ชิมปลากะพงยักษ์ ที่ “ขาวผ่องฟาร์ม” ฉะเชิงเทรา – สันติ อิ่มใจจิตต์

สันติ อิ่มใจจิตต์

ชื่อ ขาวผ่องฟาร์ม
เจ้าของ คุณประโยชน์ โสรัจจกิจ
สถานที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ฟาร์มอยู่เลขที่ 55/5 หมู่ 3 ตำบลท่าพลับ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา โทรศัพท์ 08-4351-4165

ในบรรดาเชฟทำอาหารแบบไทยๆ ที่ผมนิยมชมชอบก็ต้องเป็นฝีมือของเชฟไก่ คุณสิริภาภัค แซ่เฮง อาหารทุกจานที่ยกออกมาจากครัว Kai Chef House อาคารชาญอิสสระ 2 และอีกแห่งที่อาคาร T-one สุขุมวิท นั้น รสชาติอร่อยมากจนต้องสอบถามเคล็ดลับจากเชฟไก่ว่ามีวิธีการทำอย่างไรอาหารจึงอร่อยได้ถึงขนาดนี้

ได้ความว่านอกจากฝีไม้ลายมือของตัวเองที่ต้องศึกษาและฝึกฝนรวมทั้งประสบการณ์ต่างๆ แล้ว เครื่องปรุงที่ดีและวัตถุดิบที่นำมาใช้นั้นสำคัญมากที่สุด โดยเฉพาะวัตถุดิบประเภทปลาที่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพนั้น คุณไก่เธอได้ไปเสาะหามาเพื่อให้บริการลูกค้าจนได้พบแหล่งผลิตสำคัญ ที่ผมจะแนะนำในวันนี้

สถานที่เชฟไก่พาไปนั้น คือ ขาวผ่องฟาร์ม ของคุณประโยชน์ โสรัจจกิจ ที่เมื่อศึกษาจบจาก มศว.บางแสนแล้วได้เข้าทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์ในรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งนานถึง 14 ปี แต่ใฝ่ฝันอยากจะมีธุรกิจของตัวเอง จึงลาออกแล้วมาตั้งร้านเป็นเอเย่นต์ขายอาหารปลาและกุ้งนี่แหละจึงทำให้เป็นจุดเริ่มต้นในการทำฟาร์มปลาจนโด่งดังเป็นที่รู้จักทั่วประเทศจนถึงทุกวันนี้

ในฐานะที่คุณประโยชน์เป็นคนพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราจึงหาซื้อที่ดินมาทำฟาร์มปลา ฟาร์มกุ้ง โดยมีวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลไม่เหมือนใครว่าถ้าจะเลี้ยงปลากะพงเล็ก ซึ่งเป็นปลาขนาดที่ขายตามร้านอาหารทั่วๆ ไป แม้จะเป็นตลาดที่ใหญ่ ตลาดมีความต้องการสูง มีระยะเวลาการเลี้ยงสั้นเพียง 4-5 เดือน

แต่ด้วยขีดจำกัดเมื่อปลากะพงมีน้ำหนัก 7-9 ขีด ก็ต้องขาย ซึ่งถ้าหากช่วงนั้นตลาดมีผลผลิตมาก ราคาขายก็ต้องตกต่ำ แตกต่างจากการเลี้ยงปลากะพงยักษ์ขนาด 3-5 กิโลกรัม แม้ว่าจะต้องใช้เวลาเลี้ยงนาน 18-24 เดือน แต่ก็สามารถขายได้ตลอดเวลา จะขายช่วงไหนก็ได้ ถ้าราคาไม่ดีก็ไม่ขาย ยิ่งเลี้ยงโตมากเท่าใดก็ยิ่งได้ราคาสูง รสชาติปลาก็อร่อย

แต่ก็มีปัญหาด้วยขนาดของปลาใหญ่ ทำให้ลูกค้าเข้าถึงได้ยาก เพราะมีผู้บริโภคน้อยมากที่จะซื้อปลาขนาด 5-9 กิโลกรัม ไปทำอาหารรับประทานเพียงมื้อเดียว ทำให้มีความคิดว่าต้องใช้วิธีแปรรูปโดยแล่ปลากะพงยักษ์เป็นชิ้นๆ แพ็คเกจจิ้งขนาดเล็ก เพื่อสะดวกต่อผู้บริโภคซื้อไปประกอบอาหารแต่ละมื้อ

เทคนิคการเลี้ยงปลากะพงยักษ์ให้ได้ผลผลิตที่ดีของคุณประโยชน์นั้น ต้องเริ่มจากสายพันธุ์ปลาต้องดี บ่อเลี้ยงต้องมีการปูพื้นด้วยผ้าใบกันน้ำ ทำให้น้ำไม่เน่าเสียง่าย น้ำที่นำเข้ามาจากแม่น้ำบางปะกงที่มีทั้งน้ำเค็ม น้ำจืด น้ำกร่อย ต้องนำเข้ามาพักเอาไว้แล้ววัดค่าคุณภาพของน้ำก่อนที่จะนำมาไว้ในฟาร์ม โดยต้องสะอาดและมีคุณภาพดีตลอด มีการดูดเลนที่กลางบ่อ

ซึ่งผลตอบแทนในท้ายที่สุดคือได้ผลผลิตที่ดี ส่งผลให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในสินค้า ถือเป็นการยกระดับคุณภาพของสินค้าด้วยและภายในฟาร์มยังได้นำเทคนิคจากญี่ปุ่นมาใช้ คือ การเจาะเลือดปลาแบบญี่ปุ่นที่เรียกว่า อิเคะ จิเมะ เพื่อนำเลือดออกจากตัวปลา ทำให้ปลามีความสด ไม่คาว และเนื้อขาวใสมีผิวสัมผัสที่ดีโดยคุณภาพของปลานั้น

สามารถรับประทานสดๆ ได้เป็นเกรดปลาซาซิมิไม่น้อยหน้าปลาที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยผ่านการแล่จากโรงงานที่ได้รับมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา มาตรฐานฮาลาล มาตรฐาน GMP และ HACCP

ไม่ใช่อธิบายให้ฟัง คุณประโยชน์ยังได้ให้พนักงานมาแล่ปลากะพงสดๆ ให้ได้ชิมต่อหน้าต่อตาโดยที่มีการเจาะเลือดออกจากตัวปลาแล้วแล่เป็นชิ้นบางๆ ขนาดเดียวกันกับปลาแซลมอนให้ได้ชิม แทบไม่น่าเชื่อเลยครับ เพราะได้ชิมเพียงแค่ชิ้นแรกก็แปลกใจ นอกจากไม่คาวแล้ว เนื้อของปลายังเด้งกรอบ หวาน ไม่เละ เคี้ยวสนุก สู้กับปลาแซลมอนได้อย่างสบายๆ ครับ

มาถึงฟาร์มปลาขาวผ่องทั้งทีจึงขอร้องให้เชฟไก่ผู้นำทาง ปรุงอาหารจากปลากะพงยักษ์ให้ได้ชิม ซึ่งเมนูแรกที่ทำออกมาให้ชิม คือ ปลากะพงยักษ์ต้มขมิ้น ซึ่งเมนูนี้จะไม่เผ็ดจิ๊ดจ๊าดเหมือนต้มยำ เป็นสูตรของทางภาคใต้ คือ ไก่ต้มขมิ้น มีรสชาติเผ็ดอ่อนๆ เปรี้ยวนิดๆ เค็มหน่อย เหมาะสำหรับซดร้อนๆ เพื่อสุขภาพ สำหรับเนื้อปลาคงไม่ต้องบรรยายให้ได้ทราบว่าทั้งหวาน ทั้งหอม ทั้งมัน ซดเพลินๆ จนต้องขอต่ออีกถ้วยด้วยซ้ำไป

เมนูต่อมา คือ สลัดปลากะพงย่าง เชฟไก่จะนำปลากะพงยักษ์ที่แล่เป็นชิ้นๆ หมักพริกไทย เกลือ ฯลฯ แล้วนำมาจี่ในกระทะ เสิร์ฟกับน้ำสลัดแบบใสกับผักสด เป็นอาหารคลีนเพื่อสุขภาพอีกด้วย

ที่ขาวผ่องฟาร์ม ไม่ใช่มีแต่เพียงปลากะพงยักษ์เท่านั้น ยังมีกุ้งขาวแวนนาไม ปลากดคัง ฯลฯ อีกด้วย จึงขอร้องให้เชฟไก่ทำผัดฉ่าปลากดคัง ให้ชิม เนื้อของปลากดคังจากขาวผ่องฟาร์ม เนื้อจะแน่นหวานนุ่ม ไม่มีกลิ่นคาวเลย

โดยนำไปลวกน้ำร้อนเพื่อล้างเมือกปลาออกแล้วผัดกับพริกแกงจากจังหวัดกาญจนบุรีใส่กระชาย เมล็ดพริกไทยสด ใบมะกรูด มะเขือพวง ฯลฯ ก็จะได้รสชาติที่อร่อยมาก เหมาะสำหรับเป็นกับแกล้มหรือกินกับข้าวสวยร้อนๆ อย่างยิ่ง

ผลิตภัณฑ์หลักของขาวผ่องฟาร์มได้แก่ ปลากะพงยักษ์ และผลิตภัณฑ์รองคือ ปลากดคัง กุ้งขาว โดยปลากะพงยักษ์ มีทั้งที่ตัดแต่งแช่แข็งและตัดแต่งพร้อมปรุง เหมาะสำหรับบรรดาเจ้าของร้านอาหาร จะหาซื้อมาให้บริการลูกค้า เพราะรสชาติดี สด สะอาด ราคาไม่แพง

มีร้านอาหารดังๆ ใช้ปลาจากขาวผ่องฟาร์มนำไปประกอบอาหารขายให้ลูกค้าก็เช่น ร้านเจี่ยท้งเฮง เชียงใหม่ ร้านแม่ศรีเรือน KAI Chef House ฯลฯ

เขียนมาให้อ่านตั้งนาน ผมเชื่อว่าหลายท่านคงอยากจะหาซื้อเนื้อปลาจากขาวผ่องฟาร์มมาชิม แล้วจะหาซื้อได้ที่ไหนไม่ยากครับ มีขายที่ร้านโกลเด้นเพลส ฟู้ดแลนด์ กูร์เมต์ มาร์เก็ต ดูโลโก้ของบริษัทขาวผ่องฟาร์มที่ถุงบรรจุ นำไปประกอบอาหารจะได้รสชาติของเนื้อปลาที่อร่อย สะอาด ครับ



Written By
More from pp
“กกล.สุรสีห์” จับกุมเเรงงานต่างด้าว 63 คน ชายเเดนกาญจนบุรี
10 เมษายน 2564-กกล.สุรสีห์ โดย ฉก.ลาดหญ้า ร่วมกับ สภ.สังขละบุรี, สภ.เมืองกาญจนบุรี, ร้อย.ตชด.134 เเละฝ่ายปกครอง จัดชุดลาดตระเวน, จรยุทธ์,...
Read More
0 replies on “ชิมปลากะพงยักษ์ ที่ “ขาวผ่องฟาร์ม” ฉะเชิงเทรา – สันติ อิ่มใจจิตต์”