงคะแนนพรรค จากพรรคเพื่อไทย มหาศาล
อาจเรียกได้ว่า แลนด์สไลด์!
แล้วไหนจะต้องเจอพรรคภูมิใจไทย ยึดอีสานใต้เกือบทั้งภาคอีก
ฉะนั้นที่ประกาศแลนด์สไลด์วันละสามเวลาก่อนอาหาร เป็นเพราะพรรคเพื่อไทยประเมินแล้ว ไม่ง่าย จึงต้องปลุกกระแสไม่ให้ตก
แต่ดูแล้ว หากยังถูก “จตุพร พรหมพันธุ์” เขย่ารายวันแบบนี้ คะแนนพรรคเพื่อไทย น่าจะหายไปพอควรทีเดียว
ล่าสุดของล่าสุด ไม่หนักเท่าไหร่ แค่คอขาด
…สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศขณะนี้ จะใหญ่กว่าความวิปโยคทางการเมืองที่ผ่านมาอย่างมากมาย กรณีเหตุการณ์ ๖ ตุลา ๒๕๑๙ มาจากชนวนจอมพลถนอม กิตติขจร บวชเณรห่มผ้าเหลืองกลับบ้าน แม้ขณะนั้นยังไม่ต้องคดีอาญา เพียงถูกคำสั่งยึดทรัพย์จากรัฐบาลสัญญา ธรรมศักดิ์
ดังนั้น การกลับไทยของจอมพลถนอมจึงถูกใช้เป็นชนวนล้อมปราบนักศึกษาที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ขณะที่การกลับบ้านของทักษิณ ชินวัตร ซึ่งแตกต่างจากจอมพลถนอม กลับไทย เพราะทักษิณมีคดีอาญาและโทษติดคุก ๑๒ ปี จากคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ติดตัวอยู่ด้วย
แม้เรื่องราวและช่วงเวลาของทั้งสองคนนี้อาจแตกต่างกัน แต่เดินตามรอยทางเดียวกัน และปลายทางของประวัติศาสตร์การกลับบ้านกำลังจะเหมือนกัน…
ประเด็นนี้น้อยคนจะคิดก่อนเข้าคูหาเลือกตั้ง
แต่ผลของมันถึงขั้นเกิดสงครามกลางเมืองได้
ถ้าหลงเชื่อว่า เลือกพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล แล้ว “ทักษิณ” จะได้กลับมาอย่างเท่ๆ
และกลับมาด้วยวิธีพิเศษตามที่ “ทักษิณ” พูดไว้จริง
รัฐบาลถัดไปจะเป็นรัฐบาลที่อายุสั้นที่สุดรัฐบาลหนึ่ง
แต่ที่หนักหนาสาหัสกว่านั้นคือ ความแตกแยกของคนในชาติจะรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
วันวิปโยคในอดีต จะไม่ใช่วันที่โหดร้ายที่สุด
เพราะวันที่ “ทักษิณ” กลับมาจะมีความสูญเสียมากกว่า
เว้นเสียว่า กลับมาติดคุก เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
“จตุพร” ยิ่งเล่าเรื่อง “ทักษิณ” ก็ยิ่งเห็นอะไรเยอะ จะมีผลต่อการเลือกตั้งหรือเปล่า ไม่ทราบได้ แต่คนหยุดฟังมีแน่นอน
“…สิ่งที่เห็นอย่างหนึ่งที่พลัดหลงไปในดงละครการเมืองนั้น เมื่อเราสู้จริง ตายจริง เจ็บจริง แล้วมีความสูญเสียยากคณานับจริง
แต่ทันทีที่การเลือกตั้งได้อำนาจมา สิ่งที่เราอยากเห็นคือประชาชนเป็นใหญ่
เมื่อผมไปเจอทักษิณที่ต่างประเทศ ซึ่งแวดล้อมไปด้วยกลุ่มทุนที่คนเสื้อแดงขับไล่ในประเทศไทยที่เรียกว่าทุนอำมาตย์ และกลุ่มทุนสารพัดก็แวดล้อมทักษิณ บรรดานักการเมืองที่เราวิวาทะวิวาทในไทยก็ไปเจออยู่กับทักษิณ บรรดานักเคลื่อนไหว นักวิชาการที่เราฟาดฟันอยู่ในไทยอย่างแรงก็ไปเจออยู่กับทักษิณ…”
หมายความว่าไง?
เบื้องหน้ากับเบื้องหลัง คือฟ้ากับเหว
แค่คนเสื้อแดงเห็นภาพ “จตุพร” กับ “กำนันสุเทพ” อยู่ในเฟรมเดียวกันก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
ทั้งที่ “กำนันสุเทพ” เป็นเจ้าภาพงานแต่งฝั่งเจ้าสาว “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ที่สุราษฎร์ธานี
ถ้าได้เห็น “ทักษิณ” อยู่กับทุนอำมาตย์ นักการเมือง นักเคลื่อนไหว นักวิชาการ ฝั่งตรงข้าม อย่างที่ “จตุพร” เล่ามา จะรู้สึกอย่างไร
ยังมีเรื่องเกี่ยวกับ “ทักษิณ” ที่คนเสื้อแดงต้องรู้อีกเยอะ
ถึงขั้นแลนด์สไลด์ แดงสวิง เลยทีเดียว
