ก่ออาชญากรรมกับรัฐ-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ก่ออาชญากรรมโดยรัฐ ว่าเข้าไปนั่น

ได้เห็นม็อบใช้ไม้หน้าสามหวดตำรวจ

ตำรวจสวนกลับด้วยการยิงกระสุนยางใส่

พอใช้คำว่า “สวนกลับ” ทำให้ดูเหมือนทะเลาะกันไปในทันที

แต่หากใช้คำว่า ตำรวจ “ยับยั้ง” การกระทำที่ก่อความรุนแรง ความหมายเปลี่ยนทันที

ครับ…วานนี้ (๑๘ พฤศจิกายน) กลุ่มผู้ชุมนุมชื่อ  “ราษฎรหยุดเอเปก ๒๐๒๒” ปะทะกับตำรวจควบคุมฝูงชน บาดเจ็บ และถูกจับกุมไปหลายราย

แค่ชื่อ “ราษฎรหยุดเอเปก ๒๐๒๒” ฟังแล้วรู้สึกผวา กลัวจะซ้ำรอย การประชุมสุดยอดอาเซียน ที่โรงแรมรอยัล  คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา เมื่อปี ๒๕๕๒ ขึ้นมาทันที

ครั้งนั้นคนเสื้อแดงบุกพังโรงแรม ผู้นำชาติอาเซียนต้องนั่ง ฮ.หนี

เป็นการพังการประชุมผู้นำอาเซียน

ครั้งนี้เวทีใหญ่กว่ามาก มีผู้นำจาก ๒๑ เขตเศรษฐกิจ มาร่วมประชุม หากเกิดภาพ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง หรือ  กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องขึ้น ฮ.หนีม็อบ  คงเป็นภาพที่ถูกกระจายไปทั่วโลก

ค่าใช้จ่ายของบ้านผู้สูงอายุสุดหรูใน Bangkok อาจทำให้คุณประหลาดใจบ้านผู้สูงอายุที่หรูหราค้นหาเลย

ประเทศไทยคงไม่ต่างเมืองเถื่อน

หากจะแย้งว่า ไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่นอน

ก็คราวประชุมผู้นำอาเซียนที่พัทยา ใครจะไปคิดว่าคนเสื้อแดงจะบุกไปพังโรงแรม รอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท

การชุมนุมแสดงออกทางการเมือง เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน รัฐธรรมนูญให้ใช้สิทธิ์ได้เต็มที่ เพียงแต่อย่าไปกระทบสิทธิ์ของผู้ หรือข้อห้ามอื่นตามที่กฎหมายกำหนด

ไม่เช่นนั้นจะเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมายทันที

และการชุมนุมที่ผ่านมา ไม่ว่าแดง เหลือง กปปส.  สามนิ้ว ล้วนผิดกฎหมายทั้งนั้น แกนนำการชุมนุมถึงได้มีคดีติดตัวกันแทบทุกคน

ฉะนั้นต้องเข้าใจตรงนี้ก่อน

เมื่อเข้าใจแล้วก็ไปดูการชุมนุมของ “ราษฎรหยุดเอเปก ๒๐๒๒”

อย่างแรกเลยชื่อกลุ่มถือว่าอันตรายกับการประชุมเอเปกอย่างมาก เพราะเป้าหมายแปลความเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย นอกจากต้องการล้มการประชุมเอเปก

ถ้าจะบอกว่าไม่มีเจตนาล้มการประชุม คราวหน้าคราวหลังตั้งชื่อกลุ่มต้องระมัดระวังให้มาก อย่าเอามันอย่างเดียว

แค่ได้ยินชื่อกลุ่มก็ไม่มีใครไว้ใจแล้วครับ นอกจากพวกเดียวกัน

โดยบริบทการประชุมเวทีใหญ่ขนาดนี้ เป็นเรื่องยากครับที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเข้าถึงตัวผู้นำประเทศ

แต่บังเอิญว่ามี ส.ส.ก้าวไกล ชื่อว่า “เบญจา แสงจันทร์” ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า การชุมนุมของ “ราษฎรหยุดเอเปก ๒๐๒๒” เป็นไปอย่างสงบ เจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายใช้ความรุนแรง

 “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจนครบาล นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี จะต้องมีส่วนรับผิดชอบร่วมกันกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในวันนี้ ที่สลายการชุมนุมมิชอบด้วยกฎหมาย และใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ

หลังจากยื่นหนังสือต่อผู้กำกับฯ สน.สำราญราษฎร์ไป  ก็ได้คำตอบว่าพี่น้องยังใช้สิทธิ์ในการชุมนุมอย่างสงบต่อไป  แต่ขัดกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ที่ใช้ความรุนแรงไม่ได้สัดส่วน เกินหลักการสากลไปมาก

นับว่าเป็นการทำอาชญากรรมโดยรัฐ การใช้กระสุนยางยิงระยะประชิด เป็นเรื่องที่ขายหน้าไปทั่วโลก บาดแผลเหล่านั้นเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุทั้งสิ้น

การประชุมสุดยอดผู้นำโลก ถ้าถอดบทเรียนเราก็จะเห็นว่าการออกมาเรียกร้องที่เป็นเหตุผลในทุกครั้งเป็นเรื่องปกติที่กระทำได้ ในต่างประเทศการชุมนุมสามารถประชิดตัวผู้นำ เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้นำทั่วโลกได้

แต่ของไทยมีการปิดกั้น ไม่ให้ประชาชนแสดงออกได้  เราจะไม่เห็นเหตุการณ์แบบนี้ในรัฐบาลที่มาจากประชาชนจริงๆ เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงและกังวลอย่างมาก…”

ที่จริงน่าจะยกตัวอย่างว่าเคยมีกรณีไหนที่ผู้ชุมนุมซึ่งแสดงตัวเป็นปฏิปักษ์ตั้งแต่เริ่มแรก ได้เข้าประชิดตัวผู้นำเพื่อยื่นข้อเรียกร้อง

เคยเห็นแต่พวกสวมรอยก่อเหตุตามงานเลี้ยง สมเด็จ ฮุน เซน ก็เคยถูกปารองเท้าใส่ เมื่อคราวไปร่วมประชุมอาเซียน-สหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ส่วนผู้นำประเทศมหาอำนาจเลิกพูดครับ ไม่มีใครเข้าถึงตัวได้

ฉะนั้นเป็นถึง ส.ส. อย่ามั่ว อย่าให้ข้อมูลเท็จบ่อยนัก

หรือรอให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นนายกฯ

จะรอดูว่า จะต้อนรับผู้ชุมนุมที่มาขับไล่ให้พ้นตำแหน่งนายกฯ เพราะรัฐบาลก้าวไกลตั้งหน้าตั้งตาแก้ ม.๑๑๒ หรือไม่

ตอนเป็นฝ่ายค้านพูดได้หมดครับ เพราะไม่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำหลังจากนั้น

ถ้าบอกว่าการยับยั้งไม่ให้ม็อบที่จะล้มการประชุมเอเปกใช้ไม้หน้าสามตีเจ้าหน้าที่ตำรวจคือการก่ออาชญากรรมโดยรัฐ คนที่ชอบตีเมียโดยเมียไม่มีทางสู้ คงเป็นโคตรอาชญากร

มันใช่หรือครับ

อย่าเอาแต่ท่องตามบท ให้ดูข้อเท็จจริงด้วย

อยากให้ “พิธา” ช่วยตอบหน่อย หากวันนี้เป็นนายกฯ  และกำลังเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปกอยู่ มีผู้ชุมนุมใช้ชื่อ  “ราษฎรหยุดเอเปก” ขอยกพวกเข้าพบในที่ประชุมเพื่อ ไล่ให้ออกจากตำแหน่ง ให้เลิกชุมนุม ไล่แขกกลับบ้าน

จะตอบว่าไง?

“อุ๊งอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร” ก็เหมือนกัน ทวีตข้อความ

“…การแสดงความเห็นแบบสันติ ปราศจากอาวุธของประชาชนเช่นนี้ รัฐไม่ควรใช้ความรุนแรงกับประชาชน โดยเฉพาะการใช้กระสุนยางในระยะประชิด…”

ช่วงม็อบใช้ไม้หน้าสามตีตำรวจกับช่วงที่ตำรวจยิงกระสุนยางใส่ม็อบคนที่ถือไม้หน้าสามเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องกัน ห่างกันแค่เสี้ยววินาที  ไม่รู้ว่า “อุ๊งอิ๊งค์” ได้ดูครบทั้งบริบทหรือเปล่า

หรือเลือกดูเฉพาะช็อตที่เจ้าหน้าที่ยิงกระสุนยาง

 หลักการยิงกระสุนยางสลายการชุมนุม ในสากลเขาทำกันอย่างไร?

กระสุนยางควรถูกใช้ในการเล็งยิงไปที่ช่องท้องส่วนล่าง หรือขา ของบุคคลที่ใช้ความรุนแรงเท่านั้น และเฉพาะกรณีที่เล็งเห็นว่ากำลังจะเกิดอันตรายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือสาธารณชน

หลักการนี้ใช้กันทั่วโลก

ในอเมริกาช่วงม็อบบุกยึดรัฐสภา เพราะโดนัลด์ ทรัมป์ บ้าเลือด ก็เป็นข่าวไปทั่วโลก ประเคนกระสุนยาง แก๊สน้ำตากันเป็นว่าเล่น

กระสุนจริงก็มีแถมเหมือนกัน

ในฝรั่งเศส เยอรมัน ก็เห็นตำรวจยิงกระสุนยางกันบ่อย

แล้วเป็นการก่ออาชญากรรมโดยรัฐหรือเปล่า

วันก่อน ประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง ยังไปเดินเล่นที่เยาวราชอยู่เลย

พรรคก้าวไกลสนใจจะจับ “มาครง” ขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือเปล่า

ครับ…จ้างบาทเดียวเล่นล้านก็เป็นแบบนี้แหละ

เด็กโข่งนำหน้านักการเมืองอยู่ข้างหลัง

เป้าหมายคือล้มล้างเพื่อเปลี่ยนขั้วอำนาจ

นี่คือรูปแบบหนึ่งของการก่ออาชญากรรมกับรัฐ

Written By
More from pp
“วิทยาลัยดุสิตธานี” จัดงาน Hospitality Talent Fair เฟ้นหาคนคุณภาพเข้าสู่ธุรกิจบริการ
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อทุกธุรกิจทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากมาตรการการเว้นระห่างทางสังคม การที่ประชาชนงดเดินทาง ตลอดจนการจำกัดพื้นที่หรือการล็อกดาวน์ที่มีออกมาเป็นระยะ ธุรกิจโรงแรมซึ่งเป็นหนึ่งในฟันเฟืองของอุตสาหกรรมนี้จึงได้รับผลกระทบอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
Read More
0 replies on “ก่ออาชญากรรมกับรัฐ-ผักกาดหอม”