นาย สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์ เฟซบุ๊กส่วนตัว ในกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ออกมาโพสต์พาดพิง ถึงท่านพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เรื่องของการปรับ ครม.ก็ดี และในเรื่องของตู้ห่าวทุนจีนสีเทาก็ดี
สิ่งที่ผมได้รับข้อมูลมาจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนนั้น ผมคิดว่านายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อนั้น คงมีอายุที่มากจึงมีตาที่ฝ้าฟาง มีหูที่ตึง จึงไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นย้อนศรไปหาอดีตนายกรัฐมนตรีคนแดนไกล
วันนี้ผมจะมาเบิกเนตรให้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อได้มีหูตาที่กว้างไกล จะได้เลิกใส่ร้ายพูดเท็จถึง 2ป คือพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในการปรับ ครม. ที่ผ่านมานั้น
เป็นการปรับเพื่อความเหมาะสม ซึ่งก็เป็นโควต้าและเป็นอำนาจของนายก โดยโควต้าของพรรคพลังประชารัฐ 2ที่ และโควต้าของพรรคประชาธิปัตย์1ที่
โดยหลักการการปรับ ครม.นั้นก็เป็นอำนาจนายก ซึ่งทำกันมาโดยปกติ ทั้งที่คนอย่างนายณัฐวุฒิยังเป็นรัฐมนตรีได้ ดังนั้นอย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลย คนอื่นก็เป็นรัฐมนตรีได้เช่นเดียวกัน
ซึ่งผมมองว่า 3 คนที่ปรับ ครม.เข้าไปนั้นก็ดีกว่านายณัฐวุฒิทุกคน เพราะทั้ง3คนนั้นเขารู้อะไรชั่ว เขารู้อะไรดีเขาไม่ทำในสิ่งที่ชั่วเขาทำแต่ในสิ่งที่ดี ผมเองไม่อยากพาดพิงบุคคลอื่น แต่ผมจะชี้เเจงให้นายณัฐวุฒิ ได้ฟังว่านายตู้ห่าวนั้น เขาได้ใบอนุญาตทำงานในสมัยพรรคเพื่อไทยบริหาร ราชการแผ่นดิน
เขาได้สัญชาติไทยโดยการขอ เวลาเราจะดูว่าคนได้สัญชาตินะ เขาไม่ได้ดูที่คนเซ็นวันสุดท้าย เขาดูว่าใครเป็นต้นเรื่องทำมา ใครอนุญาตให้ทำ เพราะพอต้นเรื่องมันมาแล้วมันมาตามกระบวนการ
ฉะนั้นตอนที่นายตู้ห่าวเริ่มขอสัญชาติไทยนั้น มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นคนของพรรคเพื่อไทย ซึ่งตอนนี้หลบหนีคดีอยู่
นายณัฐวุฒิไปอยู่ที่ไหนถึงไม่รู้เรื่องนี้ แล้วเรื่องขายที่ดินให้ต่างชาติ นายณัฐวุฒิก็น่าจะรู้ว่าเงินที่นายตู้ห่าวเป็นเงินสีเทาสีดำ เงินไม่ดีหรืออย่างไร แต่กลับกลายเป็นซื้อบ้านหรูของโครงการของใครที่เป็นแคนิเดตนายกฯพรรคที่นายณัฐวุฒิสังกัดหรือเปล่า เรื่องที่นายณัฐวุฒิออกมาวิพากษ์วิจารณ์ มันก็ตกไปที่คนแดนไกลอีกเช่นกัน
วันนี้ผมจึงอยากบอก นายณัฐวุฒิว่า สงสัยตาฝ้าตาฟางไปหมดแล้ว ถึงไม่รู้จักแยกผิดชั่วดี และก็ออกมาตำหนิ 2ป ผมบอกได้เลยครับว่า
ท่านพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้นมีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่น เป็นที่นับถือของพ่อแม่พี่น้องประชาชน และ เป็นที่นับถือของนักการเมือง
การที่นายณัฐวุฒิ ออกมาใส่ร้ายนั้นผมคิดว่าไม่มีทางทำสำเร็จ อย่างไรท่านพลเอกประยุทธ์ กับท่านพลเอกประวิตร เขาไม่มีทางเลิกรักกัน เขามีมิตรภาพที่ดีต่อกัน ฉะนั้นอย่าใส่ร้าย ให้ลุงป้อม กับ ลุงตู่ต้องมัวหมองกับสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ
ผมหวังว่าสิ่งที่ผมออกมาเตือน นายณัฐวุฒิจะทำให้นายณัฐวุฒิตาสว่าง และหายหูตึง หายตาพร่า ตามัว จะได้ไม่ถูกคนแดนไกลตำหนิ ไม่ใช่การเลือกตั้งครั้งหน้าไม่รู้นายณัฐวุฒิจะไปอยู่ที่ไหน จะลงนคร ก็ลงไม่ได้เพราะเสียงไม่ดี จะลงบัญชีรายชื่อคนก็ต่อคิวเต็ม
ผมเองก็สงสารนายณัฐวุฒิ เพราะช่วงนี้ชอบออกมาเล่นผิดคิวอยู่เรื่อย เปรียบเหมือนการเล่นดนตรีผิดคิวนั้นส่วนใหญ่จะโดนเพื่อนด่า เพราะไม่เล่นตามทำนอง
แต่การออกมาพูดแบบหลับหูหลับตา แล้วกระทบถึงฐานเสียงของคนแดนไกล จะทำให้นายใหญ่ของนายณัฐวุฒิไม่ปลื้ม ผมเองก็หวังว่าสิ่งที่ผมเตือนนายณัฐวุฒินั้นจะช่วยให้นายณัฐวุฒิเข้าใจโลกนั้นมากขึ้น
