นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลฯ ได้รับมอบหมายจาก บิ๊กป้อม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี) เร่งเดินหน้า 6 มาตรการเร่งด่วนปราบแก๊งหลอกลวงออนไลน์ ประกอบด้วย 1. การเร่งรัดปราบปรามการฉ้อโกงออนไลน์ 2. การป้องกันธุรกรรมทางการเงินผิดกฎหมาย 3. การป้องกันการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ผิดกฎหมาย 4. การเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดวงจรอาชญากรรม 5. การยกระดับการเตือนภัยออนไลน์และสร้างการรับรู้ต่อประชาชน
และ 6. การเร่งรัดพัฒนากฎหมายและขยายผล ซึ่งเป็นมาตรการเร่งด่วนตามที่ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม เรื่อง แนวทางแก้ไขปัญหาหลอกลวงทางออนไลน์ ในวันที่ 7 พ.ย. 2565
รัฐมนตรีชัยวุฒิ ได้สั่งการให้ นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประชุมหารือในรายละเอียด ตามมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ได้มีการประชุมร่วม พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รองผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ผู้แทนผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้แทนสำนักงานป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน และ ผู้แทนสำนักงาน กสทช.
หารือแนวทางเร่งดำเนินมาตรการป้องกันธุรกรรมทางการเงินผิดกฎหมาย ที่ประกอบด้วย (1) การแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีม้าและธุรกรรมต้องสงสัยระหว่างสถาบันการเงิน (2) การสร้างกลไกในการตรวจสอบและระงับธุรกรรมทางการเงินรวมทั้งสินทรัพย์ดิจิทัลผิดปกติหรือผิดกฎหมาย และ (3) การป้องกันการโอนเงินผ่าน Remote Application ที่คนร้ายใช้
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือ มาตรการป้องกันการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ผิดกฎหมาย ประกอบด้วย (1) การบังคับใช้กฎหมายสำหรับการใช้โทรศัพท์ผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด (เช่น SIM ไม่ลงทะเบียน หรือ ลงทะเบียนไม่ถูกต้อง) (2) การเพิ่มประสิทธิภาพระงับการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ผิดกฎหมาย (3) การจัดทำฐานข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบและส่งข้อมูลการทำผิดกฎหมาย (4) การจำกัดธุรกรรมทางการเงินสำหรับ SIM ผิดกฎหมาย หรือ SIM ต้องสงสัย และ (5) การใส่เครื่องหมาย + สำหรับการโทรที่ต้องสัย
ในส่วนของกระทรวงดิจิทัล จะใช้มาตรการเชิงรุก ตัดวงจรอาชญากรรมออนไลน์ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น ใช้ระบบ Social listening ในการตรวจสอบข้อมูลออนไลน์ ในช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ สื่อโซเชียลมีเดียทุกแพลต์ฟอร์ม ตรวจสอบกับระบบฐานข้อมูลของหน่วยงานกำกับดูแล ผู้ถือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากพบการกระทำความผิด หรือเข้าข่ายผิดกฎหมาย เจ้าหน้าผู้เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมาย หรือดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดทันที เพื่อป้องกัน ตัดวงจรการกระทำความผิด ไม่ให้ขยายผลกระทบประชาชนในวงกว้าง
ในการทำงาน จะดำเนินการทางกฎหมายอย่างบูรณาการ เช่น กรณีคนร้ายที่ชักชวนและหลอกลวงประชาชนลงทุนผ่านสื่อสังคมออนไลน์อย่างผิดกฎหมาย มีโทษหนัก อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน จำคุก 10 ปี และกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จำคุก 5 ปี เป็นต้น
สำหรับประชาชนที่พบปัญหาภัยออนไลน์สามารถสามารถแจ้งกับกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ที่ 1212 หรือ https://facebook.com/DESMonitor เพจอาสาจับตาออนไลน์ หรือ แจ้งความออนไลน์ได้ตลอด24 ชั่วโมง ผ่านเว็บไซต์ https://thaipoliceonline.com หรือ โทร 1441 ตำรวจไซเบอร์