ครม.เคาะ! แผนปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ ระยะที่ 2 พ.ศ.2566-2570 ตั้งเป้าปี 66 CPI ติดอันดับ 1 ใน 53 ของโลก

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 ว่า ครม.เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ระยะที่ 2 (พ.ศ.2566 – 2570) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) เสนอ เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และภาคเอกชน ในการแปลงแนวทางการพัฒนาของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 21 ประเด็น การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ (พ.ศ.2561 – 2580) ไปสู่การปฏิบัติ สำหรับแผนปฏิบัติฉบับนี้ มีเป้าหมาย 2 ระดับ คือ

1.เป้าหมายภาพรวม คือ กำหนด “ประเทศไทยปลอดการทุจริตและประพฤติมิชอบ” โดยรัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับการต่อต้านการทุจริต หน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส อัตราการเกิดคดีทุจริตมีแนวโน้มลดลง ประชาชนมีทัศนคติที่ไม่ยอมรับการทุจริต และมีผลการประเมินคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perception Index : CPI) ที่สูงขึ้น โดยมีตัวชี้วัดภาพรวมที่กำหนดไว้ดังนี้

ปี 2566 CPI ของประเทศไทย อยู่ในอับดันดับ 1 ใน 53 และหรือได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 51 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน โดยมีหน่วยงานที่ผ่านเกณฑ์การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 84 และในปีต่อ ๆ ไป ตั้งเป้าไว้ คือ ปี2567 CPI ติดอันดับ 1 ใน 51 และหรือคะแนนไม่ต่ำกว่า 53 คะแนน ปี 2568 CPI ติดอันดับ 1 ใน 48 และหรือคะแนนไม่ต่ำกว่า 55 คะแนน

ปี 2569 ติดอับดันดับ 1 ใน 45 และหรือคะแนนไม่ต่ำกว่า 56 คะแนน และปี 2570 CPI ติดอับดับ 1 ใน 43 และหรือคะแนนไม่ต่ำกว่า 57 คะแนน ส่วนแนวทางการขับเคลื่อนเป้าหมายภาพรวม อาทิ การผลักดันเพื่อยกระดับคะแนน CPI และนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในทุกขั้นตอนของการอนุญาต

2.เป้าหมายย่อย ประกอบด้วย 3 เป้าหมาย มี 9 ตัวชี้วัด ดังนี้

1.แผนย่อยการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ มี 2 เป้าหมาย ได้แก่ 1)ประชาชนมีวัฒนธรรมและพฤติกรรมซื่อสัตย์สุจริต และ 2)คดีทุจริตและประพฤติมิชอบลดลง มี 7 ตัวชี้วัด อาทิ ร้อยละของเด็กและเยาวชนไทยมีพฤติกรรมที่ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต เช่น ปี66 ร้อยละ 80 ร้อยละของหน่วยงานที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ITA เช่น ปี 66 ร้อยละ 84 และจำนวนคดีทุจริตในภาพรวมลดลง เช่น ปี 66 ร้อยละ 10

2.แผนย่อยการปราบปรามการทุจริต มีเป้าหมาย คือ การดำเนินคดีทุจริตมีความรวดเร็ว เป็นธรรม โปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติ มี 2 ตัวชี้วัด ได้แก่ 1)กระบวนการดำเนินคดีทุจริตที่จำเป็นต้องขอขยายระยะเวลาเกินกว่ากรอบเวลาปกติที่กฎหมายกาหนด ไม่เกินร้อยละ 20 และ 2)จำนวนคดีอาญาที่หน่วยงานไต่สวนคดีทุจริตถูกฟ้องกลับ ไม่เกินร้อยละ 3 ของจำนวนคดีที่ส่งฟ้อง ส่วนการขับเคลื่อนเป้าหมายย่อย เช่น 1)ปลูกฝังวิธีคิด ปลุกจิตสานึก ให้มีวัฒนธรรมและพฤติกรรมซื่อสัตย์สุจริต 2)ป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ และ 3)ปราบปรามการทุจริต

นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการฉบับนี้ มีจำนวน 605 โครงการ วงเงิน 3,748.70 ล้านบาท แบ่งตามเป้าหมายดังนี้ เป้าหมายที่ 1 ประชาชนมีวัฒนธรรมและพฤติกรรมซื่อสัตย์สุจริต จำนวน 331 โครงการ วงเงิน 2,752.01 ล้านบาท เป้าหมายที่ 2 คดีทุจริตและประพฤติมิชอบลดลง จำนวน 162 โครงการ วงเงิน 684.84 ล้านบาท

และเป้าหมายที่ 3 การดำเนินคดีทุจริตมีความรวดเร็ว เป็นธรรม โปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติ จำนวน 112 โครงการ วงเงิน 311.85 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณภายใต้แผนงงานบูรณาการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ งบกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และงบดำเนินงานของแต่ละหน่วยงาน

Written By
More from pp
ศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 ชวนอร่อยไปกับ แสนแซ่บ (SANSAB) ศูนย์รวมอาหารไทย-อีสานรสเด็ด จัดบริการ “ผูกข้าวกล่อง เดลิเวอรี่” เพื่อคนอยู่บ้านโดยเฉพาะ  
ศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9   ขอนำเสนออาหารไทยรสเด็ดจาก ร้านแสนแซ่บ (SANSAB) ที่นอกจากจะเปิดให้บริการซื้อกลับบ้าน บริเวณชั้น 2 แล้ว  ยังพร้อมส่งอาหารราคาพิเศษเพื่อลูกค้าที่สั่งจากช่องทางออนไลน์แบบคุ้มๆ ในโปรโมชั่น  “ผูกข้าวกล่อง  เดลิเวอรี่” 
Read More
0 replies on “ครม.เคาะ! แผนปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ ระยะที่ 2 พ.ศ.2566-2570 ตั้งเป้าปี 66 CPI ติดอันดับ 1 ใน 53 ของโลก”