เปลว สีเงิน
ใครไม่อ่านวันนี้ ห้ามคุยเป็นแฟนคลับ “เปลว สีเงิน”!
เนื้อหาทั้งหมด นำมาจาก The room 44 ประทับใจหาดูได้ในช่องยูทูป
“คุณอัญธิญาน์ เนติระพีศักดิ์” สัมภาษณ์ท่าน “ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม” อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด
หนังบู๊ ไม่ต้องพล่าม เข้าเรื่องเลย
อัญธิญาน์:กรณี ป.ป.ช.มีมติรับเรื่องชั้น ๑๔ ไว้ไต่สวน ท่านมองประเด็นนี้อย่างไรคะ?
ปรเมศวร์:ก็ชอบด้วยกฎหมายครับ คือข้อเท็จจริงมันถูกมาแต่ต้น การจะเอาผู้ต้องขังไปรักษานอกเรือนจำ มันไปครั้งคราว ไม่ใช่ไปยาว ไม่เคยมีอันไหนที่ไปยาวนะครับ
ถ้าไปยาวต้อง “ขออนุญาตศาล”
แต่นี่จงใจหลีกเลี่ยงที่จะไม่ปฎิบัติตามระเบียบ!
คือการลงโทษ ก็ต้องอยู่ในเรือนจำ อันนี้ชัดเจน ประการสำคัญ ผมมองว่า ทั้งราชทัณฑ์ ทั้งอธิบดี โรงพยาบาลตำรวจ โดนกันหมดแหละ
จริงๆ เนี่ย ผู้ “บังคับใช้กฎหมายราชทัณฑ์” คือรัฐมนตรียุติธรรม ท่านต้องรับผิดชอบ
แต่ที่สำคัญที่ทุกคนมองข้ามไป “คุณทักษิณ” ต้องโดนด้วย”!
ที่จริง ผมยังแปลกใจ ทำไมไม่มีชื่อคุณทักษิณ
คุณทวี ผมไม่ค่อยแปลกใจ เหตุผล…จำเรื่องกำนันนก (นครปฐม) ได้มั้ย?
ตำรวจที่พา “กำนันนก” หนีน่ะ ติดคุกหมดเลย “กำนันนก” ก็ติดเพราะ “เป็นผู้สนับสนุน”
ก็นี่ไง…”คุณทักษิณ” ก็เท่ากับ “ผู้สนับสนุน” ต้องไต่สวนไปพร้อมกัน ไม่มีอะไรเป็นอคตินะ กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย
เมื่อกฎหมายเป็นกฎหมาย ก็ต้องเป็นอย่างที่ผมว่า จับตาดูให้ดี เพราะจริงๆ แล้ว มัน (ทักษิณ) ต้องโดนเหมือนกัน
คือ “ร่วมกันกระทำความผิด” แต่เอกชนเนี่ย เขาถือเป็น “ผู้สนับสนุน” นี่คือลักษณะวิธีคิด
อัญธิญาน์ :ท่านว่าคดีนี้ถูกมาแต่ต้น แต่แปลกใจนิดนึงว่าไต่ส่วน ๑๒ คน ทำไมไม่มีชื่อคุณทักษิณ?
ปรเมศวร์:ก็นั่นน่ะซี ผมว่ามันต้องมี หรืออาจไต่ส่วนไปก่อน….คือผมยกตัวอย่าง “กำนันนก” เรื่องเดียวนี่แหละ เรื่องอื่นไม่ต้องพูดถึง
ทำไมกำนันนกโดนฟ้องปราบปรามทุจริต เพราะถือว่า “สมคบกันทำความผิดกับเจ้าพนักงาน”
แต่เมื่อกำนันนกไม่ได้เป็นเจ้าพนักงาน เราก็ลงโทษในฐานะ “ผู้สนับสนุน”
ประเด็นคดีนี้ อยู่ตรงนี้ ไม่ได้อยู่ตรงอื่นเลย!
อัญธิญาน์:เป็นไปได้มั้ย ป.ป.ช.อาจเรียกมาไต่สวนมากกว่า ๑๒ คน?
ปรเมศวร์:มีโอกาสครับ คือการไต่สวนของป.ป.ช.เขาจะสอบพยานจนครบถ้วนกระบวนความ ได้ข้อเท็จจริงแล้ว เขาจะดึงออกมา
ใครที่เกี่ยวข้อง ควรเป็นผู้ต้องหา เขาก็ดึงขึ้นมา เหมือนคดี “อธิบดีกรมอุทยาน” เรานึกว่าจะดำเนินคดีกับท่านอธิบดีคนเดียว
ปรากฏว่า “เจ้าพนักงาน” ที่จ่ายเงินก้อนหลายล้านน่ะ ก็ถูกดำเนินคดีด้วย เนี่ย…เป็นเหตุหนึ่งที่บอกว่าคดีป.ป.ช.จะช้า เพราะต้องสอบทั้งหมด
เมื่อได้ข้อเท็จจริงแล้ว ก็จะดึงเอาคนที่มีส่วนร่วมออกมาเป็น “ผู้ถูกกล่าวหา”
เพราะฉะนั้น คดีนี้ ถ้าป.ป.ช.เอาจริง เชื่อเถอะ…คุณทักษิณต้องโดนเป็นผู้ต้องหาอีกคนนึง
คุณทวีเนี่ย…ก็ไม่รู้จะมองยังไง ปกติ เราไม่คอยเห็นว่า รัฐมนตรีผู้มีความรับผิดชอบตามกฎหมายและเป็นผู้บังคับใช้ และท่านรู้เรื่องอยู่ตลอด ก็ควรจะโดนด้วย
ถ้าจะให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ ก็ต้องเป็นอย่างนั้น และระเบียบราชการบางตัวเนี่ย ผมว่ายังขัดต่อกฎหมาย แต่ยังไม่มีนักร้องคนใดที่จะไปร้อง
อาจจะร้องต่อ “ศาลปกครอง” ว่าออกระเบียบมาขัด นี่ออกระเบียบมาใหม่อีกแล้ว “ให้จำคุกที่บ้าน”
คำถามคือ “ทำเพื่อใคร” ใช่มั้ย ทุกวันนี้ ทุกคนสงสัยหมดเขาไม่ไว้ใจรัฐบาลว่า “ทำเพื่อใคร?” ตั้งแต่ต้นมาตลอดเลย
ผมว่าสถานการณ์บ้านเมืองน่าเป็นห่วง เล่นกันจนเละตุ้มเป๊ะหมดแล้ว ประชาชนแทบจะไม่ค่อยได้อะไรเลย
อัญธิญาน์:ทั้งรัฐมนตรี ทั้งราชทัณฑ์ยืนยันว่าคุณทักษิณป่วยจริง รพ.กรมราชทัณฑ์ไม่สามารถรักษาได้ เหตุผลนี้ ฟังไม่ขึ้นใช่มั้ยคะ?
ปรเมศวร์: ไม่ได้หรอกครับ ต้องเอา OPD การ์ดมาดูป.ป.ช.คงส่งให้แพทยสภาวินิจฉัย การจ่ายยา การรักษา กระบวนการเป็นอย่างไร
วันนี้นะครับ ความจริงมีหนึ่งเดียว คุณจะว่ายังไงก็ไม่มีใครเชื่อ ถ้าไม่เปิดเผยออกมาได้ พิรุธตั้งแต่ไม่ยอมส่ง OPD การ์ดแล้ว
ถ้าป่วยจริง ทำไมไม่ส่ง ส่งแต่ทีแรกมันก็จบ แต่นี่มันเห็นชัดเจน ปกป้องกันเกินไป
บ้านเมืองเรา ถึงจุดที่ต้องทำความจริงให้ปรากฎ เพราะหลายเรื่อง เริ่มจะปรากฎออกมาแล้ว ประเทศไทยยังมีความหวังเนอะ
อัญธิญาน์:-ท่านพูดว่า ถ้าป.ป.ช.เอาจริง จะต้องไปถึงระดับคุณทักษิณและรัฐมนตรีได้ด้วยเพราะเป็นผู้สนับสนุน?
ปรเมศวร์:มันต้องโดน ฟันธงเลย คุณทักษิณต้องโดน ให้ไปเทียบกับคดี “กำนันนก” ดูซี
ป.ป.ช.เขาถูกบีบ ถ้าไม่เอาจริง ป.ป.ช.อาจจะโดนร้องเองก็ได้ กฎหมายแก้ใหม่แล้ว ตอนนี้ประชาชนสามารถฟ้องป.ป.ช.ได้
สมัยก่อนประชาชนฟ้องไม่ได้ ต้องยื่นต่อรัฐสภาให้เอาผิดต่อป.ป.ช.ตั้งแต่ท่านอาจารย์รังสรรค์ฟ้อง ศาลก็ยก ท่านพัชรวาทฟ้อง ศาลท่านก็ยก
เพราะกฎหมายสมัยนั้นเขียนว่า “การฟ้องคณะกรรมการป.ป.ช.ได้รับการคุ้มครอง”
แต่วันนี้ไม่มีใครได้รับการคุ้มครอง ผิดต้องโดนหมด!
ดังนั้น ผมยังเชื่อว่า บ้านเมืองมันถึงเวลา ปีหน้า…น่าจะไปได้ครับ
อัญธิญาน์:เชื่อมั่นการทำงานป.ป.ช.ชุดปัจจุบันมั้ยคะ?
ปรมเศวร:ผมยังเชื่ออยู่นะ เอาน่ะ…ถึงไม่ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ผมเชื่อว่าสถานการณ์มันบังคับละ เข้าตาบังคับ หลายๆ เรื่อง กำลังสุกงอมเต็มที่
“มันต้องโดน”…เราก็รอดูอีกนิดเดียว ไม่นานเกินรอ!
อัญธิญาน์:คุณสมชาย แสวงการ ระบุว่า เร็วๆ นี้จะมีข่าวดีประเด็นนี้ ท่านมองยังไงบ้างคะ?
ปรเมศวร์:ก็น่าจะเป็นจริง เห็นด้วยครับ วันนี้น่ะนะ มันหนีข้อเท็จจริงไม่พ้น
ตัวอย่างง่ายๆ คุณทักษิณพูดถึง “โกทร” ปราจีนบุรี บ้านใหญ่มันต้องกำจัด คนบ้านใหญ่เอาลูกหลานตัวเองเข้าดำรงตำแหน่ง
แล้วบ้านใหญ่ระดับประเทศ ไม่ใช่ตระกูลชินวัตรหรือ?
เห็นมั้ย มองให้ครบทุกมิติ มันไปไม่ได้แล้ว…วันนี้ ต่อไปนี้ พวกบ้านใหญ่ทั้งหลาย กำลังจะพังพินาศ
อัญธิญาน์:-นักวิชาการมองว่า ประเด็นนี้เป็นระเบิดเวลาทางการเมือง อาจทำห้รัฐบาลและคุณทักษิณเกมโอเวอร์ ท่านมองยังไงคะ?
ปรเมศวร์:ถูกต้อง เห็นด้วยครับ เพราะมันบิดมาแต่ต้นไง แล้วท่านายกฯ เองก็เสียรังวัดไปเยอะแล้ว เครดิตความน่าเชื่อถือไม่มี เราเห็นได้ ถูกวิพากษวิจารณ์ตลอด
ทำงานแต่ละชิ้น ไม่อ่านไอแพด ก็อ่านหน้าจอที่เขาเขียนไว้ให้ คือคนเป็นนักบริหาร โดยเฉพาะเป็นผู้บริหารประเทศ
ต้องเห็นความสำคัญประชาชนมากกว่าครอบครัว
เพราะครอบครัวใหญ่ คือประชาชน แต่พฤติกรรมของท่านนายกฯ ไม่เป็นอย่างที่เราคิด
เห็นมั้ย…หลายเรื่อง หลายครั้งที่ออกมา แม้แต่เรื่องกาลเทศะการแต่งกาย บางคนบอกเป็นเรื่องสไตล์
ไม่ใช่เรื่องสไตล์ครับ บุคลิกภาพ impresser มันเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดของผู้นำ ต่างชาติก็วิจารณ์
ผมไม่อยากวิจารณ์หรอก เฉยๆ คือเมื่อไม่ศรัทธาแล้วเราก็ไม่อยากยุ่งเท่านั้นเอง
อัญธิญาน์:-หลายฝ่ายฟันธง กรณีนี้ รัฐมนตรีถึงเจ้าหน้าที่รัฐ ติดคุกยกเข่ง เว้นคุณทักษิณ?
ปรเมศวร์:ไม่เว้น ผมยังยืนยันว่าไม่เว้น ผู้สนับสนุนเนี่ย ร่วมกันกระทำ ร่วมกันเพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์
ผมยกตัวอย่าง “กำนันนก” ไม่ได้ทำอะไรเลย ตำรวจพาหนี ผู้ต้องหาไม่ควรให้ตำรวจพาหนี ไม่ควรทำให้ตัวเองได้รับสิทธิพิเศษ
รู้อยู่แก่ใจ กลับมาเนี่ย…ลงจากเครื่อง ทักทาย ยิ้มแย้มแจ่มใส โบกไม้-โบกมือ เข้าโรงพยาบาล คอจะหัก….แล้วออกจากโรงพยาบาล
นักการเมืองเนี่ย ผมยังเชื่อ “คุณบรรหาร” นะ คุณบรรหารบอก “นักการเมืองต้องมีสัจจะ”
ผมกำลังจะถาม “ไหนบอกว่าจะเลี้ยงหลานไง?”
หลานใคร…เลี้ยงหลานคนไหน เรื่องอย่างเนี้ย ทำให้ประชาชนเขาเบื่อ ผมไม่ได้รังเกียจอะไรท่าน ถ้าคุณทักษิณจะนั่งเฉยๆ คอยบงการอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า
แต่วันนี้ออกมามาก จนทุกวงสังคมเขาจับตามองอยู่ เห็นมั้ยครับ คนเราน่ะ ไม่มีใครทำอะไรเราได้ จากตัวเราทำตัวเราเอง
อัญธิญาน์:กรอบระยะเวลาทำคดี ป.ป.ช.เขากำหนดไว้อย่างไรคะ หลังจากไต่สวนแล้ว จะมีขั้นตอนอย่างไรต่อไป?
ปรเมศวร์:ก็ต้องดู ไต่สวนนานแค่ไหน หลักฐานพร้อมก็ไม่นาน ไต่สวนแล้วก็ชี้มูล
ก่อนชี้มูล เรียกผู้ต้องหาไปชี้แจงข้อกล่าวหา ชี้แจงรอบแรกเนี่ย คนที่ถูกกล่าวหา จะถูกสอบในฐานะพยาน
พอรู้ว่ากระทำความผิด เขาก็จะชี้ในฐานะผู้ต้องหา หรือคนที่มีความผิดเล็กน้อย เขาอาจกันไว้เป็นพยาน
ถึงจุดนั้น ผมว่าเรื่องนี้ “ไม่น่าเกิน ๓ เดือน ๖ เดือน” เพราะพยานหลักฐานมีไม่เยอะ
๑.ใครอนุมัติให้ออกไป เอกสารก็มี
๒.ไปยังไง ระดับเป็นยังไง ป่วยจริง-ไม่ป่วยจริง หลักฐานก็อยู่ที่ OPD การ์ด เท่านั้นเอง
ผมว่าไม่นาน ก็จะเกิดการชี้เป้าอย่างชัดเจน หลังจากนั้น เป็นขั้นตอนของการดำเนินคดี
อัญธิญาน์:-อยากจะทิ้งท้ายอะไรถึงรัฐบาล เชิญค่ะ
ปรเมศวร์:ฮ่ะๆๆๆ ไม่ละครับ เขาเก่งๆ ทั้งนั้นเลย
พูดอะไรเขาก็ไม่ฟัง หมดเวลาที่จะเสนอความเห็นแล้ว เพราะพูดหลายเรื่อง เขาก็ตามกฎหมาย เรื่องนี้เขาก็ถูก เรื่องนั้นเขาก็ถูก ทั้งที่จริงๆ มันไม่ได้ถูกตั้งหลายเรื่อง
ก็ให้เขาดำรงไปด้วยความสบายใจของเขาละกัน
แต่ว่าผลสุดท้าย ผมยังเชื่อ “กฎแห่งกรรม” ใครทำอะไรไว้ ก็ต้องรับตามนั้น
เป็นไงครับ…!
“กระจ่างจบ-ครบประเด็น” ทั้งมุมกฎหมาย และมุมกฎกรรมกันแล้วนะ ขณะนี้….
“ป.ป.ช.-แพทยสภา” ดึง “สลักระเบิด” แล้ว
อีก ๓-๖ เดือน “กระเดื่องกรรม” ก็จะเด้ง…ตูมมมม!
เปลว สีเงิน
๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๗