นายกฯ เปิดงานอุตสาหกรรมแฟร์ฯ ชูชุมชน “ดีพร้อม” มุ่งพัฒนาคน เสริมทักษะ ฝึกอาชีพ สร้างเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง พร้อมเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับมาตรฐานการครองชีพ

นายกฯ เปิดงานอุตสาหกรรมแฟร์ฯ ชูชุมชน “ดีพร้อม” มุ่งพัฒนาคน เสริมทักษะ ฝึกอาชีพ สร้างเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง พร้อมเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับมาตรฐานการครองชีพ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนทุกระดับ

1 ธันวาคม 2565  เวลา 13.30 น. บริเวณเวทีกลาง อาคารเอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 10 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดงานอุตสาหกรรมแฟร์ “ซื้อของไทย ใช้ของดี สร้างอาชีพ เสริมธุรกิจที่ดีพร้อม”

ภายใต้โครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ส่วนราชการ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ SME วิสาหกิจชุมชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีชมวีดิทัศน์ภาพรวมการจัดงานอุตสาหกรรมแฟร์ “ซื้อของไทย ใช้ของดี สร้างอาชีพ เสริมธุรกิจที่ดีพร้อม” ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนา “ชุมชนดีพร้อม” และการพัฒนา “คน” ที่เป็นประชาชนในระดับท้องถิ่นและชุมชน ผ่าน “กลไก 7 วิธี ปั้นชุมชนดีพร้อม” ได้แก่ แผนชุมชนดีพร้อม คนชุมชนดีพร้อม แบรนด์ชุมชนดีพร้อม ผลิตภัณฑ์ชุมชนดีพร้อม เครื่องจักรชุมชนดีพร้อม ตลาดชุมชนดีพร้อม และเงินทุนหมุนเวียนดีพร้อม

ซึ่งกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 1 – 4 ธันวาคม 2565 ณ อาคารเอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 9 – 12 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อต่อยอดผลสำเร็จของโครงการ พัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนและเสริมทักษะในการประกอบธุรกิจให้สามารถพึ่งพาตัวเองและมีอาชีพใหม่ รวมทั้งช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน

ตลอดจนการเปิดตลาดไอเดียสำหรับประชาชนเพื่อหาแรงบันดาลใจในการสร้างธุรกิจที่มั่นคง ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 200,000 คน และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท จากนั้น นายกรัฐมนตรีชมการแสดง “รวมใจพัฒนา อาชีพเสริม เพิ่มรายได้ ให้ชุมชน คนสุขใจ” พร้อมรับฟังรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ ที่ร่วมกันดำเนินงานเพื่อให้ประชาชนในชุมชนมีแหล่งรายได้ที่มั่นคง ยั่งยืน เสริมกำลังขับเคลื่อนพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็ง ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนในระดับท้องถิ่นและชุมชนซึ่งเป็นรากฐานและกลไกสำคัญของการพัฒนาประเทศ มีการเสริมทักษะและฝึกอาชีพแก่ประชาชนให้สามารถพึ่งพาตัวเองและมีรายได้ มีอาชีพใหม่

รวมทั้งการพัฒนาตลาดและสนับสนุนช่องทางการจำหน่ายที่แสดงศักยภาพของผู้ประกอบการไทย และผู้ประกอบการธุรกิจใหม่ในชุมชนที่มีความโดดเด่น ซึ่งงานอุตสาหกรรมแฟร์ฯ เป็นงานที่แสดงให้เห็นถึงผลความสำเร็จในการขับเคลื่อนฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ

โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดจากหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะวิกฤติโควิด-19 ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญในการช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

โดยเฉพาะการสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจฐานราก การดูแลสภาพแวดล้อม และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการผลกระทบจากการพัฒนาเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ เช่น การลดภาวะโลกร้อน การรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นต้น เพื่อให้มีความพร้อมในการเผชิญกับวิกฤตการณ์ในอนาคต

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทย โดยรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาโควิด-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท รวมทั้งเร่งการใช้จ่ายของภาครัฐ ขยายการลงทุนของภาคเอกชน เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน

รวมทั้งกระตุ้นการใช้สอยของประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ สามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ รวมถึงมุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากโดยเฉพาะเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชนให้เข้มแข็ง มีศักยภาพในการแข่งขัน สามารถพึ่งพาตนเองได้ อันจะก่อให้เกิดการยกระดับมาตรฐานการครองชีพและความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชนให้ดีขึ้น เพื่อให้ทุกคนอยู่รอดอย่างพอเพียงและยั่งยืน

นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งหลายประเทศชื่นชมในศักยภาพของไทย มีการเปิดกว้างและพึ่งพาอาศัยกันเพื่อร่วมกันพัฒนาให้เติบโตและแข็งแกร่งไปด้วยกัน โดยรัฐบาลพร้อมขับเคลื่อนส่งเสริมและพัฒนาในทุก ๆ ด้าน เพื่อทำให้เศรษฐกิจฐานรากเจริญเติบโต ด้วยความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ประชาชน ร่วมเดินหน้าประเทศให้ดีขึ้นไปด้วยกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษาที่ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมทั้งการศึกษาองค์ความรู้จากต่างประเทศที่เป็นประโยชน์เพื่อการนำมาประยุกต์ดัดแปลงใช้ประโยชน์ให้เหมาะสมและการศึกษาด้านประวัติศาสตร์ ขอให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจและร่วมธำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

นายกรัฐมนตรีแสดงความเชื่อมั่นว่าการดำเนินโครงการฯ รวมทั้งการจัดงานอุตสาหกรรมแฟร์ฯ จะช่วยต่อยอดและขยายผลโครงการต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เป็นโอกาสให้ประชาชนพบช่องทางในการสร้างอาชีพ สามารถต่อยอดสู่การเป็นผู้ประกอบการ พร้อมสร้างความเข้มแข็งในชุมชนอันจะเป็นภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งให้แก่ประเทศชาติ และเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศต่อไป

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี เชิญชวนเยี่ยมชมงานอุตสาหกรรมแฟร์ฯ สนับสนุนสินค้าจากชุมชนและผู้ประกอบการไทย ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เกิดความยั่งยืน เสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการต้นแบบชุมชนดีพร้อม เทคโนโลยีและนวัตกรรม การออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ การยกระดับเกษตรอุตสาหกรรมและโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (BCG) การจำลองบรรยากาศถนนคนเดินสรรพยา และเยี่ยมชมภาพรวมผลสำเร็จของหลักสูตรฝึกอาชีพต่าง ๆ เป็นต้น

Written By
More from pp
LINE MAN ร่วมกับ สสส. ปั้นหลักสูตรดูแลสุขภาวะไรเดอร์ ลุยวิจัยสกัดหลักสูตรที่ไรเดอร์ต้องการ เตรียมขยายผลทั่วประเทศ
LINE MAN ร่วมมือกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมภาคีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ปั้นหลักสูตรดูแลสุขภาวะไรเดอร์ กาย-ใจ-ความปลอดภัยบนท้องถนน มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างอาชีพไรเดอร์ให้ยั่งยืน ล่าสุดนำร่องจัดกิจกรรมอบรมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก่อนเตรียมขยายผลหลักสูตรให้เข้าถึงไรเดอร์ทั่วประเทศ ไม่จำกัดค่าย
Read More
0 replies on “นายกฯ เปิดงานอุตสาหกรรมแฟร์ฯ ชูชุมชน “ดีพร้อม” มุ่งพัฒนาคน เสริมทักษะ ฝึกอาชีพ สร้างเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง พร้อมเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับมาตรฐานการครองชีพ”