20 มกราคม 2566-นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การออกมาให้ข่าวของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่า รัฐบาลพร้อมชี้แจงการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้านตามญัตติมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ หลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์เป็นต้นไปนั้น ตีความเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากรัฐบาลกลัวการถูกตรวจสอบของพรรคฝ่ายค้าน เพราะรัฐบาลกำลังตกอยู่ในบ่วงของความผิดพลาด ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาหลายอย่าง ทั้งเรื่องปากท้องชาวบ้าน และการทุจริต ยากต่อการชี้แจงหรือแก้ตัว การให้อภิปรายโดยไม่ลงมติหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ จะมีหลักประกันอะไรที่จะเชื่อได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไม่ชิงยุบสภาก่อนจะเริ่มอภิปราย
นางสาวตรีชฎา กล่าวอีกว่า สภาจะปิดสมัยประชุมวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 การกำหนดให้ประชุมสภาเพื่อพิจารณาญัตติซักฟอกหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ซึ่งพรรคฝ่ายค้านต้องการใช้เวลา 3 วัน ครั้งนี้ไม่ได้มีข้อห้ามยุบสภาก่อนอภิปราย ซึ่งต่างกับญัตติอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ ที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่าห้ามยุบสภา ประกอบกับระยะเวลาหมดวาระ
ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับทอดเวลาการอภิปรายเนิ่นนานเกินไปและมาจ่อเอาช่วงที่สภาใกล้ปิดสมัยประชุม ซึ่งตอนนั้นทั้งข่าวลือ ข่าวลวง ข่าวปลอม ข่าวเท็จ ข่าวจริงเรื่องพล.อ.ประยุทธ์จะยุบสภาจะกระพือทางสื่อต่างๆตลอดทั้งวัน ความไม่แน่นอนในเรื่องนี้ไม่เป็นผลดีต่อพรรคการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดิน
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีก็ขนทีมรัฐมนตรีลงพื้นที่ชนกับการลงพื้นที่ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เด่นชัดขนาดนี้ ยิ่งทำให้คิดเป็นอื่นไม่ได้เลยว่า เกิดการยื้อแย่งตักปลาในบ่อเดียวกัน ความกลัวเริ่มมาเยือนพล.อ.ประยุทธ์เข้ามาทุกที โดยลืมไปว่าไม่สามารถทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ได้ 1,423 วัน กับการทำหน้าที่รัฐบาลกับระยะเวลาที่เหลืออีก 60 วัน จะหมดวาระของรัฐบาล ประชาชนไม่มีหวังกับการสานต่อนโยบายที่หาเสียงไว้ เหลือแต่ร่องรอยของการช่วงชิงจังหวะทางการเมืองของพี่กับน้อง 2 ป.เท่านั้น ความหวังของประชาชนจะเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากพรรคเพื่อไทย” นางสาวตรีชฎากล่าว