“กาลครั้งหนึ่ง” เมื่อไม่นาน – เปลว สีเงิน

www.plewseengern.com

เปลว สีเงิน

โทษที……….
หลังครอบรอบปีที่ ๒๖ ขึ้นปีที่ ๒๗ ของไทยโพสต์เมื่อ ๒๑ ตุลา.ผมก็หายต๋อมไป ๓-๔ วัน โดยไม่บอกกล่าว
ไปทอดผ้าป่า (บังหน้า) แล้วพากันไปเที่ยวตามประสาคนรุ่นเก่าที่เอาชาติบ้านเมืองต่อน่ะครับ
ก็ตั้งใจจะโพสต์เล่าโน่น/นี่ให้ฟัง……….แต่อย่างว่า ถนัดแต่นั่งจิ้มคอมฯ หน้าจอใหญ่ๆ พอจิ้มผ่านมือถือจอเล็กๆ ก็จิ้มผิด-จิ้มถูก ใจเหนื่อย เมื่อยลูกตา ก็เลยเลิกจิ้มส่งเดชไปเลย

กลับมา ๒๕ ตุลา.ผมจำไม่ได้ว่า ๑๘ ปีที่แล้ว มีเหตุการณ์อะไรบ้าง ที่ต้องทบทวนถึง?
ต่อเมื่อดูข่าว ทักษิณออกคลับเฮาส์ นักข่าวหญิง ช่อง ๓ “คุณฐปนีย์” ร่วมสนทนาด้วย เธอถามเรื่องชุมนุมหน้าโรงพักตากใบ นราธิวาส เมื่อ ๒๕ ตุลา.๔๗

ซึ่งตอนนั้น “ทักษิณเป็นนายกฯ”…….
“พลเอกประวิตร” เพิ่งขึ้นมาเป็นผบ.ทบ.ต่อจาก “พลเอกชัยสิทธิ์ ชินวัตร” ญาติผู้พี่ทักษิณ ที่เลื่อนขึ้นไปเป็นผบ.สูงสุด
การสลายการชุมนุม และการควบคุมตัวผู้ชุมนุมวันนั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปเป็นร้อย!

ทักษิณบอก ความจำเขากลับมาดีเหมือนเดิมแล้ว และเล่าเหตุการณ์วันนั้นให้ฟัง
“….ผมรู้ว่า มีการจับ แต่ไม่รู้ว่าจับไปไหน ไม่มีใครรายงาน แต่มาทราบทีหลังว่า มีการตายเกิดขึ้น

และยังมีการลำเลียงผู้ต้องหาที่นำไปซ้อนกันจนอาจขาดอากาศหายใจ เรื่องนี้ผมไม่รู้ว่าทำวิธีนี้ จากนั้นถูกเกลียดชังจากชาวมุสลิมที่นั่น

แต่มาทราบทีหลัง พวกเขาเองทราบว่าเป็นการกระทำของทหารที่ฝ่ายไม่เอาผม ซึ่งผมไม่รู้ว่าใครสั่งการอะไร รู้แค่มีการจะบุกเอาคนที่ชุมชนแต่จากนั้นไม่รู้

อย่างไรก็ตาม แม้ไม่ได้สั่งการ แต่ในตอนนั้นเป็นนายกฯต้องขอโทษพี่น้องชาวมุสลิม…….”

“……ส่วนเรื่องการชดเชยผู้สูญเสียนั้น ให้ไปถามพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ วันนี้เลย
ตอนนั้นเป็น ผบ.ทบ.อยู่ว่าจะชดเชยอะไร เพราะมันเป็นหน้าที่เขา ตอนนี้ผมไม่ได้เป็นอะไรแล้ว

วันที่เสียหายมันอยู่ในมือของทหาร และคนที่มาพูดกับผมตอนเจอที่เยอรมนี ที่เป็นสันติบาลมาเลเซียนั้นเขารู้ว่า มีคนพร้อมที่จะล้มผม จนมี กปปส.ออกมา”

ฟังแล้ว ขอโทษ…อยากถุยใส่หน้า!
บอกตรงๆ ระยะหลัง ผมขยะแขยง สายพันธุ์ “มนุษย์ลวงโลก สู่การล่มชาติ” ของทักษิณ จนตั้งใจว่า ถ้าไม่จำเป็น จะไม่เหยียบขยะชิ้นนี้ให้เปื้อนเท้า

“โจร” ยังมี “สัจจะโจร”
แต่ทักษิณ ควรให้เป็นอะไร ก็คิดกันเอา การนำเรื่องที่ตัวเองรู้เห็น และรับผิดชอบโดยตรง แต่เมื่อเรื่องนั้น ส่งผลลบ กลับพูดหน้าตาเฉย….

“ผมไม่รู้เรื่อง…ผมไม่ได้สั่งการ เป็นการกระทำของทหารฝ่ายไม่เอาผม จะล้มผม จนมีกปปส.ออกมา…การชดเชยผู้สูญเสียให้ไปถามพลเอกประวิตร เป็นหน้าที่เขา”

เนี่ย…
โจร อย่างน้อยมันยังเป็นคน แต่ที่ปล้อนปลิ้น เอาดีใส่ตัว ชั่วโยนคนอื่น โดยไม่กระดากปาก/ละอายใจ
สัตว์ประเภทนี้ จัดอยู่ในชั้นไหน ตัดสินกันเอาเอง

คนร่วมเหตุการณ์ และร่วมรู้เห็น ปัจจุบันนี้ ยังมีชีวิตอยู่ ทักษิณไม่คิดบ้างหรือว่า
ถ้าเขาฟังอยู่ อดรนทนไม่ได้ เอาความจริงมาแฉ มันจะเสียทั้งหมาทั้งคน?

รุ่นเก่า บางคนอาจเลือน แต่รุ่นใหม่ ที่ยังไม่เกิดและเพิ่งเกิดไล่หลัง ยังไม่รู้เรื่อง-รู้ความ
เมื่อฟัง แม้รู้ว่าโกหก…….
ในความเป็นขบวนการแดงส้ม “ล่มชาติ-ล้มสถาบัน” ใจพวกเขาพร้อมเชื่อเต็มร้อยอยู่แล้ว

และพร้อมนำไปโพสต์ ไปแชร์ ไปขยายความต่อ เป็นประวัติศาสตร์ ตะแบงบันทึก ฉบับ “ทักษิณแฉทหารฆ่าหมู่ประชาชน”!

กรณี “ตากใบ”…..
ทักษิณเคยให้สัมภาษณ์หลายครั้ง ผมจะนำมาไล่เลียงให้ดู แล้วช่วยกันตัดสินว่า ทักษิณเกี่ยว, สั่งการ, รู้เห็นหรือไม่?
และในฐานะ “นายกรัฐมนตรี” ต้องรับผิดชอบมั้ย?

คือหลังเกิดเหตุ ตอนเช้า ๒๕ ตค.๔๗ ตกบ่าย ทักษิณบินไปนราธิวาสทันที มีบันทึกไว้ว่า…
เวลา ๑๖.๐๐ น.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พร้อมด้วย พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันต์ รมว.กลาโหม นายโภคิน พลกุล รมว. มหาดไทย และนายยงยุทธ ติยะไพรัช เลขาฯ นายกฯ

เดินทางจากสนามบินกองทัพอากาศ บน.๖ ไปดูเหตุการณ์ที่ อ.ตากใบ
ก่อนขึ้นเครื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า ……

“เดินทางไปเพื่อดูเหตุที่เกิดขึ้น ได้ติดตามเหตุการณ์มาตั้งแต่ช่วงเช้า จึงจะไปดูสถานการณ์ และจะเรียกเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่มาร่วมประชุม เพื่อให้ดำเนินงานต่อไปได้ รวมทั้งไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้วย

ผมต้องการให้มั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่ว้าเหว่ และสามารถทำงานตามหน้าที่ได้
ตอนนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกว่าจะเรียบร้อยแล้ว ได้มีการสลายการชุมนุมไปแล้ว

…….เท่าที่ได้รับรายงานเบื้องต้น ๖-๗ คน ที่จับกุมได้ เกี่ยวข้องกับคดีปล้นปืนและยุยงปลุกปั่นชาวบ้าน ซึ่งมีเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้นมาแล้ว ๒-๓ ครั้ง

เช่น กรณีโจรนินจา ผมได้รับรายงานมาตลอดจึงบอกทางเจ้าหน้าที่ไปว่า”เราปล่อยให้มีการไม่เคารพกฎหมายบ้านเมืองไม่ได้อีกแล้ว”

อยากให้บอกไปทางพี่น้องไทยมุสลิมทางชายแดนภาคใต้ทุกคนว่า
“ทุกเหตุการณ์ผมรับรู้”
และจะไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ ไปรังแกประชาชนเด็ดขาด

แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ทำตามกฎหมายบ้านเมือง ทุกคนต้องเคารพ หากใครถูกจับ ก็มาบอกว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อย่างนี้ยอมไม่ได้ ผมคงไม่บอกว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเป็นใคร ต้องมีการสอบสวนต่อไป

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับคดีปล้นปืน จับได้หลายคนแต่ยังปฏิเสธอยู่ ต่อไปนี้ จะดำเนินการตามกฎหมาย อย่างเด็ดขาด

…เวลานี้ต้องเข้มข้น เพราะเราเชื่อว่าจะดูแลเหตุการณ์ได้ ขณะนี้ มีผู้ใหญ่อยู่ในพื้นที่ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อดูแลปัญหา
เราให้เวลามามากพอสมควร จะต้องมีมาตรการเด็ดขาดอย่างแน่นอน”

ปี ๒๕๕๔ ทักษิณ “สารภาพ” จากดูไบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ “กรือเซะ-ตากใบ”
เขาไม่ได้เกลียดชังหรือไม่ชอบพี่น้องชาวใต้เป็นการส่วนตัว สิ่งที่เกิดขึ้นวันนั้น เห็นความรุนแรงที่เกิดขึ้น

“ผมก็เลยใช้ความรุนแรงตอบไป อันนี้ก็ต้องขออภัย”
แต่ว่าไม่ได้ทำเพราะความไม่ชอบ…
“แต่มันเป็นนิสัยตำรวจ เจอใช้ความรุนแรงมา ก็เลยใช้ความรุนแรงกลับไป”

ในปีเดียวกัน ทักษิณให้สัมภาษณ์ “สเตรตส์ไทมส์” ว่า…. “เสียใจต่อการกระทำที่รุนแรงต่อชาวมุสลิมในยุคที่ผมเองเป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นความผิดพลาดที่ใช้นโยบาย “กำปั้นเหล็ก” มากกว่า “ถุงมือกำมะหยี่”

ปี ๒๕๕๔ เช่นกัน ทักษิณให้สัมภาษณ์ “ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา” ในรายการ ‘ที่นี่ตอบโจทย์’ ยอมรับว่า
“ผมใช้ความเป็นตำรวจมากไป”
ขอโทษต่อชาวมุสลิมชายแดนใต้ที่ใช้ความรุนแรง

๒๒ กพ.๖๔ ประเดิมคลับเฮาส์กับกล่ม CARE ครั้งแรก กับคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ ปัตตานี จนมีผู้เสียชีวิตมากกว่าร้อยศพ

ทักษิณโยนไปที่ทหารว่า…..
“เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่ตอนนั้น อยู่ในการควบคุมของทหาร ผมก็ได้รับรายงาน ก็เสียใจ จำไม่ค่อยได้”

จนวานซืน ๒๕ ตุลา.๖๕ นี่แหละ ทักษิณบอกความจำดีแล้ว ความจำที่กลับคืน คือ การโยนอุจจาระใส่ทหารและบิ๊กป้อม!

ครับ….
เส้นทางความชั่วมันคดเคี้ยว เล่าที่เดียวไม่จบ วันนี้เพียงปูพื้น ประเด็นที่อยากให้สังเกต จะเห็นว่า ความจำที่กลับมาตลบตะแลงของทักษิณ

มี ๒ เป้าหมายใหญ่
๑.เน้น “โทษทหารทำ” เขาไม่รู้เรื่อง และ
๒.เน้น “พลเอกประวิตร” ต้องรับผิดชอบ และให้รัฐบาลนี้ชดเชย

“สันดาน” พูดได้คำเดียว!
วันนั้น ผมดูข่าวโทรทัศน์ จำได้ ทักษิณหน้าบานแบบสะใจให้สัมภาษณ์ ใจความประมาณว่า

“มาเข้าแผนที่เตรียมรอรับมือไว้ล่วงหน้า เพราะรู้แล้วว่าพวกนี้ต้องมาบุกโรงพักแน่”

เพราะก่อนหน้า ตำรวจไปบุกค้นจับผู้ต้องที่สงสัยว่าเอาปืนไปขายโจร มา ๖ คน ขังไว้ที่โรงพัก”

เหตุการณ์ “ไฟใต้” ลุกฮือ ตั้งแต่ปี ๔๕ หลังทักษิณเป็นนายกฯ จนเกิดเหตุการณ์ปล้นปืน ฆ่าทหาร

ทักษิณสั่งยุบศูนย์ ศอ.บ.ต.และ ศูนย์ พตท.๔๓ ที่ควบคุมดูแลความสงบ ๓ จังหวัดใต้
โอนอำนาจให้ไปอยู่ภายใต้อำนาจการปกครองของ “ผู้ว่าฯ บูรณาการ” ที่เรียก ผู้ว้าฯ CEO ตามนโยบายทักษิณ

ให้ตำรวจเป็นกำลังหลักในการดูแล ถอนทหารออกไป ให้เหลือเพียงหน่วยภายใต้กฎอัยการศึกเท่านั้น
มีการส่งตำรวจ “มือปราบมหากาฬ” ลงไปตามล่ากลุ่มโจรปล้นปืน นำโดย พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้การกองปราบสมัยนั้น นำทีมลงไป

“นิวยอร์กไทมส์” รายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐเปิดเผยว่าจำเป็นต้องสังหารเพื่อกำราบและสั่งสอน ในห้วงเวลาที่ปัญหาภาคใต้กำลังปะทุรุนแรงขึ้น

กองกำลังนักรบญิฮาดเริ่มปรากฏตัว พล.อ.พัลลภบอกว่า “ตนขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”
ส่วน “พลเอกชวลิต” รมว.กลาโหม ขนานนาม “พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี” หัวหน้าทีมสังหารกรือเซะว่า “แมคอาเธอร์เมืองไทย”

วันนี้ เอาเท่านี้ก่อน ยังไม่ถึงตอน “ประธานรัฐสภา ชวน หลีกภัย” จูงมืออัยการให้รีบฟ้องศาลก่อนคดีที่ทักษิณฟ้องจะขาดอายุความเลย

พรุ่งนี้ ค่อยมาตีโจทย์กันต่อนะ

เปลว สีเงิน

๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๕



Written By
More from plew
“รุ่นใหม่” กับคำ “ล้นกรอบ” – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน ถึงถูก “ตีตก” แต่ก็ “คุ้ม” เนอะ! กับการที่ขบวนการสามนิ้ว “ปิยบุตร-ไอติม” และใครต่อใครอีก ๒-๓ คน...
Read More
0 replies on ““กาลครั้งหนึ่ง” เมื่อไม่นาน – เปลว สีเงิน”